สำนักข่าว Business Insider รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยถึงอีเมลภายในจากบริษัท IBM ที่ถูกใช้เป็นหลักฐานที่ทางกลุ่มพนักงานที่ถูกเลิกจ้างใช้ในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัท IBM ในโทษฐาน “กีดกันทางอายุ” หรือ “Age Discrimination”
โดยเนื้อหาในอีเมลฉบับดังกล่าวระบุว่า คณะผู้บริหารมีการใช้คำเรียกพนักงานที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ว่าเป็นพวก “Dinobabies” และพนักงานกลุ่ม “Dinobabies” ควรจะสูญพันธุ์ไปจากบริษัทได้แล้ว นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า พนักงานที่มีอายุมากกว่า 50 ปี จะถูกแทนที่ด้วยพนักงานในวัยมิลเลนเนียล ที่มีอายุระหว่าง 24 – 40 ปี การพิจารณาคดีครั้งนี้ ถือว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างนายจ้างและแรงงานอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่ทางบริษัท IBM ได้ทำการไล่พนักงานที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ออกจากบริษัทมากถึง 20,000 คน ในปี 2018
จากประเด็นการฟ้องร้องดำเนินคดีในครั้งนี้ หนึ่งในคณะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท IBM ได้ให้ความเห็นว่า เมื่อโลกเปลี่ยน แรงงานก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย โดยพนักงานที่ถูกว่าจ้างจะต้องเข้าใจในเงื่อนไขของการจ้างงานที่เกี่ยวกับการทำสัญญาระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และสาเหตุที่บริษัทไล่พนักงานออก ไม่ได้มาจากเหตุผลของการที่พนักงานสูงวัยขาดทักษะในการเรียนรู้สื่อดิจิทัลแต่อย่างใด
ด้าน Chris Mumma โฆษกบริษัท IBM ได้กล่าวต่อสำนักข่าว Business Insider ว่า การจ้างงานของลูกจ้างในบริษัทนั้น ไม่ได้มีเงื่อนไขทางอายุเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่สาเหตุที่ทางบริษัทต้องคัดพนักงานออกนั้นเป็นเงื่อนไขทางการดำเนินการทางธุรกิจเท่านั้น
ขณะที่ Shannon Liss-Riordan ทนายความของกลุ่มพนักงานที่รวมตัวกันฟ้อง IBM ในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า การไล่พนักงานออกโดยการใช้อายุเป็นเกณฑ์ นั้นถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก อีกทั้งบริษัทยังพยายามใช้ข้อได้เปรียบทางกฎหมายเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้สำนักข่าว Reuters ยังได้ออกมาเปิดเผยถึง คำชี้แจงของศาลอุทธรณ์ที่ระบุว่า ตามบทบัญญัติเรื่องสิทธิแรงงาน พนักงานที่ลงชื่อในข้อตกลงการชดเชยการเลิกจ้าง หรือ Severance Agreements จะไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อยื่นฟ้องต่อบริษัทได้ (เป็นโจทก์ร่วม) โดยหากต้องการที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีฝ่ายโจทก์จะต้องแยกฟ้องเป็นรายบุคคล จากข้อบัญญัตินี้ จึงเป็นที่น่าสนใจต่อไปว่ากระบวนการในการดำเนินคดี จะมีความยากลำบากเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ในอนาคต
อ้างอิง:
https://bit.ly/3gGtPU4
https://nyti.ms/3oM0dZW
https://bit.ly/34Wvouj
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews