หลายคนที่เป็นแฟนคลับซีรีส์ หรือสื่อบันเทิงจากแดนโสมขาว ก็คงพอจะรู้ว่าประเทศเกาหลีใต้นับว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการกลั่นแกล้งสูงติดอันดับโลก และถึงแม้ว่าการกลั่นแกล้งจะรุนแรงถึงขั้นนำไปสู่เหตุการณ์สูญเสียที่น่าสลดใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์รุนแรงนี้จะยังเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุการณ์ที่ควบคุมจัดการได้ยาก แต่สร้างผลกระทบที่รุนแรง อย่างการกลั่นแกล้งกันในกลุ่มเด็กวัยรุ่น และการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ อีกทั้งคนที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงเหล่านี้ไม่ได้มีแค่เด็กวัยรุ่น หรือคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเป็นถึงดารา นักร้อง รวมทั้งผู้มีชื่อเสียงระดับประเทศ
โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจปัจจัยที่ทำให้ประเทศเกาหลีมีอัตราการกลั่นแกล้งสูง เพื่อชวนให้ทุกคนตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น แล้วมาหาทางออกกันว่าเราจะแก้ไข และป้องกันเหตุการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกได้อย่างไร?
วัยรุ่นเกาหลีเกิน 20% เคยตกเป็นเหยื่อของ Cyber Bullying
ในปีที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่รายงานของ National Youth Policy Insitute ของประเทศเกาหลีใต้ โดยสถาบันนี้ได้ทำการสำรวจเด็กวัยรุ่นจำนวน 1,038 คน ซึ่งมีนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 508 คน นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย 507 คน และนักเรียนที่อยู่ในการศึกษานอกระบบอีก 23 คน
จากการสำรวจพบว่า 12.2% ของกลุ่มสำรวจเคยได้รับอีเมล ข้อความ และปฏิสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์บนโซเชียลมีเดียอย่างต่อเนื่อง โดย 32.8% ของเหยื่อถูกกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์จากเพื่อนในสถานศึกษา และอีก 13.1% ถูกกลั่นแกล้งจากคนที่ไม่รู้จักบนโลกออนไลน์
สรุปแล้ว 20.1% ของวัยรุ่นชาวเกาหลีเคยตกเป็นเป้าของการดูถูก และเคยถูกทำร้ายจิตใจบนโลกออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา และมีวัยรุ่นชาวเกาหลีมากถึง 3% ที่เคยถูกคุกคามบนโลกออนไลน์เกิน 10 ครั้ง
จากรายงานชิ้นนี้นำไปสู่คำถามที่ว่า อะไรทำให้ชาวเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชากรวัยรุ่นในประเทศเกาหลีตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์หรือ Cyber Bullying สูงขนาดนี้?
National Youth Policy Insitute หยิบยกประเด็นการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นอันตรายทางออนไลน์ขึ้นมาพูดคุยกับกลุ่มสำรวจด้วยและพบว่า 61.5% ของกลุ่มสำรวจกังวลกับการที่พวกเขาสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่รุนแรงบน YouTube ได้ง่าย นอกจากนี้เกิน 50% ของกลุ่มสำรวจตอบว่าเคยพบเห็นเนื้อหาลามกอนาจาร หรือคำพูดแสดงความเกลียดชังที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มเฉพาะบนแพลตฟอร์ม YouTube ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ จากการสำรวจยังพบอีกว่าวัยรุ่นชาวเกาหลี 21.5% ใช้สมาร์ตโฟนเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมงต่อวันในวันธรรมดา และมีวัยรุ่นที่ใช้มือถือเฉลี่ย 6 ชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์สูงถึง 40.1% ทางสถาบันยังชี้อีกด้วยว่า วัยรุ่นจากครอบครัวที่มีรายได้น้อยและมีการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการควบคุมการบริโภคสื่อน้อยกว่า และมีแนวโน้มที่จะใช้เวลากับสมาร์ตโฟนมากขึ้น
และนี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเกาหลีคุ้นชินกับ Cyber Bullying ไม่ว่าจะในฐานะผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ ผู้เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่รับรู้เหตุการณ์ แต่ไม่รู้ว่ารับมือและแก้ไขสถานการณ์อย่างไรก็ได้
ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ตกเป็นเหยื่อของ Cyber Bullying ในเกาหลี
ปัจจัยที่เสริมทำให้การกลั่นแกล้งในประเทศเกาหลีร้ายแรงเป็นไปได้หลายประการ เช่น ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่หล่อหลอมให้ชาวเกาหลีมีความเป็น ‘ชาตินิยม’ สูง จึงทำให้พวกเขาต้องแข่งขันกันตลอดเวลา และกีดกันคนที่ไม่เข้าพวก หรือคนที่มีคุณสมบัติไม่เพียงพอออกไป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การกีดกัน และกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวข้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศ กลับกันแล้ว Cyber Bullying ในประเทศเกาหลีกลับรุนแรงขึ้นมาก ความสามารถในการควบคุมตัวเองต่ำลง และยิ่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่มีพฤติกรรมกลั่นแกล้ง ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้ Cyber Bullying เกิดขึ้นโดยไม่เลือกเป้าหมายที่ไร้ทางสู้เหมือนในอดีต ไม่สนวิธีการ และผู้กระทำเองก็ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบในอนาคต
เราจะเห็นได้ว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อของ Cyber Bullying ไม่ได้มีเฉพาะเด็กนักเรียน หรือเด็กวัยรุ่นธรรมดา หรือคนที่มีคุณสมบัติบกพร่องกว่าผู้อื่นเท่านั้น แต่คนที่มีชื่อเสียง และมีหน้ามีตาในสังคมอย่างดารา นักร้อง หรือนักกีฬาก็ยังตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมบนโลกออนไลน์ได้ด้วย
อย่างเช่น การที่คนกลุ่มหนึ่งส่งซุ้มพวงหรีดไปให้ ‘ซึงฮัน’ ศิลปินเกาหลีสมาชิกของวง RIIZE และ ‘ชูก้า’ สมาชิกของวง BTS เพื่อบีบให้ออกจากวง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัว หรือเหตุผลอะไรก็ตาม แต่การส่งซุ้มพวงหรีดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันในงานศพของวัฒนธรรมเกาหลี การจงใจส่งซุ้มพวงหรีดให้กับคนเป็นจึงถือว่าเป็นการสาปแช่ง และทำร้ายจิตใจของศิลปินที่เป็นผู้รับ รวมแฟนคลับที่ให้การสนับสนุนอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า BRIIZE (กลุ่มแฟนคลับของวง RIIZE) และ Army (กลุ่มแฟนคลับของวง BTS) จะยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มแอนตี้แฟน และเรียกร้องให้ค่ายพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อปกป้องศิลปินในสังกัดแล้วก็ตาม แต่ต้นสังกัดกลับนิ่งเฉย และปล่อยให้การกระทำที่เกินขอบเขตนี้ดำเนินต่อไป
หลังจากที่ค่ายต้นสังกัดการเพิกเฉยต่อซุ้มพวงหรีด และไม่ได้ดำเนินคดีกับกลุ่มแอนตี้แฟน อีกทั้งยังไม่ออกมาตรการอะไรที่แสดงถึงความพยายามในการปกป้องศิลปิน ทำให้แฟนคลับที่สนับสนุนเริ่มโต้กลับด้วยการคว่ำบาตรสินค้าจนร้านค้าต่างๆ ก็ออกมาแสดงจุดยืน เพื่อต่อต้านการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากค่ายต้นสังกัดและกลุ่มแอนตี้แฟนด้วยเช่นกัน
ท่านั้นยังไม่พอ แฟนคลับยังสร้างแคมเปญร่วมลงชื่อสนันสนุนให้ซึงฮันได้กลับมาทำงานในฐานะสมาชิกของวง RIIZE เหมือนเดิม ซึ่งในตอนนี้แคมเปญดังกล่าวได้มีผู้ร่วมลงชื่อเกือบ 300,000 รายจากทั่วโลกแล้ว
นี่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีแฟนคลับอย่าง BRIIZE และ Army เท่านั้นที่ยีนหยัดเพื่อศิลปินของตน แม้แต่ชาวเน็ตเองก็เห็นถึงความไม่เป็นธรรม และไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ Cyber Bullying ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยกันติด #KoreaSupportsBullying เพื่อต่อต้านการกลั่นแกล้งที่รุนแรงอย่างไม่เป็นธรรมทั้งบนโลกออนไลน์ และในสังคมนี้ด้วย
อ้างอิง
– 1 in 5 Korean teenagers experiences cyberbullying: survey : Kim Hyun-bin, The Korea Times – https://bit.ly/3Ug3dxk
– Cyberbullying: the case of South Korean celebrities : Novasia – https://bit.ly/3YH3Hzr
– Suicide Among Adolescents in South Korea : Alyssa Kang, Ballard Brief – https://bit.ly/4hfiNDq
– “แรงกดดัน – การบูลลี่” บาดแผลไอดอลสู่ความเจ็บปวด : ThaiPBS – https://bit.ly/4f9sykE
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
