ในโลกการทำงานยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ผู้คนต่างแสวงหาหนทางในการแสดงคุณค่าของตนเอง ปรากฏการณ์ใหม่ที่เรียกว่า “Busy Bragging” หรือ “การทำทรงว่าตัวเองงานยุ่ง” จึงเกิดขึ้น และกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมนี้ดูเผินๆ เหมือนไร้พิษภัย แต่ในความเป็นจริงกลับซ่อนผลกระทบอันร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ในที่ทำงานและประสิทธิภาพของทีม
ทำความรู้จัก Busy Bragging
“Busy Bragging” คือพฤติกรรมที่พนักงานมักคุยโอ้อวดเกี่ยวกับปริมาณงานที่อยู่ในมือและความสำเร็จของตนเองอยู่บ่อยๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนขยัน ทุ่มเท และมีความสำคัญต่อองค์กร แม้ว่าผลลัพธ์ของงานอาจไม่สอดคล้องกับคำพูดก็ตาม
เชลซี สโตกส์ โค้ชด้านอาชีพจากนิวยอร์ก กล่าวว่า การคุยโวว่าตัวเองยุ่งอยู่ตลอดอาจเป็นวิธีที่พนักงานใช้เพื่อเรียกร้องการยอมรับในที่ทำงาน
ผลการศึกษาของ Pew Research Center ที่เผยแพร่ในปี 2023 ชี้ว่า 49% ของผู้ใหญ่วัยทำงานรู้สึกไม่พอใจกับงาน โดย 38% รู้สึกว่าผลงานและความพยายามของตนไม่ได้รับการชื่นชมและยกย่องจากองค์กรเท่าที่ควร ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พนักงานบางส่วนหันมาใช้พฤติกรรม “Busy Bragging” หรือการอวดความยุ่งเพื่อให้ผู้อื่นเห็นความสำคัญของตน
คุณลักษณะของคนที่เข้าข่ายเป็นนักทำทรงงานยุ่ง
[ ] ชอบพูดว่าตัวเองงานยุ่งอยู่ตลอดเวลา
[ ] ไม่สามารถทำงานหลายอย่างให้เสร็จได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ได้รับมอบหมายให้ทำโดยตรง
[ ] ชอบคุยโวเกี่ยวกับความสำเร็จ ไม่ว่าความสำเร็จนั้นจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
[ ] มองหาการยอมรับอยู่เสมอ
พิษร้ายของ Busy Bragger
นักจิตวิทยาเตือนว่าพฤติกรรมนี้อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ด้วยเหตุผลสำคัญสองประการ
1. ทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ปลื้ม
การคุยโม้ว่าตัวเองยุ่งอยู่เสมออาจทำให้เพื่อนร่วมงานมองว่าบุคคลนั้นขาดความสามารถในการจัดการเวลา งาน และความเครียด อีกทั้งยังอาจทำให้ดูเหมือนว่าบุคคลนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไรในสายตาคนอื่น เนื่องจากมักจะให้ความสำคัญแต่กับภาระงานและความสำเร็จของตนเอง โดยไม่สนใจความพยายามของคนอื่น ซึ่งอาจสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะหากคนอื่นก็ทำงานหนักเช่นกันเพียงแค่ไม่ได้พยายามเรียกร้องเพื่อให้ได้รับการยอมรับ
พฤติกรรมดังกล่าวยังอาจทำให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกรำคาญและไม่ค่อยอยากยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้วย เพราะมองว่าความเครียดของบุคคลนั้นเกิดจากการจัดการที่ไม่ดีของตัวเอง
นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่มักจะชอบเพื่อนร่วมงานที่ถ่อมตัวมากกว่าเพื่อนร่วมงานที่ชอบคุยโม้ ซึ่งการคุยโม้ทำทรงว่าตัวเองงานยุ่งก็อาจทำให้ภาพลักษณ์ของบุคคลนั้นแย่ลงได้
2. ทำให้คนรอบข้างเครียดตาม
การได้ยินเรื่องราวความเครียดและภาระงานของคนอื่นบ่อยๆ อาจส่งผลให้เพื่อนร่วมงานเกิดความเครียดและเหนื่อยล้าตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดวัฒนธรรมการทำงานที่ให้ความสำคัญกับการทำตัวให้ดูยุ่งมากกว่าการทำงานที่มีประสิทธิภาพจริงๆ เหมือนเป็นการกดดันให้คนอื่นรู้สึกว่าต้องทำตัวยุ่งๆ จึงจะได้รับการยอมรับ
พฤติกรรมเช่นนี้สามารถบั่นทอนขวัญและกำลังใจของทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบทำงานแบบเงียบๆ โดยไม่ต้องการความสนใจจากใคร เพราะจากเดิมที่ไม่สนใจก็อาจทำให้เขารู้สึกว่าผลงานของตัวเองไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร
สุดท้ายนี้ Busy Bragging อาจเป็นเพียงสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นถึงความไม่สมดุลในวัฒนธรรมการทำงาน สะกิดให้ฉุกคิดว่าแทนที่จะให้คุณค่ากับการแสร้งว่าตัวเองยุ่ง เราควรเน้นที่คุณภาพของผลงาน ความร่วมมือในทีม และการชื่นชมความสำเร็จของกันและกันอย่างจริงใจมากกว่า เพราะการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนและลดความเครียดได้อย่างแท้จริง
อ้างอิง
– A Psychologist Reveals Why ‘Busy Bragging’ Ruins Workplace Relationships : Mark Travers, Forbes – https://bit.ly/3WSHgpP
– ‘Busy bragging’ workplace trend has employees rethinking their office behavior: ‘It doesn’t impress people’ : Ashley DiMella, FOXBusiness – https://bit.ly/4diXvSU
– Busy Bragging: The latest toxic trait at the workplace : Sana Cheryl Felix, The Economic Times – https://bit.ly/3WVrhY1
#trend
#worklife
#busybragging
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast