The Last of Us – เกิดเป็นมนุษย์​ “ต้องเอาตัวรอด”

398
อะไรที่น่ากลัวกว่ากันระหว่าง เชื้อไวรัส กับ ความดำมืดภายในจิตใจมนุษย์?
 
‘The Last of Us Part II’ คือเกมส์ที่ออกมาตีแผ่ปัญหาสังคมได้อย่าง “ถูกที่ถูกเวลา”
 
ด้วยการนำเสนอ โลกที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การแบ่งพรรคแบ่งพวก และโรคระบาดพรากชีวิตผู้คน ฟังดูแล้วไม่ได้ต่างอะไรไปจากโลกแห่งชีวิตจริงที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันเลย..
 
โลกที่ ‘ศีลธรรม’ ถูกแทนที่ด้วยการ ‘เอาตัวรอด’ ความสิ้นหวังของมนุษยชาติ เส้นทางที่ได้เรียนรู้จากตัวละครหลัก ที่ค่อยๆ เติบโต และรู้จัก “ยอมรับความเป็นจริง” ว่าไม่มีสิ่งใดสวยงามรออยู่
 
 
“ใช้ชีวิตสุดดิบเถื่อน กล้าเผชิญความท้าทาย และรู้จักเอาตัวรอดเป็นยอดดี”
 
เป็น 3 แนวคิดสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่านด่านเกมส์นี้ไปได้
 
และไม่มีคำว่า “ประนีประนอม” ให้แก่เพื่อนมนุษย์ เมื่อชีวิตต้องถึงยามเข้าตาจน
 
ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์ หรือ ซอมบี้ เราก็ต้องตัดสินใจลงมืออย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้ทุกอย่างสายเกินไป ก่อนที่เราจะกลายเป็น ‘เหยื่อ’ แทนผู้ล่า
 
อย่างไรก็ดี เมื่อยิ่งเราเจาะลึกไปสู่แก่นแนวคิดของเกมส์ กลับพบความจริงที่ว่า อันตรายที่แท้จริงกลับซ่อนอยู่ภายในตัวเรา น่ากลัวยิ่งกว่าบริบทรอบข้างที่ถาโถมเข้ามา
 
ในเกมส์ ตัวละครหลักอย่าง ‘เอลลี่’ ผู้มีภูมิต้านทานเชื้อไวรัส ‘Cordyceps Virus’ ที่สามารถเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ได้
 
ส่งผลให้เธอกลายเป็นที่ต้องการของกลุ่มองค์กรที่แสวงหาผลประโยชน์จากสิ่งนี้ ไม่ได้คิดถึงการแจกจ่าย ส่งต่อ หรือแบ่งปัน โอกาสในการรักษาโรคร้ายกับกลุ่มคนอื่นๆ
 
ความเห็นแก่ตัวที่เกิดขึ้น นำไปสู่การขัดแย้งอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด และนำไปสู่วาระ “การเอาคืน” ของหลากหลายฝ่าย ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเรื่องนี้
 
เหตุนี้ทำให้เนื้อเรื่องภายในเกมส์ มีการรบราฆ่าฟันกันเองในหมู่มนุษย์ มากกว่าการต้องปะทะนองเลือดกับฝูงซอมบี้เสียอีก…
 
 
เนื้อหาที่ซ่อนอยู่อย่างมีนัยยะในเกมส์นี้ ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนสังคมตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
 
โลกที่เต็มไปด้วย “ความรุนแรง” เราสามารถเห็นได้เพียงแค่เปิดข่าวขึ้นมาดูในทุกๆ วัน
 
โลกที่เต็มไปด้วยการ “แบ่งพรรคแบ่งพวก” ฝังรากลึกมาอย่างยาวนานในระบบสังคมยุคปัจจุบัน
 
เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียด ความน่ากลัวของเชื้อไวรัสในเกมส์
 
หรือแม้แต่ เชื้อไวรัสในโลกแห่งความจริงอย่างโควิด-19
 
เทียบไม่ได้เลยกับความเจ้าเล่ห์ของมนุษย์ หากจะใช้ ‘ทำลาย’ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง
 
และนี่อาจเป็น ‘ไวรัส’ ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ฝังอยู่ภายในใจเรา
 
เกมส์นี้กำลังค่อยๆ พาเราสำรวจโลกที่กำลังล่มสลาย
 
ไม่ใช่โลกภายนอก… แต่เป็นโลกที่ล่มสลายไปแล้วภายใน ‘จิตใจ’ มนุษย์
 
ปล. หากจะให้นิยามเกมส์ ‘The Last of Us Part II’ ว่ามันดีแค่ไหน?
 
เราคิดว่า “นี่อาจเป็นเกมส์ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพ้ภาพยนตร์จริงๆ เลย”
 
ไปลองดูกันครับ 
 
Written by Supakorn Thepvichaisinlapakun
Illustration by Pimpawee Pratumrat
 
อ้างอิง:
Advertisements