เคยตั้งเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่พอๆ กับการไปเหยียบดวงจันทร์ไหม

1512
ตั้งเป้าหมาย

แน่นอนว่าหลายคนเคย โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่เรารู้สึกฮึกเหิมเป็นพิเศษ ปณิธานปีใหม่ของเรามักจะเต็มไปด้วยความฝันสุดทะเยอทะยาน ตอนเขียนเรามั่นใจสุดๆ ว่า ‘ปีนี้แหละ! ฉันต้องทำมันให้ได้’ แต่สุดท้ายก็อาจจะลงเอยด้วยเหตุการณ์ซ้ำเดิม ซึ่งก็คือ…ทำไม่ได้อีกแล้ว!

ความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า เป็นเพราะฝันเราใหญ่เกินไปหรือเปล่า หรือจริงๆ แล้วเพราะเราขี้เกียจและไร้ความสามารถ

เปล่าเลย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตัวเราหรือความฝันของเรา แต่อยู่ที่ ‘วิธีการ’ ต่างหาก

Advertisements

ถ้าเราบอกคุณว่าเรามีสูตรลับสู่ความสำเร็จในชีวิต ปีนี้คุณจะลองทำตามความฝันของคุณอีกครั้งไหม ถ้าคุณตอบตกลง เราจะบอกความลับนี้ให้ฟัง… ตกลงอย่างงั้นหรือ? โอเค ขยับเข้ามาใกล้ๆ สิ

ความลับก็คือ เริ่มต้นด้วย ‘ก้าวเล็กๆ’ ยังไงล่ะ!

The Power of Small Habits: พลังที่ยิ่งใหญ่ของนิสัยเล็กๆ

จริงๆ แล้วมี ‘สูตรสำเร็จ’ ที่ใช้ได้กับการเปลี่ยนทุกพฤติกรรมที่เราต้องการ ตั้งแต่การอ่านหนังสือทุกวัน ไปจนถึงการฝึกวิ่งมาราธอน สำหรับ บีเจ ฟอกก์ (BJ Fogg) ผู้อำนวยการห้องทดลองการออกแบบพฤติกรรมแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สูตรสำเร็จของเขาต้องมี “แรงจูงใจ ความสามารถ และตัวกระตุ้น”

ในการสร้างนิสัยใหม่ เราต้องหา ‘แรงจูงใจ’ เสียก่อน จะได้ไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับจนถอดใจเอาง่ายๆ ขั้นต่อมาคือออกแบบขั้นตอนที่เรา ‘สามารถ’ ทำได้จริง ซึ่งหมายความว่ามันต้องเป็นขั้นตอนเล็กๆ ทำได้ง่าย ขั้นที่สามคือหา ‘ตัวกระตุ้น’ เพื่อคอยเตือนเราว่าถึงเวลาลงมือแล้วนะ!

และถ้าให้ดียิ่งขึ้น เราควรให้ ‘รางวัล’ ตัวเองเมื่อทำสำเร็จด้วย สมองของเราจะได้จดจำพฤติกรรมที่ทำไปพร้อมความรู้สึกดีๆ เราจะได้อยากทำซ้ำๆ

ฟอกก์ได้ยกตัวอย่างผู้เชี่ยวชาญแผนกไอทีคนหนึ่งที่ต้องการลดน้ำหนัก ชายอายุ 43 คนนี้เริ่มจากการวิดพื้น 2 ครั้งและทำท่าแพลงก์ 5 วินาทีทุกครั้งที่แปรงฟัน (ในกรณีนี้แรงจูงใจของเขาคือลดหุ่นและตัวกระตุ้นให้เริ่มทำคือการแปรงฟันนั่นเอง) ไม่นานสิ่งนี้ก็เติบโตกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ปัจจุบันนี้ชายคนนี้อายุ 51 เขาไม่มีพุงอีกต่อไปแล้วแถมร่างกายยังแข็งแรงสุดๆ เพราะวิดพื้นวันละ 50 ครั้งและแพลงก์วันละ 5 นาทีนั่นเอง

นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้น ทีมวิจัยของฟอกก์ได้ทำการทดลองสูตรสำเร็จนี้กับคนมากกว่า 40,000 คนตลอดทศวรรษที่ผ่านมา เป็นการพิสูจน์แล้วว่าก้าวเล็กๆ นี่แหละ จะพาเราไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ได้

Make it easy, make it rewarding: ทำให้ง่ายและทำให้สนุก

หากขั้นตอนสู่เป้าหมายของเราเต็มไปด้วยบันไดสูงขั้นแล้วขั้นเล่า เราคงหมดแรงเสียก่อน ฟอกก์ได้พิสูจน์แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยาก และหากอยากให้ได้ผลที่สุด เราควรเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ทำได้ง่าย ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่ทำสำเร็จ

สิ่งที่เขาแนะนำเสมอคือ หนึ่ง เลือกนิสัยที่เราอยากเปลี่ยนหรือสิ่งที่เราอยากทำอยู่แล้ว และ สอง เลือก ‘ตัวกระตุ้น’ ให้ดี

ในวันๆ หนึ่งเราตอบสนองต่อตัวกระตุ้น (Prompt) อยู่แล้วนับร้อย บางทีเราก็ทำโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ยกตัวอย่าง หากเราเดินอยู่แล้วรู้สึกถึงหยาดฝน 2-3 หยดบนแขน เราจะกางร่มทันที หรือเวลาที่เดินเข้าห้องมืดๆ เราจะคลำหาสวิตช์เพื่อเปิดไฟก่อนเป็นอันดับแรก ฟอกก์แนะนำว่าตัวกระตุ้นที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอยู่แล้วดีที่สุด เช่น การเปิดคอมพิวเตอร์ การเปิดเครื่องทำกาแฟ หรือการคาดเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ นาย A มีอาการปวดไหล่และเป็นออฟฟิศซินโดรม มีเป้าหมายคืออยากขยับร่างกายให้มากขึ้นระหว่างวัน เขาเลยตั้งกฎไว้ว่า ทุกๆ ครั้งที่เขาลุกไปเข้าห้องน้ำหรือลุกไปดื่มน้ำ เขาจะยืดเส้นด้วยท่ายักไหล่ (Shoulder Shrug) 20 ครั้ง

Advertisements

ไม่ว่าขั้นตอนของเราจะเล็กน้อยและตัวกระตุ้นจะประหลาดแค่ไหน อย่าลืมเอ่ยปากชมเป็นรางวัลให้ตัวเองด้วยทุกครั้งนะ (‘เก่งมากนาย A!’)

1% Better Every Day: ดีขึ้นวันละนิดทุกๆ วัน

เจมส์ เคลียร์ (James Clear) ผู้เขียนหนังสือ Atomic Habits กล่าวไว้ว่า เราคาดหวังให้การเปลี่ยนแปลงมีความหมายและต้องยิ่งใหญ่เท่านั้น เราจึงสร้างขั้นตอนสู่เป้าหมายให้ยุ่งยากและสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ

แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นภายในชั่วข้ามคืน

ในทางกลับกัน การกระทำเล็กๆ ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงมาก เราวันนี้กับเราคนเมื่อวานยังไม่ต่างกันนัก แต่หากมองจากภาพใหญ่แล้ว สิ่งเล็กๆ ที่เราทำรวมกันนี่แหละจะส่งผลที่ดีในระยะยาว

ทำให้ดีขึ้น 1% ทุกๆ วัน แต่ถ้าหากผ่านไป 1 ปี หรือ 365 เท่า
จะเท่ากับว่าเราพัฒนามากขึ้นถึง 37.78% เชียวนะ!

สมมุติว่าเราอยากเรียนภาษาอังกฤษ หากเราสละเวลาเพียง 10-15 นาทีต่อวันมาท่องศัพท์แค่เพียงวันละ 5 คำ สิ้นปีเราจะรู้คำศัพท์มากถึง 1,825 คำ รู้ตัวอีกทีเราก็ดูหนังแบบเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษได้แล้ว (ในการเรียนภาษาอังกฤษ เพียงเรารู้ “คำศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุด 1,000 คำ” เราก็สามารถเข้าใจ 80% ของภาษาอังกฤษที่พูดกันในชีวิตประจำวันได้)

mm2021

เห็นพลังของก้าวเล็กๆ หรือยัง แม้จะฟังดูน้อยนิด ไม่มีค่าในตอนแรก แต่พอรวมกันแล้ว กลับเปลี่ยนชีวิตเราได้อย่างน่าอัศจรรย์

ปีที่ผ่านมาเราอาจวางแผนพลาดจนทำตามแผนไม่สำเร็จ หรือเจออุปสรรคมากมายที่เราไม่ทันคาดคิดจนต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้ ไม่เป็นไรเลย ถ้าเหนื่อยก็ต้องพักดูแลตัวเองกันบ้าง หากมีแรงแล้ว มาเตรียมตัวและวางแผนเดินทางกันใหม่

แล้วเรามาเริ่มก้าวเล็กๆ ในปีต่อไปด้วยกันนะ

สำหรับคนที่ตามหาเครื่องมือที่จะช่วยให้ก้าวเล็กๆ ของเราเป็นไปอย่างราบรื่น
อดใจรออีกไม่นาน! เพราะ “Mission To The Moon Planner ปี 2022” กำลังจะมาแล้ว ✨
เตรียมพบกันที่นี่ เร็วๆ นี้


อ้างอิง:
หนังสือ Tiny Habit โดยบีเจ ฟอกก์
หนังสือ Atomic Habits โดยเจมส์ เคลียร์
https://on.wsj.com/3lCLUoh

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#selfimprovement

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements