สำนักข่าว CNN รายงานว่า จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้มูลค่าของ Bitcoin ปรับตัวลดลงเกือบ 50% นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นต้นมา เฉกเช่นเดียวกันกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ หลังจากที่ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกมีทิศทางเลวร้ายลง อีกทั้งรัฐบาลของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศเริ่มออกมาตรการจำกัดและควบคุมการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน หากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา มูลค่าของ Bitcoin ซึ่งถือเป็น สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกปรับตัวลดลงกว่า 50% จากเดิม 68,990 เหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ที่ 35,380 เหรียญสหรัฐฯ ในปัจจุบัน เฉกเช่นเดียวกันกับ Ethereum สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดันที่ 2 ของโลกก็ปรับตัวลดลงไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีมูลค่าปรับตัวลดลงกว่า 30% นับตั้งแต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลที่ปรับตัวลดลงนั้น เกิดจากการที่นักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางนโยบายของภาครัฐในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะออกนโยบายทางการเงินเพื่อแก้ปัญหาภาวะเงินเฟ้ออย่างแข็งขันมากยิ่งขึ้น โดยการปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายในปี 2022 นี้
ขณะเดียวกันรัฐบาลในประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศก็เริ่มมีนโยบายในการจำกัดและกำกับดูแลการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น อาทิ ธนาคารกลางรัสเซียมีการเสนอมาตราการระงับการทำเหมืองขุดคริปโทเคอร์เรนซี โดยระบุว่าคริปโทเคอร์เรนซี ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางการเงินของประเทศ ในขณะที่รัสเซียถือเป็นประเทศที่มีเหมืองขุดคริปโตฯ ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
ด้านรัฐบาลอินเดียก็เตรียมที่จะออกกฎหมายแบนการใช้งานคริปโทเคอร์เรนซี แม้รายละเอียดของตัวกฎหมายจะยังไม่ได้รับการเปิดเผยสู่สาธารณะแต่จากการให้ข้อมูลของนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ระบุชัดเจนว่า ความร่วมมือระดับประเทศนั้นมีความจำเป็นต่อการรับมือภัยคุกคามทางการเงินจากคริปโทเคอร์เรนซี
อย่างไรก็ตาม ธนาคารเพื่อการลงทุนอย่าง Goldman Sachs ยังมีมุมมองในทางบวกต่อมูลค่าของคริปโทเคอร์เรนซี โดยระบุในรายงานของทีมนักวิเคราะห์ของทางบริษัทเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า มูลค่าของ Bitcoin อาจปรับตัวสูงถึงระดับ 100,000 เหรียญสหรัฐฯ เนื่องจาก Bitcoin อาจจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านการลงทุนจากทองคำมากยิ่งขึ้นในอนาคต
อ้างอิง
https://cnn.it/3rHVuJh
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews
