สำนักข่าว CNN รายงานว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทางบริษัท SpaceX ได้ทำการส่งรถยนต์ Tesla ส่วนตัวของ Elon Musk รุ่น Roadster หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ‘Starman’ ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ โดยการส่งรถยนต์ส่วนตัวของ Elon Musk ขึ้นไปยังอวกาศในครั้งนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใดหากแต่เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบการจำลองระบบขนส่งพัสดุทางอวกาศที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยในปัจจุบันพบว่าเจ้า ‘Starman’ ยังคงโคจรอยู่หลังจากผ่านไป 4 ปี
ทั้งนี้จากการติดตามเส้นทางรถ ‘Starman’ บนเว็บไซต์ www.whereisroadster.com ระบุว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตำแหน่งของ ‘Starman’ อยู่ห่างจากโลกออกไป 234 ล้านไมล์ และอยู่ห่างจากดาวอังคารออกไป 200 ล้านไมล์ นอกจากนี้ยังระบุว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมารถ ‘Starman’ เดินทางในอวกาศมาแล้ว 2,000 ล้านไมล์ รวมถึงมีโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปแล้วถึง 2.6 รอบอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม NASA ได้เปิดเผยว่าจนกว่าจะถึงปี 2035 รถ ‘Starman’ จะยังไม่เข้าใกล้ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะจักรวาล อีกทั้งงานวิจัยฉบับอื่น ๆ ยังให้ความเห็นว่าโอกาสที่ ‘Starman’ จะเข้าชนโลกนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 22% หรือหากคิดเป็นระยะเวลาก็จะอยู่ราว 15 ล้านปีข้างหน้า และโอกาสที่จะชนกับดาวศุกร์หรือดวงอาทิตย์นั้นมีเพียงแค่ 12% เท่านั้น
ด้าน Elon Musk ประธานบริษัท SpaceX และ Tesla Motor กล่าว เขาต้องการที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับโลกของเราจึงได้ตัดสินส่งรถหรูส่วนตัวสู่อวกาศ อีกทั้งยังเผยถึงความหวังว่าในอนาคตมนุษย์จะสามารถตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์ดวงอื่นได้สำเร็จ และลูกหลานของตระกูล Musk จะเป็นผู้พา ‘Starman’ กลับมายังพิพิธภัณฑ์เพื่อทำการศึกษาต่อไป
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าว หากรถยนต์ของ Elon Musk เกิดพุ่งเข้าชนโลกจริง ก็หวังว่าจะการเกิดการกระแทกบริเวณชั้นบรรยากาศของโลก ในลักษณะเดียวกับการปะทะกันของเศษหินบนดาวเคราะห์ที่เราคุ้นเคย ซึ่งจะส่งผลให้เศษซากรถยนต์ถูกเผาไหม้ก่อนจะลงสู่พื้นโลก
อ้างอิง:
https://cnn.it/34OxkF9
https://bit.ly/3gDmhBE
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#technology