Work From Home แบบนี้ พอเอางานมาทำที่บ้าน ทั้งที่มีงานมากมายกองท่วมหัวรออยู่ตรงหน้า ขณะกำลังจะจรดปลายนิ้วไปบนแป้นพิมพ์อยู่แล้วเชียว จู่ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นกองหนังสือรกๆ บนโต๊ะ หนังสือมันก็วางอยู่ตรงนั้นมาเป็นเดือนแล้วแหละ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้มันช่างดึงดูดสายตา แถมยังทำให้รู้สึกขัดใจเล็กๆ ถ้าไม่ได้จัดมันให้เข้าที่เข้าทางตอนนั้นไปเลย แต่เอ๊ะ ผ้าห่มก็ยังไม่ได้พับ ไม่ได้ถูบ้านมาหลายวันแล้วด้วย ห้องน้ำก็ยังไม่ได้ขัด
สุดท้ายแล้ว ทำมันจนเสร็จทุกอย่าง
ยกเว้น ‘งาน’ … ที่ยังไม่แม้แต่จะเริ่ม
อาการแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันก็คือการ ‘ผัดวันประกันพรุ่ง’ อย่างหนึ่งนี่เอง
ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องปกติของคนทั่วๆ ไป ที่ใครๆ ต่างจะต้องเคยมีการแอบถ่วงเวลาก่อนเริ่มทำงานกันสักเล็กสักน้อยกันบ้างเหมือนกัน
ที่คนเลือกจะผัดวันประกันพรุ่งแบบนี้ ก็ไม่ใช่เพราะเป็นคนขี้เกียจ หรือจัดลำดับและให้ความสำคัญกับเวลาไม่ถูกซะทีเดียว เพราะหลายครั้งปัญหานี้ก็มักจะยิ่งเกิด ยิ่งเมื่อเจอกับโพรเจกต์งานใหญ่ๆ และมีความรู้สึกว่า การทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ มันช่างยากเย็น ดูอีกไกลซะเหลือเกิน คนเราจึงมักจะหาอะไรทดแทนความรู้สึกนี้ด้วยการจัดการอะไรสักอย่างให้เสร็จแทน อย่างเช่น การลุกขึ้นมาจัดบ้านแบบนี้ อย่างน้อยก็พอจะทดแทนความรู้สึกที่ว่า งานหลักของตัวเองน่าจะยังไม่เสร็จง่ายๆ ขอมีอะไรที่ทำให้เสร็จสักอย่าง พอให้รู้สึกสบายใจขึ้นมาได้บ้างก็ดี
นอกจากนี้สำหรับคนที่เป็น Perfectionism ต้องทำอะไรให้สมบูรณ์แบบไปเสียหมด ก็มักจะมีอาการแบบนี้ตอนคิดงานอะไรสักอย่างเหมือนกัน ด้วยความที่เป็นคนช่างคิด และยังไม่มั่นใจ อยากตั้งใจทำงานนั้นออกมาให้ดี จนมักจะใช้เวลากับงานนั้นให้นานขึ้น ขอเวลาในการคิดงานเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด โดยผ่านการประวิงเวลา ทำนู่นทีนี่ที ก่อนจะได้เริ่มทำงานจริง ก็มักจะเริ่มทำเอาเกือบวินาทีสุดท้าย เมื่อตอนเดดไลน์ใกล้เข้ามาซะทุกที แต่ก็เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นี่จะเป็นงานที่ผ่านการคิดมาดีที่สุดแล้วจริงๆ
การผัดวันประกันพรุ่งนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาทำให้รู้สึกผิดอะไรกับตัวเองนัก เพราะการยืดเวลาทำงานออกไปแบบนี้ยังมีข้อดีอีกอย่าง จากผลการวิจัยของนักจิตวิทยา Dianne Tice และ Roy Baumeister ได้ทำการทดสอบกับนักศึกษามหาวิทยาลัย พบว่า คนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งแบบนี้ จะมีความเครียด และการเจ็บป่วยน้อยกว่า เพราะระหว่างทำงานเครียดๆ การพักผ่อน หรือหาอะไรอย่างอื่นทำ เพื่อให้ช่วยคลายกังวลไปได้บ้างก็เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ซึ่งหากเป็นการผัดวันประกันพรุ่งในระดับเล็กน้อยก็ยังไม่เป็นไร แต่ถ้าหากเป็นมากๆ เข้า จนกินเวลาทำงานจริงไปแทบหมด ก็ต้องระวังว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของงานได้เหมือนกัน
เพราะอย่างนั้น คราวหน้าถ้าคิดจะจัดบ้านตอนทำงานเมื่อไหร่ ก็ลองจัดการเวลาตัวเองดูให้ดีๆ ก่อนด้วยเช่นกันว่า จะทำงานเสร็จทันเวลาหรือไม่ ถ้ากะเวลาไว้ดีแล้ว ก็ไปกวาดห้องต่อกันได้เลย!
อ้างอิง:
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/
