NEWSTrendsคนอายุ 28-44 กว่า 1 ใน 4 รับจบที่ Polyworker ต้องทำงานพร้อมกัน 3 อาชีพเพื่อความอยู่รอด

คนอายุ 28-44 กว่า 1 ใน 4 รับจบที่ Polyworker ต้องทำงานพร้อมกัน 3 อาชีพเพื่อความอยู่รอด

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราต้องทำงานมากถึง 3 อาชีพ จึงจะสามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้?

ในปัจจุบัน ประชากรกลุ่ม Millennials หรือคนที่มีอายุประมาณ 28 ถึง 44 ปีกลายเป็นแรงงานหลักในระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม แรงงานเหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจถดถอยและสภาวะเงินเฟ้อ จนทำให้หลายคนต้องทำงานมากกว่าหนึ่งอาชีพ ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของคำว่า Polyworking นั่นเอง

จากการศึกษาใหม่ที่จัดทำขึ้นโดย Academized ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจ้างงานที่เชื่อมโยงนักเขียนและนักวิจัยในสาขาต่างๆ ระบุว่าประชากรกลุ่ม Millennials ในสหรัฐอเมริกาเกินครึ่งเป็น Polyworker หรือคนที่ทำงานมากกว่าหนึ่งอาชีพ 

นอกจากนั้น 1 ใน 4 ของคนกลุ่มนี้จำเป็นต้องทำงานหนักและประกอบอาชีพมากถึง 3 อาชีพ ซึ่งถ้าเทียบกับสถานการณ์ในประเทศไทยก็จะพบว่าคนทำงานชาวไทยก็ทำงานหนัก และกำลังเผชิญกับปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินที่คล้ายคลึงกัน

โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจสาเหตุและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก Polyworking และหาทางออกไปพร้อมๆ กัน

ในปัจจุบัน ผู้คนเผชิญกับความไม่มั่นคงจากรอบด้าน ผู้ประกอบการเสี่ยงต้องปิดกิจการ ส่วนลูกจ้างก็อาจถูกเลิกจ้าง หรือปรับลดเงินเดือนได้ทุกเมื่อ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในปัจจุบันที่ลอยตัวอยู่ที่ประมาณ 3% (ข้อมูลจากบทความของ The Guardian และรายงานของ Deloitte Insights)

ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทยที่อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1% แล้ว (ข้อมูลจากบทความธนาคารแห่งประเทศไทย) สภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงพอสมควร ส่งผลให้แม้ว่าจะมีการปรับค่าแรงขึ้น แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกจ้างได้ 

ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากนโยบายเพิ่มกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าอย่างรวดเร็ว และด้วยเหตุนี้คนทำงานกลุ่ม Millennials ที่เริ่มมีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องหารายได้เพิ่มจากงานที่สอง งานที่สาม และงานพิเศษนั่นเอง

นอกจากนี้ จากข้อมูลการศึกษาดังกล่าวยังบอกอีกว่ามีเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้คนรุ่น Millennials หลายคนเป็น Polyworker ที่ทำงานมากกว่าหนึ่งอาชีพ ยกตัวอย่างเช่น ทำงานพิเศษเพื่อเก็บออมเงินสำหรับอนาคต ทำเพื่อความชอบหรือความสนใจส่วนตัว ทำเพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคม และทำเพื่อพัฒนาทักษะทางอาชีพ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ต่องานประจำอีกทีหนึ่งด้วย

รายได้พิเศษจาก Polyworking เหล่านี้ยังช่วยเป็นตาข่ายความมั่นคงทางการเงินที่รองรับความเสี่ยงในกรณีที่งานประจำซึ่งเป็นอาชีพหลักประสบปัญหาขึ้นมาได้ โดยจากผลการสำรวจระบุว่า Polyworker เหล่านี้มีรายได้พิเศษตั้งแต่ 12,000-45,000 ดอลลาร์ต่อปี (ประมาณ 408,000-1,530,000 บาทต่อปี) สำหรับการทำงานเพิ่มอีก 5-20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

ซึ่งถ้าพิจารณาจากจำนวนเงินแล้วก็ถือว่าชีวิตที่ต้อง Work ไร้ Balance ในยุคนี้ช่วยให้คนทำงานหารายได้เป็นเงินก้อนใหญ่ ที่สามารถนำไปสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิตในอนาคตได้ทีเดียว 

แม้ว่าการทำงานอย่างหนัก และมีรายได้จากหลายทางของเหล่า Polyworker จะช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับอนาคตได้ แต่นาเดีย วิลเลียมส์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเพื่อการศึกษาครอบครัว กลับกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาว

โดยเธอกล่าวว่า การต้องรับงานที่สองและทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อจ่ายค่าใช้จ่าย ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับสังคมของเรา ชั่วโมงทำงานของเราในทุกวันนี้มากกว่าชั่วโมงทำงานของคนรุ่นพ่อแม่และปู่ย่าตายาย และสิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายด้านเวลา รวมถึงคุณภาพของความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

และการทำงานอย่างหนักก็กลืนกินเราทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ นี่จึงเป็นเส้นทางที่นำเราออกห่างจากความเจริญรุ่งเรืองของมนุษยชาติมากขึ้นเรื่อยๆ นี่คือความเป็นจริงสำหรับโลกทำงานในปัจจุบัน ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้วและการทำงานหนักจนไม่ได้พักผ่อนก็ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน ถ้ามองในมุมของสุขภาพและความสุขส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ถ้าคนทำงานจำเป็นที่จะต้องทำหลายอาชีพ เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับอนาคตของตัวเองจริงๆ วันนี้เรามีวิธีเตรียมตัวเป็น Polyworker ที่สามารถรักษาความสมดุลของชีวิต และทำงานที่หลากหลายได้อย่างมีความสุขมาฝากทุกคน

[  ] ประเมินตัวเองและตัวเลือกที่มีอยู่ในมือ
โดยดูจากทักษะ ความสามารถ ความชื่นชอบและความสนใจของเราก่อน รวมถึงตัวเลือกต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้า เช่น รูปแบบของงาน เครือข่ายคนรู้จัก หรือช่องทางอื่นๆ ที่เราสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ และพิจารณาว่าตัวเลือกไหนจะช่วยเติมเต็มคุณค่าให้กับชีวิตด้านการงานของเราได้ดีที่สุด

[  ] ลองวางแผนชีวิตในระยะสั้น
หลังจากที่มีคำตอบแล้วว่าจะทำงานอะไรเป็นอาชีพเสริม ลองออกแบบตารางชีวิตในแต่ละวันดูว่าหนึ่งวันของเราจะเป็นอย่างไร แล้วพิจารณาว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่

[  ] ดำเนินการตามแผนโดยต้องไม่ลืมวัดผล และพัฒนาแผนชีวิตของตัวเองเป็นประจำ จนกว่าจะได้เจอแนวทางการทำงานแบบ Polyworking ที่เหมาะกับเรา

[  ] พัฒนา Personal Branding ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ 
โดยทำให้ผลงาน การกระทำ และการสื่อสารของเราสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพที่แตกต่างและน่าดึงดูดมากขึ้น และคอยอัปเดตในเรซูเม หรือโปรไฟล์การทำงานของเราอยู่เสมอ เช่น LinkedIn หรือแพลตฟอร์มหางานอื่นๆ 

การทำงานหลายอาชีพสร้างคุณประโยชน์หลากหลายด้านให้กับคนทำงาน ทั้งในเรื่องการพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์กับคนทำงานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่ม Millennials ที่เป็นแรงงานหลักในระบบเศรษฐกิจ และมีประสบการณ์การทำงานมากในระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงเรื่องการสร้างความมั่นคงด้านการเงินและงานด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยภาระงานที่หนักมากขึ้น อาจจะทำให้ส่งผลกระทบถึงสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตของคนทำงาน รวมถึงคุณภาพชีวิตของเราได้ด้วยเช่นกัน 

ดังนั้นถ้าเราอยากลองเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่หลากหลาย และเพิ่มความมั่นคงให้กับชีวิตด้วยการทำงานแบบ Polyworking สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ ‘ทักษะในการบริหารเวลา’ นอกจากนี้ เราจะต้องวางแผนชีวิต และออกแบบไลฟ์สไตล์ให้ยืดหยุ่น รวมถึงโอบรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ ให้ดียิ่งกว่าเดิม

อ้างอิง
– ‘Polyworking’: why do so many millennials have more than one job?: Gene Marks, The Guardian – https://bit.ly/4j1sIga
– Why Polyworking Is The Future Of Work And How To Become A Polyworker: William Arruda, Forbes – https://bit.ly/3RvgjoV
– United States Economic Forecast: Ira Kalish and Robyn Gibbard, Deloitte Insights – https://bit.ly/3XSsAXV
– สรุปประมาณการเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ณ 18 ธันวาคม 2567: ธนาคารแห่งประเทศไทย – https://bit.ly/3EeT4MM


#polyworking
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า