‘งานล้นท่วมหัว แต่ค่าตัวไม่ขยับ’ พนักงานเงินเดือนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กันไหม?
พอเงินเดือนออก ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็วิ่งเข้ามาเรียงต่อคิวกันทันที ทั้งค่ากิน ค่าอยู่ ค่าน้ำ ค่าไฟ และหนี้ต่างๆ เมื่อต้องหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือนออกไปก็ได้แต่สงสัยว่านี่เป็นเงินเดือนหรือ ‘เงินทอน’ กันแน่?
ด้วยพิษเศรษฐกิจที่บีบให้คนต้องทำงานให้หนักขึ้นจึงจะอยู่รอด มนุษย์เงินเดือนจำนวนไม่น้อยจึงเลือกทางที่น่าจะคุ้มค่าที่สุด นั่นก็คือ ‘การลงทุนกับตัวเอง’ ด้วยการสะสมประสบการณ์และเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นกับอาชีพ
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาทักษะที่จำเป็นกับคนทำงานยุคใหม่มีอยู่ 3 ทักษะที่นอกจากจะสำคัญแล้ว ยังช่วยให้เราสามารถเรียกเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้นได้ด้วย ส่วนทักษะที่ว่ามานั้นจะมีอะไรบ้าง? อ่านต่อได้ในบทความนี้
‘เรื่องเงินเรื่องใหญ่’ ปัญหาหนักใจที่คนทำงานต้องเจอ
ปัญหาเรื่องชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือไม่มีเงินเก็บที่เกิดขึ้นกับคนวัยทำงานคือสิ่งที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่อง “ธรรมดาสามัญ” เพราะนอกจากคนไทยแล้ว คนวัยทำงานประเทศอื่นก็สู้งานสู้ชีวิตด้วยค่าแรงอันน้อยนิด และมีค่าใช้จ่ายจนแทบไม่เหลือเงินเก็บเช่นเดียวกัน
จากการสำรวจที่เผยแพร่ในปี 2024 ของ Dayforce ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลเผยว่า 40% ในสหรัฐอเมริกาไม่ได้รับค่าจ้างเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตและครอบคลุมความต้องการพื้นฐานของตนเองและครอบครัว
ภาระการเงินที่หนักหน่วงนี้ไม่เพียงแต่จะสั่นคลอนคุณภาพชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังกระทบกับสุขภาพจิตของคนทำงานอีกด้วย เนื่องจากการที่เราทำงานอย่างหนัก แต่ได้เงินเดือนไม่คุ้มค่ากับแรงที่ลงไปอาจทำให้เราเกิดความเครียด ความกังวล และคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่าพอสำหรับค่าจ้างที่สมเหตุสมผล ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดแบบนี้อาจนำไปสู่การกดดันตัวเองให้ทำงานหนักขึ้น ซึ่งการกดดันตัวเองเช่นนั้นก็อาจจะยิ่งทำให้เกิดความเครียด และความวิตกกังวลในเรื่องงานเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากเรื่องเงินอีกก็ได้
อย่างไรก็ตาม การทำงานให้หนักขึ้น หาอาชีพเสริม อาชีพพิเศษ หรือเปลี่ยนงานอดิเรกให้เป็นเงินที่หลายคนกำลังทำอยู่ในช่วงนี้อาจจะสร้างแพสชันทางการเงินให้กับเราได้ก็จริง แต่กลยุทธ์นี้เคยใช้ได้ผลดีในหมู่คนทำงานเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งในปัจจุบันอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป
ในโลกการทำงานยุคปัจจุบัน การทำงานหนัก หรือแม้แต่การจบจากสถาบันที่มีชื่อเสียงไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก กลับกันแล้วผู้ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมักจะเป็นคนที่เชี่ยวชาญในทักษะที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดและใช้ความรู้ที่ตัวเองมี รวมถึงกลยุทธ์แทบทุกอย่างในการยกระดับตัวเองในอุตสาหกรรมนั้นๆ จนไม่มีใครสามารถทดแทนตำแหน่งของคนคนนั้นได้
ด้วยเหตุนี้องค์กรจึงต้องการพนักงานที่ชำนาญในทักษะที่จำเป็น และยินยอมที่จะจ่ายเพื่อรักษาพนักงานคนนั้นเอาไว้ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้คนทำงานในยุคปัจจุบันสามารถเพิ่มรายได้ได้อย่างมั่นคงที่สุดก็คือการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่องานของเราให้ถูกจุดต่างหาก
3 ทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มเงินเดือนให้กับมนุษย์สู้งานมีอะไรบ้าง?
ในโลกของการทำงานมีทักษะที่จำเป็นต่ออาชีพต่างๆ มากมายนับไม่ถ้วน ยิ่งไปกว่านั้นหนึ่งอาชีพอาจจะต้องเรียนรู้และเข้าใจทักษะมากกว่าหนึ่งทักษะ เช่น อาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัว หรือผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องมีทักษะความเป็นผู้นำ ทักษะในการบริหารจัดการ วางแผนกลยุทธ์ในธุรกิจของตัวเอง อีกทั้งยังต้องตามเทรนด์ผู้บริโภคให้ทันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกทักษะจะสามารถเรียกเงินเดือนในระดับที่สูงได้ เราในฐานะคนทำงานจำเป็นจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์โลกในปัจจุบันว่าผู้บริโภคต้องการอะไร อุตสาหกรรมหรือธุรกิจต่างๆ กำลังต้องการอะไร และสิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ ‘เรา ธุรกิจ หรือองค์กรจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร?’
และนี่คือ 3 ทักษะแห่งโลกทำงานยุคใหม่ที่ Forbes ยกให้เป็น 3 ทักษะทำเงินที่คนทำงานยุคนี้ไม่มีไม่ได้
[ ] ทักษะด้าน AI
ความรู้และความเข้าใจพื้นฐานใน AI ประเภทต่างๆ ช่วยให้เราสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงานของเราได้ นอกจากจะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากขึ้นแล้ว AI ยังช่วยเพิ่มผลผลิตในการทำงานได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น AI ยังมีความสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจมาก จนบางธุรกิจอาจเต็มใจจ่ายเงินพิเศษเกือบ 50% ของเงินเดือนให้กับพนักงานที่มีทักษะด้าน AI มากกว่าด้วย
[ ] Social Influence
อีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ควรเรียนรู้เพื่อเพิ่มเงินเดือนในยุคนี้ก็คือ ‘ทักษะการสร้างอิทธิพลทางสังคม’ โดยตามรายงาน Future of Jobs ปี 2025 ของ World Economic Forum ระบุว่าทักษะด้านความเป็นผู้นำและอิทธิพลทางสังคมถูกจัดอันดับให้เป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการอันดับที่สามของปี 2025
โดยทักษะนี้เราสามารถวัดได้จากการลองค้นหา ‘ชื่อ’ ของตัวเองบน Google หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ร่องรอยดิจิทัลเหล่านั้นจะเป็นตัวสะท้อนตัวตน แบรนด์ดิ้ง และความน่าเชื่อถือของเรา เช่นโปรไฟล์ LinkedIn หรือรูปแบบคอนเทนต์ในช่องทางโซเชียลของเรา เป็นต้น
[ ] ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์
การคิดเชิงวิพากษ์ และทักษะการวิเคราะห์เป็นสองทักษะที่ไม่ใช่เทคนิคด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ World Economic Forum จัดอันดับทักษะนี้เป็นทักษะอันดับหนึ่งที่เป็นที่ต้องการ และครองตำแหน่งทักษะที่นายจ้างมองหาเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
การคิดเชิงวิเคราะห์ช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเรื่องราวต่างๆ โดยอิงจากข้อมูล กำหนดกลยุทธ์บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงแทนที่จะเป็นการคาดเดา ยิ่งไปกว่านั้นการวิเคราะห์ข้อมูลยังช่วยให้เราสามารถบรรลุผลลัพธ์ในเรื่องงาน การทำธุรกิจ หรือเป้าหมายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
การทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า สามเท่า หรือสร้างรายได้จากการประกอบอาชีพเสริมอาจไม่ใช่คำตอบของการทลายข้อจำกัดทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน แต่การทำงานอย่างชาญฉลาด และสร้างชิ้นงานด้วยทักษะระดับสูง รวมถึงมีชุดความคิดที่เป็นระบบต่างหากที่จะช่วยให้เราสามารถกลายเป็นพนักงานที่หลายบริษัทกำลังตามหา
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบการมือใหม่ก็ตาม ลองเพิ่มทักษะที่จำเป็นทั้ง 3 ทักษะนี้แล้วสร้างผลงานที่ไม่มีใครเลียนแบบหรือทำตามได้ง่ายๆ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้นอย่างแน่นอน
อ้างอิง
– 3 Skills That Can Double Your Salary In 2025 : Rachel Wells, Forbes – https://bit.ly/4aRDSkq
– 2024 Dayforce Living Wage Index : Dayforce – https://bit.ly/3EG1tIG
#trend
#worklife
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast