หลายๆ คนที่ต้องทำงานที่บ้านในช่วงล็อกดาวน์ คงมีช่วงที่รู้สึก ‘เหงา’ และ ‘เบื่อหน่าย’ กับชีวิตประจำวัน ความรู้สึกเหล่านี้ส่งผลให้เราเครียดอยู่ลึกๆ และไม่มีสมาธิในการนั่งทำงานนานๆ
ในสถานการณ์ปกติ เราคงออกไปพบปะครอบครัว หรือได้เจอเพื่อนร่วมงานบ้าง ได้ระบายสารทุกข์สุกดิบให้ใครสักคนฟัง แต่พอต้องอยู่แต่ในห้องนานๆ บ่อยครั้งเรารู้สึกว่า เราอยากคุยกับใครสักคน แต่ไม่รู้จะคุยกับใคร
ถ้าเราบอกคุณว่า ‘การพูดกับตัวเอง’ จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ล่ะ?
ก่อนที่จะพาไปรู้จักกับข้อดีของการคุยกับตัวเองนั้น เราอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจใหม่เสียก่อน ว่าการพูดคนเดียวเป็นเรื่อง ‘ปกติ’ เพราะมนุษย์เราสื่อสารกับตัวเองอยู่ในหัวตลอดเวลาอยู่แล้ว
เราคุยกับตัวเองตลอดแบบไม่มีหยุดพัก
“สมองของเราทำงานอยู่ทุกวินาที เราสร้างคำพูดและรูปภาพต่างๆ ในหัวเสมอ” พาโลมา มารี-เบฟฟา รองศาสตราจารย์ภาควิชาจิตวิทยาจากมหาลัยวิทยาลัยเบงกอลได้อธิบายไว้ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เราไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกมาทุกครั้ง เป็นเพราะว่าสมองของเรานั้นแบ่งออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งคือด้านที่ผลิตไอเดีย ความคิดต่างๆ ออกมา แต่ไม่เป็นระเบียบ กระจัดกระจายไปทั่ว ส่วนอีกซีกคือด้านที่ทำงานเป็นระบบ เมื่อเราพูดบางอย่างออกมา สมองด้านนี้จะคอยเรียบเรียงความคิดสะเปะสะปะ ให้เป็นเรื่องราว และสื่อสารออกไปให้ผู้อื่นเข้าใจ
ดังนั้นการคุยกับตัวเองออกมาดังๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ที่สำคัญยังมีประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและทำให้เรามีความสุข
การพูดกับตัวเองทำให้ ทำอะไรได้ดียิ่งขึ้น
มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การพูดออกเสียงกับตัวเองนั้น ทำให้เราทำบางอย่างออกมาได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องการเรียน หรือเรื่องกีฬา ตัวอย่างเช่น ในปี 2012 มหาวิทยาลัยเบงกอลได้ทดสอบให้ผู้ทดลองทำภารกิจหลายๆ อย่าง โดยที่ผู้ทดลองต้องเลือกว่าจะอ่านคำสั่งในแต่ละภารกิจแบบ ‘ออกเสียง’ หรือ ‘อ่านในใจ’ ผลการทดลองพบว่าคนที่อ่านออกเสียงมีสมาธิและสามารถทำภารกิจได้ดีกว่า
ส่วนงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบว่า การคุยกับตัวเองออกมาดังๆ สามารถเพิ่มความ ‘มั่นใจ’ และช่วยให้เรา ‘แก้ปัญหายากๆ’ ได้สำเร็จ
อีกงานวิจัยที่ศึกษาประเด็นเดียวกันนี้กับนักกีฬาบาสเก็ตบอล ระบุว่านักกีฬาที่พูดออกเสียงกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการให้กำลังใจหรือออกคำสั่ง พวกเขามีแนวโน้มที่จะรับ-ส่งลูกได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจกว่า.
เท่านั้นยังไม่พอ แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างการหาของ ก็มีงานวิจัยที่บอกว่า ถ้าเราพูดชื่อสิ่งของออกมาดังๆ เราจะหาเจอได้เร็วกว่า เพราะเมื่อพูดออกมาแล้ว เราจะเห็นภาพสิ่งของนั้นๆ ในหัว (แต่ว่าต้องเป็นสิ่งของที่เราเคยเห็นมาก่อนเท่านั้นนะ)
การพูดกับตัวเองทำให้ ทำให้มีความสุขมากขึ้น
การพูดจาดีๆ กับตัวเองถือเป็นการดูแลจิตใจรูปแบบหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การชมตัวเองว่า ‘เก่งมาก’ เมื่อทำอะไรสักอย่างสำเร็จ หรือ การปลอบตัวเองว่า ‘ไม่เป็นไร เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น’ ในวันที่ต้องเผชิญกับเรื่องแย่ๆ
“คนที่ใจดีกับตัวเองมักจะมีความสุขกว่าเสมอ” ศาสตราจารย์มาร์ค เลียรี จากภาคจิตวิทยาและประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยดุ๊ก ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ตลอดระยะเวลา 7 ปี
การพูดสิ่งดีๆ กับตัวเองเป็นประจำนั้นช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย ตั้งแต่การหากุญแจรถไม่เจอ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่างการหย่าร้าง สิ่งดีๆ ที่เราบอกตัวเองมาตลอดนั้นช่วยสร้างพลังบวกและภูมิต้านทานทางจิตใจ เราจึงไม่โทษตนเองมากไปเมื่อเกิดเรื่องผิดพลาด
แม้แต่คนอายุมากๆ ที่รุมเร้าไปด้วยอาการป่วย การศึกษายังชี้ให้เห็นว่า พวกเขารับมือกับโรคและวัยชราได้อย่างดี เพราะคนเหล่านี้ใจดีกับตัวเองในวันแย่ๆ
นอกจากการพูดกับตัวเองยังมีวิธีอื่น ๆ ที่ทำให้มีความสุขกับบทความ มีความสุขกับชีวิตได้ในทุกๆ วัน เพียงยอมรับ ‘ความจริง 10 ข้อ’ นี้
อยากพูดกับตัวเองบ้างเริ่มอย่างไรดี
ในปี 2014 มีงานวิจัยหนึ่ง เผยว่า ในการคุยกับตัวเองนั้น หากเราแทนตัวเองด้วยสรรพนามบุรุษที่ 2 และ 3 มีแนวโน้มว่าเราจะจัดการความคิดได้ดีกว่าการแทนตัวเองด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1
ถ้าเราอยากให้กำลังใจตัวเองว่า “ฉันทำได้อยู่แล้ว!” ให้พูดว่า “เธอทำได้อยู่แล้ว!” หรือแทนชื่อตัวเองราวกับว่าเรากำลังพูดถึงเพื่อนคนหนึ่ง เช่น “เบลล์ทำได้อยู่แล้ว!”
วิธีนี้จะช่วยดึงตัวเราออกจากความเครียดได้ดี เพราะเราจะรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจ มากกว่าเป็นคนที่เผชิญเหตุการณ์นั้นเอง การมองจากมุมมองบุคคลภายนอกยังช่วยให้เราเจอวิธีแก้ไขปัญหาที่เรามองไม่เห็นตั้งแต่แรกเพราะถูกอารมณ์บดบังอยู่
ถ้าเรารู้สึกดีเมื่อได้ยินใครบางคนปลอบใจ ทำไมเราจะปลอบตัวเองไม่ได้บ้างนะ? ในเมื่อท้ายที่สุดแล้ว คนที่เราควรใส่ใจมากที่สุดก็คือ ‘ตัวเราเอง’ แม้จะเป็นไอเดียที่ฟังดูประหลาดและชวนเขินนิดๆ แต่การพูดกับตัวเองนั้นอาจช่วยเราได้มากกว่าที่คิดนะ 🙂
อ้างอิง:
https://on.wsj.com/2STSdJ4
https://bit.ly/3fNSqGI
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#softskill
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/
