“ลงทุนในตลาดหุ้น แต่ได้ผลตอบแทนที่แน่นอน” ประโยคนี้คือสิ่งที่หลายคนอาจคิดว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะขึ้นชื่อว่าการลงทุน ก็ต้องมาพร้อมกับความเสี่ยงและการยอมรับผลตอบแทนที่ไม่แน่นอน แต่นี่กลับเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ “กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (Vayupak Fund 1)” ที่กำลังจะเปิดให้จองซื้อในเดือนกันยายนนี้ และทำให้สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้กลายเป็นความจริง
เมื่อมีกองทุนที่รับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ จึงถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาทางเลือกในการสร้างความมั่นคงทางการเงิน กองทุนวายุภักษ์หนึ่งจึงกลายเป็นหัวข้อที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ทั้งในแง่บวกและลบ แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่ากองทุนนี้เหมาะกับเราหรือไม่ เรามาทำความเข้าใจกันว่ากองทุนวายุภักษ์หนึ่งคืออะไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และทำไมถึงได้รับความสนใจมากอย่างล้นหลาม?
จับตามอง “กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง” ทางเลือกใหม่ของนักลงทุน
เมื่อพูดถึงการลงทุน หลายคนอาจนึกถึงความเสี่ยงและความผันผวน แต่กองทุนวายุภักษ์หนึ่งกำลังนำเสนอทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน
กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง เป็นกองทุนรวมแบบผสมที่มีลักษณะพิเศษ โดยเน้นลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มีนโยบายลงทุนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ซึ่งทำให้มีระดับความเสี่ยงอยู่ที่ปานกลางค่อนข้างสูง (คือระดับ 5 จากทั้งหมด 8 ระดับ) โดยหน่วยลงทุนของกองทุนวายุภักษ์หนึ่ง แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ หน่วยลงทุนประเภท ก. สำหรับนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และหน่วยลงทุนประเภท ข. สำหรับ หน่วยงานภาครัฐเข้ามาลงทุน
จุดเด่นที่ทำให้กองทุนนี้ได้รับความสนใจคือการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ 3% ต่อปี และสูงสุดไม่เกิน 9% ต่อปี โดยที่รับประกันว่าเงินทุนจะไม่หายเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่แน่นอนและสม่ำเสมอ ปัจจุบัน กองทุนนี้มีการลงทุนในหุ้นสามัญถึง 88.36% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) โดยหุ้นที่ลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ PTT, SCB, TTB, KTB, และ BCP ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงสูง แต่เมื่อมีการลงทุนในหุ้นสามัญในสัดส่วนที่สูง ทำให้กองทุนวายุภักษ์หนึ่งกำลังได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์อย่างคับคั่ง
กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
ในช่วงที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้ให้ความสนใจกับกองทุนวายุภักษ์หนึ่งอย่างมาก มีทั้งเสียงสนับสนุนและวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนมองว่านี่เป็นโอกาสทองในการลงทุน ในขณะที่บางคนกลับมองว่าเป็นการแทรกแซงตลาดทุน และเป็นเพียง “กองทุนดันหุ้น” ให้มีราคาพุ่งสูงขึ้นหลังจากสถานการณ์ซบเซามาตลอดหลายปี
โซเชียลมีเดียอย่าง Twitter และ Facebook มีการแชร์ข้อมูลและความคิดเห็นเกี่ยวกับกองทุนนี้อย่างกว้างขวาง โดยแฮชแท็ก #กองทุนวายุภักษ์ และ #VAYU1 ติดเทรนด์อันดับต้นๆ ในทั้งสองแพลตฟอร์ม ซึ่งนักลงทุนรายย่อยหลายคนแสดงความสนใจ โดยมองว่านี่เป็นโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นรายตัวโดยตรง ในขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อตลาดทุนในระยะยาว
ความคิดเห็นที่หลากหลายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจและความสำคัญของกองทุนวายุภักษ์หนึ่งในวงกว้าง ซึ่งทำให้หลายคน โดยเฉพาะคนทำงานรุ่นใหม่ เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้น
สิ่งที่ควรรู้ก่อนลง “กองทุนวายุภักษ์หนึ่ง”
แม้ว่ากองทุนวายุภักษ์หนึ่งจะดูน่าสนใจ แต่การลงทุนในกองทุนนี้ก็เหมือนการลงทุนทุกประเภท เพราะมีทั้งข้อดีและข้อที่ควรพิจารณาก่อนการตัดสินใจลงทุน ซึ่งคนทำงานควรทำความเข้าใจในหลายประเด็นที่เกิดขึ้นก่อนตัดสินใจลงทุน
อย่างแรกที่ควรพิจารณาก็คือ เรื่องของระยะเวลาการลงทุน อย่างที่รู้ๆ กันว่า แม้เราจะสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีคำโฆษณาว่า “รับประกันผลตอบแทน” แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรับประกันผลตอบแทนจะมีผลเต็มที่เมื่อถือครองครบ 10 ปี
ต่อมาคือ “ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด” แม้จะมีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ แต่ราคาหน่วยลงทุนในตลาดอาจมีความผันผวนตามสภาวะตลาด ดังนั้นมากกว่าผลตอบแทนที่ทางกองทุนมีการรับประกัน เราควรรู้ความเสี่ยงของตลาดนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของข้อจำกัดด้านผลตอบแทน ซึ่งแม้ว่าจะมีการรับประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ และถือเป็นข้อดีที่น่าสนใจ แต่ก็มีการจำกัดผลตอบแทนสูงสุดไว้ที่ 9% ต่อปี ซึ่งประเด็นนี้กองทุนก็มีการแจ้งไว้อย่างชัดเจน เราจึงควรนำข้อจำกัดนี้มาพิจารณา ถ้าหากเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องผลตอบแทน หรือเงินปันผลเป็นส่วนสำคัญ
โดยกองทุนวายุภักษ์หนึ่งจะเปิดให้จองซื้อในวันที่ 16-20 กันยายน 2567 สำหรับนักลงทุนทั่วไป และ 25-27 กันยายน 2567 สำหรับนักลงทุนสถาบัน โดยสามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำและบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ร่วมโครงการ ซึ่งมีราคาจองซื้อหน่วยละ 10 บาท และต้องจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หน่วย (10,000 บาท) และสามารถซื้อเพิ่มได้ครั้งละ 1,000 บาท
หลังจากนั้น หน่วยลงทุน VAYU1 จึงจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคม 2567
ในท้ายที่สุด กองทุนวายุภักษ์หนึ่งอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนทำงานยุคดิจิทัลที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในตลาดหุ้น แต่ยังกังวลเรื่องความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง การตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาจากเป้าหมายทางการเงินของตัวเองเป็นหลัก พร้อมทั้งไม่ลืมที่จะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เพราะไม่มีการลงทุนใดที่ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง
อ้างอิง:
– ข้อมูลหนังสือชี้ชวนและรายงานกองทุนรวม กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ – https://bit.ly/3MBRYLs
– กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง: MFC Asset – https://bit.ly/3Xnc690
#trend
#VAYU1
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast