คนไทยอาจรักงานมากกว่าที่ตัวเองคิด! และเงินอาจไม่สำคัญเท่า ‘คน’

ถึงแม้ว่าคนทำงานจะไม่ปลื้มการตื่นเช้าในวันธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเช้าวันจันทร์ อีกทั้งความเป็นผู้ใหญ่ยังบังคับให้เราต้องรับมือกับปัญหามากมาย ทั้งภาระงาน ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ค่าใช้จ่าย รวมถึงปากท้องก็ตาม

แต่จากการสำรวจมาตรความสุขในชีวิตการทำงานของคนไทยกลับพบว่าคนไทยกว่า 58% ค่อนข้างมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ ซึ่งนอกเหนือจากเงินเดือนที่น่าพอใจ และงานที่ใช่แล้วก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่มีอิทธิพลกับความสุขของคนทำงาน

โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อความสุข และความพึงพอใจในชีวิตการทำงานของคนไทย เพื่อเป็นแนวทางให้กับใครหลายๆ คนสู้งาน และคนที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ รวมถึงงานที่ใช่อยู่ในตอนนี้

รายงานความสุขของคนทำงานระบุว่า “คนไทยรักงานมากกว่าที่คิด”

สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว เป้าหมายหลักของการทำงานก็เป็นไปเพื่อหาเงินเลี้ยงปากท้อง อีกทั้งหน้าที่การงานยังช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนได้ ดังนั้นหลายคนจึงใช้ ‘ฐานเงินเดือน’ หรือ ‘ความมั่นคง’ เป็นเกณฑ์ในการเลือกว่าเราจะสมัครงานกับองค์กรไหน

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจคนทำงานในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 1,452 คน จากหลากหลายประเภทธุรกิจในหัวข้อ “Happiness Meter” ที่บริษัท JobsDB ประเทศไทยจัดทำขึ้นเมื่อปี 2023 ระบุว่า 58.3% ของผู้ตอบรู้สึกพึงพอใจกับหน้าที่การงานของตัวเอง โดย 48.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าค่อนข้างมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ และอีก 9.7% บอกว่า มีความสุขมากกับงานที่ทำอยู่

เท่านั้นยังไม่พอ JobsDB ประเทศไทยยังได้ทำการสำรวจลึกลงไปอีกว่าสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความสุขของคนทำงานชาวไทยมีอะไรบ้าง จากการรายงานระบุว่า

[  ] 26.2% ได้ทำงานที่ตรงกับความถนัดและความชื่นชอบของตัวเอง
[  ] 25.4% มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้า
[  ] 20.8% ได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินที่น่าพอใจ
[  ] 19.4% สามารถสร้างความสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวได้ดี
[  ] 18.6% พึงพอใจกับผลตอบแทนอื่นๆ เช่น สวัสดิการพนักงาน หรือค่า OT

อย่างไรก็ตาม จากการรายงานของ JobsDB ระบุว่าในจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามที่พึงพอใจกับอาชีพการงานปัจจุบันของตัวเองมีแนวโน้มว่าจะตั้งใจทำงาน และอยู่กับองค์กรอย่างเต็มที่ไม่เกิน 1-3 ปีเท่านั้น โดยคนเหล่านี้ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ดีกว่าให้กับตัวเองอีกด้วย

‘เงินเดือนเท่าไร?’ ไม่สำคัญเท่า ‘ทำงานกับใคร?’ 

ถ้าพิจารณาจากตัวเลขรายงานของ JobsDB ก็จะพบว่าปัจจัยที่ทำให้คนทำงานมีความสุขมากที่สุดก็คือ ‘อาชีพที่ตรงกับความถนัด ความชื่นชอบส่วนตัว และบทบาทของหน้าที่การงาน’ ที่ผลักดันให้พนักงานประสบความสำเร็จได้ด้วย

ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อความสุขมากเป็นอันดับรองลงมาก็คือ ‘ความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน’ ในขณะที่ปัจจัยเรื่อง ‘เงิน’ มีผลมากเป็นอันดับที่ 3 ดังนั้นจากรายงานนี้จะเห็นได้ว่าสภาพแวดล้อมและสังคมในที่ทำงานมีผลต่อความพึงพอใจของคนทำงานมากกว่าเรื่องเงินเสียอีก

ยิ่งไปกว่านั้น ในรายงานเดียวกันยังได้สำรวจปัจจัยที่ทำให้คนไทยไม่พึงพอใจกับหน้าที่การงานของตัวเอง แล้วก็พบว่า 14.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามยกให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ชีวิตการทำงานไม่มีความสุข และในบรรดาของคนที่ไม่พึงพอใจกับชีวิตการทำงานในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็พร้อมลาออกจากงานทันที หากพบว่าตัวเองไม่อยากทำงานอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้นสำหรับองค์กรแล้ว การสร้างความสุขในการทำงาน และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพนักงานจะช่วยให้องค์กรสามารถรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพเอาไว้ได้อย่างยาวนาน ซึ่งทำได้ด้วยหลายวิธีขึ้นอยู่ว่าเป็นสายงานประเภทไหน เช่น

[  ] ปรับปรุงโครงสร้างให้พนักงานสามารถออกความคิดเห็น และลองผิดลองถูกได้โดยไม่มีการลงโทษ หรือตำหนิหากการทดลองออกมาไม่ตรงกับที่คาดหวัง
[  ] จัดสรรให้มีการอบรม พัฒนาและต่อยอดทักษะของพนักงานทุกระดับอยู่เสมอ
[  ] มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในด้านเส้นทางอาชีพ เพื่อให้พนักงานเห็นภาพเป้าหมายของตัวเองอย่างชัดเจน และปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรด้วย
[  ] เปิดให้พนักงานได้ประเมินการทำงานของเพื่อนร่วมงานเป็นประจำ เพื่อนำฟีดแบ็กจากเพื่อนร่วมงานไปปรับปรุง หรือพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามการประเมินนี้ควรเป็นไปในทางสร้างสรรค์ มากกว่าการตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์
[  ] มีค่าตอบแทนที่เหมาะสม และสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน เช่น เงินเดือน ค่าทำงานล่วงเวลา ประกันชีวิต หรือสวัสดิการพนักงาน เป็นต้น

สำหรับคนที่ยังต้องดิ้นรนทำงานกันต่อไป แต่ไม่มีความสุขกับงานปัจจุบัน การทำงานที่ไร้ความสุขอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจ หากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบองค์กรได้ การปรับมุมมองอาจช่วยบรรเทาได้บ้าง 

ไม่ว่าจะเป็นการมองหาความท้าทายใหม่ หรือพิจารณาข้อดีที่มีอยู่ เช่น เพื่อนร่วมงานไม่ดี แต่ค่าตอบแทนดี อย่างไรก็ตาม หากปัญหายังคงส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว การมองหาโอกาสใหม่ก็อาจเป็นทางเลือกที่จำเป็น แต่ในท้ายที่สุดเราต้องวางแผนอนาคตการทำงานอย่างรอบคอบ

ทั้งนี้ ไม่ว่าตอนนี้คุณจะเป็นคนที่กำลังมีความสุขกับงานของตัวเองมากๆ หรืออยากลาออกจนใจจะขาดแล้วก็ตาม อย่าลืมว่าโอกาสที่ดีรอเราอยู่เสมอ และการมองโลกในแง่ดี รวมถึงการพัฒนาตัวเองให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้คุณสามารถคว้าโอกาสนั้นได้ไวกว่าใคร

อ้างอิง
– jobsDB เผยผลสำรวจคนทำงานในประเทศไทยมีความสุขกับงานที่ใช่ : jobsDB – https://bit.ly/41Zb5bk


#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast