เงิน – ยิ่งใช้เป็นยิ่งงอกเงย

ในปี 2019 จะเป็นครั้งแรกที่ประชากรของโลกจะออนไลน์เกิน 50%

และหนึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์มากที่สุดคือ ธุรกิจทางการเงินครับ

Ernst & Young รายงานไว้ใน Banking in the Age of Disruption Report ว่า ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) ของสถาบันการเงินที่ดี จะสามารถตอบสนองโจทย์ต่างๆได้ เช่น

• ทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้น
• ทำให้ลูกค้าติดประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและลื่นไหล
• เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผลลัพธ์
• บริหารและควบคุมความเสี่ยง
• ทำให้การตัดสินใจคล่องแคล่วว่องไวขึ้น
• ทำให้พนักงานบริการลูกค้าได้ดีขึ้น
• ลดภาระทางสิ่งแวดล้อมซึ่งมาจากผลพวงของการใช้ทรัพยากรที่ลดลง

ต้องบอกว่าหัวใจของการเปลี่ยนแปลงที่กล่าวมาทั้งหมดของสายสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (consumer finance) นั้นอยู่ที่โมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) ครับ โดยผลสำรวจจาก Deloitte บอกว่า เมื่อลูกค้าได้ลองใช้โมบายแบงค์กิ้งนั้น โอกาสที่จะอยู่กับ โมบายแบงค์กิ้งนั้นสูงถึง 92% เลยทีเดียว

คนยุคใหม่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอยากไปธนาคารกันครับ จากการสำรวจล่าสุด คนรุ่นมิลเลนเนียล 71% (Millennial Generation) บอกว่าถ้าจะไปธนาคาร ขอไปหาหมอฟันจะดีกว่า ดังนั้นจะเป็นไปได้ว่า พฤติกรรมการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับการเงินของคนยุคใหม่เปลี่ยนไปอย่างมากจริงๆ โดยเฉพาะในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้

เรื่องของการเงินส่วนบุคคลยุคใหม่นั้นต้องบอกเลยครับว่า ถนนทุกสายมุ่งไปสู่ โมบายแบงค์กิ้ง จริงๆเหตุผลหลักๆน่าจะมีอยู่ 4 เรื่องด้วยกันครับ

1. แอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ทุกวันนี้เรากดโอนเงินกันอย่างรวดเร็วผ่านมือถือ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปไม่กี่ปี การโอนเงินผ่านบัญชียากกว่านี้มากเรียกว่าบางทีต้องใช้เวลา 5-10 นาทีเลยทีเดียว

เรื่องของการจ่ายเงินเราพัฒนามาถึงขั้นที่ใช้ QR Code กัน เรียกว่าไม่ต้องพกเงินสดกันออกจากบ้านได้เลยทีเดียว และสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเราสามารถติดตามการใช้เงินของเราได้ง่ายมาก ทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ทางการเงินของเราได้ แบบที่คนที่ทำธุรกิจจะพูดเสมอๆครับว่า สิ่งที่ได้รับการวัดก็จะได้รับจัดการ (what gets measured, gets managed.)

2. การชำระเงินผ่านแชทบอทและแอปส่งข้อความ

เดี๋ยวนี้การจ่ายเงินผ่าน แอปส่งข้อความ (messenger app) ต่างๆก็มีมากขึ้นครับ เป็นการเพิ่มความสะดวกทั้งกับร้านค้าและผู้ซื้อ รวมไปถึงแชทบอท (Chatbots) ที่คอยมาสรุป และให้ข้อมูลเพิ่มเติมแบบครบวงจร ตั้งแต่การบอกข้อมูลเรื่องนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ หรือการตอบข้อสงสัยของลูกค้าอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็น จุดสัมผัสที่เกิดขึ้นกับลูกค้า (touchpoint) ที่สำคัญมาก เพราะเป็นการทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนมีที่ปรึกษาที่สามารถตอบคำถามต่างๆได้อย่างทันท่วงที

3. ทุกอย่างจะสามารถจ่ายได้ด้วยแอปพลิเคชัน

ทุกวันนี้ออกจากบ้านลืมกระเป๋าเงินยังไม่เป็นไร แต่ถ้าลืมมือถือล่ะแย่แน่ๆครับ เพราะเราสามารถจ่ายของทุกอย่างผ่านมือถือได้ ตั้งแต่ไปซื้อของตามร้าน จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อประกัน หรือกองทุนรวมก็ได้ ถ้าจิตกุศลอยากทำบุญก็ยังได้ อัตราการเติบโตของโมบายเพย์เมนต์ (Mobile Payment) นั้นสูงๆมากโดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกิน 3 ล้านล้านเหรียญ ในปี 2021

นอกจากจะจ่ายเงินแล้วจะรับเงินผ่าน QR code ก็ยังได้ครับ ชีวิตดีขึ้นเยอะมากพูดจริงๆ  มุกไม่มีเงินทอนตอนทวงเงินเพื่อนจะหมดไป

4. แอปพลิเคชันจะทำให้คนมาสนใจเรื่องเงินและใช้เงินได้อย่างฉลาดมากขึ้น

เชื่อไหมครับว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้นะครับว่าตัวเองบริหารการเงินได้ดีแค่ไหน ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ได้วิเคราะห์รายได้การออม และที่สำคัญผลการลงทุนที่ดีพอ แต่ด้วยความง่ายของการใช้ โมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) ทำให้เราสามารถวิเคราะห์การใช้เงินได้ดีขึ้น รู้ว่าค่าใช้จ่ายอะไรที่มากเกินไป รู้ว่าลงทุนเรื่องอะไรที่เหมาะกับเรา ฯลฯ

Accenture ได้ระบุว่าธนาคาร รถยนต์ และอิเล็กทรอนิคส์ ในสามธุรกิจที่จะโดนผลกระทบจากดิจิทัลดิสรัปชั่น (Digital Disruption) มากสุดในช่วงปีนี้ถึงปี 2020

• 85% ของผู้บริหารเห็นตรงกันว่าขอบเขตการให้บริการของธนาคารแบบเดิมๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
• 45% ของผู้บริหารเห็นธุรกิจทางการเงินกำลังอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านที่เข้มข้นหรือการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation)
• 27% มีความเห็นว่า “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” (Internet of Things – IoT) จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของธุรกิจชนิดพลักหน้ามือเป็นหลังมือ

---

และหลังจากที่ลองใช้มาหลายแอป ต้องบอกเลยว่า SCB Easy เวอร์ชั่นใหม่นั้นให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดจริงๆครับอันนี้เขียนโฆษณาให้ก็จริงแต่ใช้เองด้วยนะครับ เพราะเรื่องเงินนี่เรื่องใหญ่มาก ถ้าไม่ดีจริงผมไม่กล้าแนะนำชัวร์ แต่ต้องบอกว่าชอบ SCB Easy มาก ตอนนี้เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่เปิดใช้เยอะที่สุดเลย

ที่ใช้เยอะสุดเห็นจะเป็นเรื่องของการซื้อกองทุนครับเพราะผมเป็นคนชอบเก็บเงินผ่านการซื้อกองทุน รวมถึงการซื้อกองทุนเพื่อเหตุผลทางด้านภาษีอย่าง LTF กับ RMF ด้วยครับ

ฟังก์ชันบันทึกช่วยจำของแอป ยังช่วยเตือนความจำต่างๆเช่น ยอดเงินเข้า–ยอดเงินออก หรือ โอนจ่ายบิลอะไรไป ก็จะมีช่องให้พิมพ์บันทึกโน้ตด้วยตัวเองว่าใครโอนเงินเข้ามา หรือ จ่ายค่าอะไร ฟังก์ชั่นนี้เหมือนจะธรรมดาแต่มันช่วยคุณให้จำได้ทุกรายการโดยการบันทีกบนแอป และยังแก้ไขหรือย้อนดูได้ตลอดเวลา

หากต้องการจะจ่ายบิลตั้งแต่บัตรเครติด ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสินเชื่อ ก็ทำได้สบายครับ หรือจะเติมเงิน Easy Pass, True Money หรือ Rabbit Line Pay ก็ทำได้

อีกเรื่องที่ชอบมากคือ การจัดการเรื่องสมุดเช็คครับ จากที่สมัยก่อนต้องขับรถไปสาขารอคิววุ่นวายมาก แต่เดี๋ยวนี้บอกเลยครับว่าง่ายมากๆ จะซื้อสมุดเช็คก็กดสั่งผ่านแอป SCB Easy จากมือถือ เพียงเท่านั้นสมุดเช็คก็มาส่งถึงที่ได้ทันที นี่แหละ จะตรวจสอบสถานะเช็คผ่านมือถือก็ได้ไม่ต้องนั่งลุ้นว่าเช็คจะผ่านรึยัง เช็คจะเด้งไหม จะเปิดใช้งานสมุดเช็คหรืออายัดเช็คก็ทำได้ง่ายๆบนแอป SCB Easy ผ่านมือถือได้ครบ เรียกว่าครบวงจรมากๆ

ทั้งหมดทั้งปวงนี้กล้าบอกเลยครับว่าแอป SCB Easy App จะทำให้ชีวิตทางการเงินของคุณเป็นเรื่องง่าย

ง่ายไม่พอยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โหลดเลยครับ รับรองจะติดใจ