NEWSTrendsLinkedIn กลายเป็นแอปหาคู่? เมื่อแพลตฟอร์มหางาน กลายเป็นความรำคาญของผู้ใช้

LinkedIn กลายเป็นแอปหาคู่? เมื่อแพลตฟอร์มหางาน กลายเป็นความรำคาญของผู้ใช้

“มันน่าขยะแขยงและไม่เป็นมืออาชีพเลย” คือคำบอกเล่าจากผู้ใช้ LinkedIn หลายราย ที่ต้องเผชิญกับข้อความจีบจากคนแปลกหน้าบนแพลตฟอร์มที่ควรจะใช้เพื่อการทำงาน

เคยไหม? เปิด LinkedIn มาเจอข้อความแปลกๆ ที่ดูไม่เหมือนการติดต่องาน แต่กลับเป็นการเกี้ยวพาราสีแทน หากคุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ คุณไม่ได้เป็นคนเดียว เพราะนี่กำลังเป็นปัญหาที่ผู้ใช้ LinkedIn จำนวนมากต้องเผชิญ

เมื่อแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายการทำงานอย่าง LinkedIn กลับถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ กลายเป็นช่องทางหาคู่ของคนบางกลุ่ม สร้างความรำคาญและความอึดอัดให้กับผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ใช้เพศหญิงที่มักตกเป็นเป้าของข้อความไม่พึงประสงค์เหล่านี้

ยิ่งในช่วงที่หลายคนเบื่อหน่ายกับแอปหาคู่เดิมๆ ยิ่งทำให้ LinkedIn กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ต้องการหาคู่ผ่านการกรองด้วยอาชีพและการศึกษา แต่พฤติกรรมเหล่านี้กำลังสร้างความกังวลให้กับทั้งผู้ใช้และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ที่ต้องหาทางรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น

“เป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยงมาก” คือคำบอกเล่าของ Blair Huddy ซีอีโอสาววัย 35 ปี ที่ต้องเผชิญกับการถูกคุกคามบน LinkedIn เธอเล่าว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากข้อความธรรมดาที่อ้างว่าจะช่วยแนะนำลูกค้าให้ แต่เมื่อเธอเลือกที่จะไม่ตอบกลับ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือข้อความก้าวร้าวที่ว่า “ส่งข้อความกลับมาสิ เลิกทำตัวเข้าถึงยากได้แล้ว”

กรณีของ Shriya Boppana ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ก็ไม่ต่างกัน เพียงแค่เธออัปเดตโปรไฟล์เกี่ยวกับความสำเร็จในการประกวดนางงามและการได้งานพิธีกรรายการทีวี เธอก็เริ่มได้รับข้อความจาก “กลุ่มผู้ติดตามที่แปลกประหลาด” รวมถึงอดีตเพื่อนร่วมงานที่ส่งข้อความแสดงความสนใจในรูปลักษณ์ของเธอ

ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ราย ผลสำรวจจากผู้ใช้ LinkedIn เพศหญิงในสหรัฐฯ กว่าพันคนเผยตัวเลขที่น่าตกใจ – 91% เคยได้รับข้อความเชิงโรแมนติกหรือข้อความที่ไม่เหมาะสมอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ 74% ของผู้ใช้เหล่านี้ถึงขั้นต้องลดหรือจำกัดการใช้งานแพลตฟอร์ม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคุกคาม สะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ที่ควรจะใช้สำหรับการพัฒนาเส้นทางอาชีพ กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัย

แล้วปัญหานี้เกิดจากอะไร? ทำไมแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเพื่อการทำงานถึงกลายเป็นสนามแข่งหาคู่? เหตุใดผู้หญิงถึงต้องมาเผชิญกับความไม่ปลอดภัยแม้แต่ในพื้นที่ที่ควรจะเป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาอาชีพ? และที่สำคัญ เราจะป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามเหล่านี้ได้อย่างไร?

Bernie Hogan ผู้เชี่ยวชาญจาก Oxford Internet Institute เผยความจริงที่น่าสนใจว่า “แม้ LinkedIn จะพยายามสร้างภาพลักษณ์เป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน แต่แท้จริงแล้วมันก็คือโซเชียลมีเดียที่ไร้การควบคุมเช่นเดียวกับ Instagram หรือ Facebook” LinkedIn ไม่ใช่ที่ทำงาน มันแค่พยายามทำตัวเป็นที่ทำงานเท่านั้น ซึ่งในออฟฟิศหรือที่ทำงานจริงๆ จะมีกฎระเบียบควบคุมพฤติกรรมแบบนี้ แต่โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ที่ปล่อยให้ผู้ใช้จัดการกันเอง

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น Courtney Boyer ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ เผยอีกมุมมองที่น่าตกใจว่า LinkedIn กำลังกลายเป็น “แอปหาคู่ทางเลือก” สำหรับคนที่เบื่อหน่ายกับแอปหาคู่แบบดั้งเดิม ตัวเลขจากผลสำรวจของ Forbes Health ยืนยันปรากฏการณ์นี้ โดยพบว่า 78% ของชาวอเมริกันที่ใช้แอปหาคู่ในปีที่ผ่านมารู้สึกเหนื่อยล้ากับการใช้แอปเหล่านั้น

หลายคนมองว่า LinkedIn มีข้อได้เปรียบเหนือแอปหาคู่ทั่วไป ด้วยความสามารถในการกรองคนตามอาชีพ การศึกษา และประสบการณ์การทำงานได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ต่างจากแอปหาคู่ที่มักเรียกเก็บค่าบริการสำหรับฟีเจอร์เหล่านี้ แต่การใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มผิดวัตถุประสงค์เช่นนี้ กำลังสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องการใช้ LinkedIn เพื่อพัฒนาเส้นทางอาชีพของตนเอง

Advertisements
Advertisements

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มมากขึ้น LinkedIn แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคน ได้ออกมายืนยันจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเป็น “ชุมชนมืออาชีพ” ไม่ใช่เว็บไซต์หาคู่ พร้อมประกาศนโยบายห้ามใช้แพลตฟอร์มเพื่อ “แสวงหาความสัมพันธ์เชิงโรแมนติก นัดเดท หรือแสดงความคิดเห็นเชิงเพศเกี่ยวกับรูปลักษณ์หรือความดึงดูดของผู้อื่น”

แต่นโยบายอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Hogan ผู้เชี่ยวชาญจาก Oxford Internet Institute วิจารณ์ว่า LinkedIn ยังจัดการกับปัญหานี้ไม่จริงจังพอ ปล่อยให้เหยื่อต้องเผชิญและแก้ปัญหาเอง เขาเสนอว่าแพลตฟอร์มควรพัฒนาระบบป้องกันให้ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการนำเครื่องมือ AI มาใช้ตรวจจับและป้องกันการส่งข้อความที่ไม่เหมาะสม เช่นเดียวกับที่แอปหาคู่อย่าง Bumble และ Tinder ทำสำเร็จมาแล้ว

ปรากฏการณ์นี้สะท้อนความจริงที่ว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกล แต่การสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” บนโลกออนไลน์กลับยังเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่มักตกเป็นเป้าของการคุกคาม คำถามสำคัญคือ เราจะสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพในการติดต่อสื่อสารและการปกป้องผู้ใช้งานได้อย่างไร ในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำงานเริ่มเลือนหายไปทุกที

สุดท้ายแล้ว LinkedIn เองก็คงต้องถามตัวเองว่า เราจะช่วยกันรักษาพื้นที่แห่งโอกาสทางอาชีพนี้ไว้ได้อย่างไร เพื่อให้ LinkedIn ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างคุณค่าให้กับทุกคนได้อย่างแท้จริง โดยไม่มีใครต้องรู้สึกกังวลว่าการแสดงความสำเร็จหรือการอัปเดตความก้าวหน้าในอาชีพของตน จะนำมาซึ่งการคุกคามที่ไม่พึงประสงค์

อ้างอิง
– ‘It’s gross, it’s unprofessional’: Some LinkedIn users are being put off the platform by unsolicited flirtatious DMs: Sawdah Bhaimiya: CNBC Make it – https://cnb.cx/3UKxO6u 

#LinkedIn
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า