ในปี 2022 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีที่ไม่น่าจดจำเท่าไรนักสำหรับเหล่าคนทำงานสายเทคโนโลยีทั้งหลาย เนื่องจากปรากฏการณ์ “เลิกจ้างครั้งใหญ่ (Great Layoff)” ของเหล่าบริษัทและสตาร์ตอัปของวงการเทคฯ ทั่วทั้งโลก จนเริ่มมีการตั้งคำถามจากหลายฝ่ายว่า คนทำงานสายเทคฯ นั้นกำลังอยู่ในสภาวะ ‘ขาลง’ แล้วจริงๆ หรือ?
แต่ดูเหมือนว่าเหล่าคนทำงานสายเทคโนโลยีนั้นก็พอที่จะเริ่มหายใจคล่องกันขึ้นมาได้บ้างเนื่องจาก ผลสำรวจล่าสุดนั้นบอกว่าอาชีพสายเทคโนโลยีนั้น ยังคงเป็นอาชีพที่ได้รับความต้องการสูงอยู่ รวมถึงคนทำงานสายเทคโนโลยีที่ถูกเลิกจ้างส่วนใหญ่นั้นก็สามารถหางานใหม่ในสายงานเดิมได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
สายเทคฯ ยังมาแรง
จากผลสำรวจของ Zip Recruiter แพลตฟอร์มหางานสัญชาติอเมริกันได้มีการรายงานว่า พนักงานประมาณ 79% ของคนทำงานสายเทคโนโลยีทั้งหมดนั้นสามารถหางานใหม่ได้ นับตั้งแต่วันที่พวกเขาเริ่มต้นหางานในสายงานภายในสามเดือนเพียงเท่านั้น หลังจากได้รับการเลิกจ้างหรือเป็นส่วนหนึ่งของการ “Great Layoff” เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา
โดย Julia Pollak ประธานทีมเศรษฐศาสตร์ของ ZipRecruiter กล่าวว่า “แม้จะมีการเลิกจ้างอย่างกว้างขวาง (Layoffs) การหยุดจ้างงาน (Hiring Freeze) หรือการลดต้นทุน (Cost-cutting) อย่างแพร่หลายในสายเทคโนโลยี พนักงานเหล่านี้ยังคงเป็นแรงงานที่เรียกได้ว่าเป็นที่ต้องการมากที่สุดและมีทักษะที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้”
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมจากผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าเกือบหนึ่งในสี่ของคนทำงานสายเทคโนโลยีที่ต้องเริ่มต้นหางานใหม่นั้น สามารถหางานใหม่ในสายงานเทคฯ เหมือนเดิมได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือนเพียงเท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่ารวดเร็วมากๆ ถ้าเทียบกับอัตราการหางานของคนทำงานสายอื่นๆ ในตลาดแรงงานทั่วไป โดยระยะเวลาการว่างงานของพนักงานทั่วไปเมื่อถูกเลย์ออฟนั้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8.1 สัปดาห์ (ประมาณ 2 เดือน) ตามสถิติของสำนักงานแรงงานสหรัฐฯ
จากข้อมูลดังกล่าวนี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าคนทำงานสายเทคโนโลยีนั้นจะดูน่ากลัวและไม่มั่นคงเนื่องจากว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะโดนเลิกจ้างสูง แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็เป็นอาชีพที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูงและยังมีบริษัทอีกมากที่พร้อมรับพวกเขาเข้าไปทำงานด้วยแน่นอน
แต่ก็ใช่ว่าคนทำงานสายเทคโนโลยีทุกคนนั้นจะสามารถหางานใหม่ได้อย่างรวดเร็วเสมอไป โดยผลสำรวจของ Zip Recruiter เองก็มีการรายงานเอาไว้ด้วยว่า มีพนักงานสายเทคฯ ประมาณ 5% ที่ถูกเลย์ออฟนั้น ใช้เวลาหางานใหม่ยาวนานมากกว่า 6 เดือนเลยทีเดียว โดยบางคนหางานตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคมในปี 2022
อย่างไรก็ดี ปีที่ผ่านมานั้นถือว่าเป็นปีที่ตลาดแรงงานสำหรับคนทำงานด้านเทคโนโลยีนั้นชะลอตัวลงต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมากมาย ตั้งแต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ไปจนถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนบริษัทสตาร์ตอัปและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Amazon ปลดพนักงานประมาณ 10,000 คน บริษัทแม่ของ Facebook อย่าง Meta ทำการเลย์ออฟครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัทที่ 11,000 คน Twitter ที่ปลดพนักงานไปกว่า 3,700 คนหลังจากที่ อีลอน มัสก์ เข้ามาคุมบังเหียน รวมไปถึง Shoppee ก็มีการปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่มีผลกระทบต่อตลาดแรงงานในประเทศไทยไม่น้อยเหมือนกัน
ทั้งนี้ แม้ว่าจะเกิดการเลย์ออฟไป ก็ยังมีการคาดการณ์จากหลายแง่มุมว่า ตลาดแรงงานในสายเทคโนโลยีนั้นมีแต่จะขยายขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านั้น เพราะงานใน สายอาชีพดิจิทัล ไอที และเทคโนโลยีนั้น เป็นงานที่ได้รับได้ค่าตอบแทนสูงและจะยังคงเป็นสายงานที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในอนาคตข้างหน้านั้น โลกมนุษย์กำลังพัฒนาการใช้ชีวิตของตัวเองให้ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การทำงาน หรือการทำธุรกิจล้วนต้องมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีส่วนในการขับเคลื่อนทั้งสิ้น
กล่าวคือ อาชีพในวงการเทคฯ นั้นเป็นเหมือนกับดาบสองคมที่พร้อมจะช่วยเหล่าคนทำงานนั้นก้าวกระโดดไปสู่ความสำเร็จและฉุดพวกเขาดิ่งลงเหวสู่ความเคว้งคว้างได้พอๆ กันเลยทีเดียว
อ้างอิง:
– Laid Off Tech Workers Quickly Find New Jobs : Sarah Chaney Cambon, Gwynn Guilford, The Wall Street Journal – https://bit.ly/3vwogPF
– Tech Workers Remain in High Demand Despite Brutal 2022 Layoffs : Mack DeGeurin, Gizmodo – https://bit.ly/3X1l4Hu
– Here’s a rundown of tech companies that have announced layoffs in 2022 – Sofia Pitt, CNBC – https://bit.ly/3GCBkcB
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
