เคยสังเกตไหมว่าทำไม ‘ชื่อ’ ของเด็กยุคใหม่เดี๋ยวนี้ถึงได้แปลก แหวกแนว และสร้างสรรค์จนน่าเหลือเชื่อ?
แต่ละประเทศมีวิธีตั้งชื่อที่แตกต่างกันไป แต่ชื่อเหล่านั้นจะสะท้อนถึงความชื่นชอบ ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชนหรือครอบครัว ในขณะเดียวกันชื่อยังเชื่อมโยงกับ ‘อัตลักษณ์’ ของเจ้าของชื่ออย่างมากด้วย
นอกจากชื่อแล้ว นามสกุลซึ่งเป็นชื่อท้ายของครอบครัวก็ยังแสดงถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานของตระกูล หรือจุดร่วมของบรรพบุรุษได้ด้วย อย่างประเทศไทยเองก็มีวัฒนธรรมในการตั้งชื่อที่ซับซ้อน เนื่องจากคนไทยมีความเชื่อที่หลากหลาย โดยคนไทยส่วนใหญ่มักจะตั้งชื่อจริงให้กับลูกของตัวเองตามหลักโบราณที่พิจารณาวันเกิด ความสัมพันธ์ของดวงดาว เป็นต้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ การตั้งชื่อให้กับทารกที่เพิ่งเกิดใหม่นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ด้วยเหตุนี้พ่อแม่หลายคู่จึงเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อตั้งชื่อที่ดีที่สุดให้กับลูกของพวกเขา จนกระทั่งการตั้งชื่อลูกกลายเป็นธุรกิจทำเงิน และเป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพ ‘นักตั้งชื่อลูก’ ในปัจจุบันที่สามารถทำเงินขั้นต่ำได้สูงถึง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 55,000 บาทต่อชื่อทารกเพียงหนึ่งชื่อ
ผู้ช่วยคุณแม่ และนักแก้ปัญหาของคู่รักแบบครบวงจร
หลายคนที่ไม่เคยประสบกับความลำบากใจแบบนี้มักคิดว่าการตั้งชื่อเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก และการจ้างให้คนอื่นคิดชื่อให้ลูกของตัวเองนั้นไม่ต่างอะไรกับคนขี้เกียจ แต่อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าการตั้งชื่อลูกนั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อ วัฒนธรรม และรสนิยมส่วนตัวของพ่อแม่ด้วย
ชื่อที่จะติดตัวลูกไปตลอดชีวิตจึงสำคัญเกินกว่าที่จะตั้งเล่นๆ โดยไม่วางแผนได้ และเราเองก็คงเคยเห็นเด็กหลายคนที่ไม่ชอบชื่อของตัวเองจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้ ด้วยเหตุนี้หลายๆ ครอบครัวจึงค่อนข้างกังวลว่าชื่อที่คิดมานั้นจะไม่ใช่ชื่อที่ดีที่สุดสำหรับลูก
เทเลอร์ เอ. ฮัมฟรีย์ (Taylor A. Humphrey) นักตั้งชื่อเด็กทารกมืออาชีพผู้ก่อตั้งธุรกิจตั้งชื่อลูก What’s in A Baby Name ยังบอกอีกว่าหน้าที่ของนักตั้งชื่อเด็กทารกไม่ได้ทำเพียงแค่ ‘คิดชื่อ’ ขึ้นมาเฉยๆ เท่านั้น แต่หน้าที่ของเธอยังเป็นผู้ช่วยของคุณแม่ โดยใช้หลัก Reiki ในการรักษาความสมดุลทางอารมณ์และสภาพจิตใจของคู่รักที่กำลังตั้งครรภ์ ใกล้คลอด รวมถึงเพิ่งคลอด อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาและคลายความกังวลให้กับพ่อแม่ที่ยังปรับตารางชีวิตในช่วงสำคัญที่สุดอย่างนี้ให้ลงตัวไม่ได้สักที
พ่อแม่ที่มาใช้บริการของ What’s in A Baby Name มักจะมาพร้อมกับปัญหาที่ว่าบางชื่อเชยเกินไป บางชื่อดูเรียบง่ายเกินไป หรือบางคู่ก็มีความเห็นไม่ตรงกันว่าจะเลือกชื่อไหนดี ยิ่งไปกว่านั้นบางครอบครัวยังคิดการณ์ล่วงหน้าไปถึงชื่อลูกที่ดีที่สุดที่จะปรากฏบนโซเชียลมีเดีย หรือชื่อที่เหมาะกับแบรนด์หรือธุรกิจครอบครัว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนสำหรับบางครอบครัวเท่านั้น
ธุรกิจที่ไม่ได้มีดีแค่ ‘ชื่อ’
นักตั้งชื่อมืออาชีพในไทยกับประเทศตะวันตกต่างกันที่ชื่อของคนไทยจะผูกกับความเชื่อมากกว่า นักตั้งชื่อที่เราคุ้นเคยจึงมักเป็นพระอาจารย์อาวุโส หรือไม่ก็หมอดูที่เชี่ยวชาญ แต่สำหรับฝั่งตะวันตกแล้ว การตั้งชื่อมีหลักเกณฑ์ที่น้อยกว่าของวัฒนธรรมไทยมาก แล้วก็ขึ้นอยู่กับแรงบันดาลใจอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย
ธุรกิจการให้บริการตั้งชื่อเด็กทารกของตะวันตกจึงต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ผสานกับศาสตร์อื่นๆ ด้วย เช่น นิรุกติศาสตร์ เลขศาสตร์ รวมถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมของชื่อ เช่น Eloise, Georgia, Beatrice หรือ Emmeline ที่กำลังได้รับความนิยมเพราะเป็นชื่อที่พบได้บ่อยในกลุ่มสาวชนชั้นสูงในสมัยก่อน โดยยึดความต้องการของพ่อและแม่เด็กเป็นหลัก
อีกทั้งแพ็กเกจราคาต่างๆ ในธุรกิจ What’s in A Baby Name ของฮัมฟรีย์ก็มีบริการที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญจากหลายองค์ความรู้ด้วย เช่น
[ ] แพ็กเกจในราคาเริ่มต้นที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 55,000 บาท)
ลูกค้าจะได้รับการให้คำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ผ่านทางโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่จะทำการสำรวจความต้องการของพ่อแม่ผ่านแบบสอบถามเชิงลึก โดยทีมงานจะประมวลข้อมูลที่ได้มา ทั้งรสนิยม ความชอบ ครอบครัว รวมถึงแรงบันดาลใจของพ่อแม่ เพื่อออกแบบรายชื่อที่ดีที่สุดที่จะสะท้อนตัวตนของเด็กน้อยได้อย่างชัดเจน
[ ] แพ็กเกจระดับกลาง
บริการที่เหมาะกับครอบครัวที่กำลังประสบกับปัญหาหนักใจ ไม่เพียงแต่เรื่องชื่อของลูกรักเท่านั้น แต่การดูแลสุขภาวะของครอบครัว โดยเฉพาะร่างกายและอารมณ์ของแม่ยังสำคัญมาก จนต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาทางอารมณ์อย่างใกล้ชิด
[ ] แพ็กเกจแบบครบวงจร
บริการแบบครบวงจรนี้เหมาะกับเด็กที่โตไปอาจจะต้องพบปะกับผู้คนมากมายในแวดวงสังคม เช่น ครอบครัวนักธุรกิจ หรือผู้ใหญ่บางคนก็เลือกใช้บริการนี้เพื่อออกแบบชื่อในวงการของพวกเขา เช่น ศิลปิน ดารา เป็นต้น
โดยเจ้าหน้าที่จะสำรวจข้อมูลเชิงลึกของวงศ์ตระกูล แนวโน้มทางธุรกิจ เพื่อสร้างรายชื่อที่เหมาะกับแบรนด์ให้แก่เด็กทารก รวมไปถึงรวบรวมรายชื่อยอดนิยมที่ติดหู แต่ก็โดดเด่น และเหมาะกับวงการอาชีพให้แก่ลูกค้าที่ต้องการชื่อในวงการอีกด้วย ซึ่งแพ็กเกจระดับหรูหราครบวงจรนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับ What’s in A Baby Name ถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 370,000บาท) ต่อเด็กหนึ่งคน
สำหรับบางครอบครัวแล้ว ธุรกิจการตั้งชื่อในราคานี้อาจดูเกินความจำเป็นไปมาก แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘การสร้างชื่อ’ แล้ว ชื่อสำคัญกับตัวตนของคนมากกว่าที่คิด ทั้งคุณค่าที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของเจ้าของชื่อ รวมถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดกับแบรนด์และธุรกิจซึ่งพ่อแม่ได้วางแผนให้กับลูกของเขาเผื่ออนาคตแล้ว
ฮัมฟรีย์มองว่าลูกค้าของเธอเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตัวเอง และใส่ใจในทุกเรื่องราว แม้กระทั่งการออกเสียงเรียก ‘ชื่อ’ ที่ติดตัวมาก็เท่านั้น แล้วคุณเคยเจอชื่อคนไทยที่แปลกใหม่ และแหวกแนวที่สุดในชีวิตกันบ้างหรือยัง?
อ้างอิง
– This Writer Charges Wealthy Parents $10,000 for an “On Brand” Baby Name : Jennifer Geer, Medium – https://bit.ly/4aYM0xR
– A BESPOKE CONSULTING FIRM WITH AN INTUITIVE, HOLISTIC APPROACH : What’s in A Baby Name – https://bit.ly/3xlB3ss
– This is what it’s like to be a professional baby namer : Jennifer Savin, Cosmopolitan – https://bit.ly/3Vt4npg
#babynamer
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast