SOCIETYไม่เก็บภาษี ชีวิตดีรอบด้าน! Monaco ประเทศเป็นเหมือนฝันและสนามเด็กเล่นของคนรวย

ไม่เก็บภาษี ชีวิตดีรอบด้าน! Monaco ประเทศเป็นเหมือนฝันและสนามเด็กเล่นของคนรวย

ถ้าเกิดมีเงินให้ใช้ได้อย่างไม่จำกัด ทุกคนอยากจะไปใช้ชีวิตกันที่ไหน?

เชื่อว่าแต่ละคนก็คงเคยจินตนาการวาดภาพสถานที่หรือประเทศในฝันเอาไว้ เผื่อว่าวันหนึ่งเราเกิดถูกหวยกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน โดยบางคนอาจจะคิดภาพตัวเองใส่ชุดกิโมโนนั่งจิบชาสบายใจอยู่ที่ญี่ปุ่น ไปเสพงานศิลป์ทุกวันที่ฝรั่งเศส หรือไปนอนอาบแดดริมทะเลบนเกาะฮาวาย

ยังมีอีกสถานที่และประเทศมากมายที่หลายคนหมายปองว่าอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ แต่จะมีประเทศอยู่ประเทศหนึ่งที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มคนที่มีฐานะ “ร่ำรวย” ต่างก็อยากมีโอกาสได้ย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากที่ประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรไม่ถึง 50,000 คนเท่านั้นที่มีชื่อว่า “Monaco”

ถ้าคำนวณคาดการณ์จากปัจจัยของประชากรและภูมิศาสตร์เพียงอย่างเดียวนั้น โมนาโกก็เป็นเพียงประเทศเล็กๆ ในทวีปยุโรป ที่ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสเพียงเท่านั้น จะมีดีก็ที่ทิวทัศน์อันสวยงาม มีพื้นที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งโมนาโกเป็นประเทศที่เล็กเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองเพียงประเทศวาติกันเท่านั้น โดยมีจำนวนประชากรอยู่ประมาณ 39,000 คน ที่ถึงแม้จะฟังดูน้อย แต่โมนาโกกลับเป็นประเทศที่มีอัตราความหนาแน่นทางประชากรมากที่สุดของโลก เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดอันน้อยนิดเพียง 2.02 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่ากรุงเทพมหานครฯ เมืองหลวงของประเทศไทยเราประมาณ 1000 เท่าเลยทีเดียว

ประเทศก็ไม่ได้กว้างขวางยิ่งใหญ่อะไร แถมยังคนเยอะหนาแน่นอีกต่างหาก แต่ทำไมกัน กลุ่มคนร่ำรวยมั่งคั่งและมีชื่อเสียงมากมายถึงอยากย้ายไปใช้ชีวิตที่ประเทศโมนาโก

Monaco เกาะสวรรค์และสนามเด็กเล่นของหมู่คนรวย

ถึงแม้ว่าโมนาโกจะเป็นประเทศที่มีพื้นที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก แต่ในขณะเดียวกัน โมนาโกเองก็เป็นประเทศที่ร่ำรวยมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกเช่นเดียวกัน โมนาโกมีรายได้เฉลี่ยต่อประชากร (GDP per capita) สูงที่สุดอยู่ใน 3 อันดับแรกของโลกอยู่ที่ประมาณ 3.8 ล้านบาทต่อคนต่อปี มีอัตราคนที่เป็นเศรษฐีมากถึง 32% เรียกได้ว่าถ้าเดินไปตามท้องถนนแล้วล่ะก็ 1 ใน 3 คนที่เราจะเดินสวนนั้นเป็นเศรษฐีพันล้านอย่างแน่นอน

ด้วยความมั่งคั่งขนาดนี้ ก็ทำให้ไลฟ์สไตล์ของประชากรชาวโมนาโกนั้นมีความเหนือชั้นไปอีกระดับในทันที โดยภาพปกติธรรมดาภายในประเทศโมนาโกนี้ก็คือภาพของรถซูเปอร์คาร์จอดรายเรียงกันเต็มถนน ทะเลที่มีแต่เรือยอช์ตหรูราคาหลักสิบล้านลอยล่องอย่างสบายใจไร้กังวล ท่ามกลางอากาศสภาพอากาศที่ดีเยี่ยมในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแทบตลอดทั้งปี ไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไป โดยอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 16.5 องศาเซลเซียสกำลังดี

แต่นอกเหนือจากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศโมนาโกเป็นจุดมุ่งหมายของเหล่ามหาเศรษฐีก็คือ ประเทศโมนาโก “ไม่เก็บภาษีรายได้” และ “ภาษีมรดก” ใครทำเงินได้เท่าไหร่ก็เก็บเอาไว้เองหมดเลย เป็นสวรรค์ของคนรวยที่ต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีแบบถูกกฎหมายอย่างแท้จริง ทำให้หมู่คนดังเซเลบริตี้หลายๆ คนอย่าง Ringo Starr มือกลองประจำวงสี่เต่าทอง หรือ The Beatles, Novak Djokovic นักเทนนิสระดับโลกชาวเซอร์เบีย, หรือ Sir Lewis Hamilton นักแข่งรถ Formula 1 ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเองก็ย้ายถิ่นฐานมาใช้ชีวิตอยู่ที่โมนาโกตั้งแต่ปี 2012

แค่นั้นยังไม่พอ โมนาโกนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความปลอดภัยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีกล้องวงจรปิด CCTV ติดกันทุกซอกทุกมุม มีอัตราการก่ออาชญากรรมน้อยเฉียดศูนย์ อัตราเฉลี่ยจำนวนตำรวจ 1 คน ต่อประชากร 100 คน แถมโมนาโกยังเป็นประเทศที่มีหนี้เป็นศูนย์ ไม่ว่าจะด้วยนักท่องเที่ยว กาสิโน และความสามารถในการจ่ายของคนในประเทศมีมากเหลือล้น ทำให้สภาพเศรษฐกิจมีความคล่องตัวสูงและมีความมั่นคงดีเยี่ยม เรียกได้ว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวโมนาโกนั้น ใกล้เคียงกับคำว่าอุดมคติมากทีเดียว
แต่ถ้าประเทศโมนาโกนั้นเป็นประเทศที่ดีเลิศขนาดนี้ ทำไมทุกคนถึงไม่แห่กันย้ายประเทศมาอยู่ที่โมนาโกกันหมดเลยล่ะ?

คุณภาพชีวิตที่ดีกับราคาที่ต้องจ่าย

ร้านค้าแบรนด์เนมอันหรูหรา โรงแรมที่พักห้าดาว กาสิโนชื่อดัง สโมสรฟุตบอลระดับโลกอย่าง AS Monaco และสนามแข่งรถ Formula One Monaco Grand Prix ทั้งหมดนั้นล้วนแต่เป็นแม่เหล็กชั้นดีที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก แถมยังทำให้โมนาโกเป็นประเทศที่ใครๆ ก็อิจฉาอยากย้ายมาอยู่ แต่การจะย้ายมาอยู่ที่ประเทศนี้ได้นั้นมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะสิ่งที่เรียกว่า “ค่าครองชีพ” นั่นเอง

โมนาโกนั้นเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพที่สูงที่สุดในโลกเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 130,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว เพราะว่าสินค้าและบริการต่างๆ มีราคาที่แพงมาก​​จากภาษีมูลค่าเพิ่ม แลกกับการที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้นั่นเอง นอกจากนี้โมนาโกยังเป็นประเทศที่มีที่ดินที่แพงที่สุดในโลกอีกด้วย อ้างอิงจากการจัดลำดับที่ดินที่แพงที่สุดในโลกของ World Atlas นั้นบอกว่า ราคาที่ดินต่อตารางวาละ 8.3 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขทั้งหมดนี้ทำให้ไอเดียการย้ายมาอยู่ที่โมนาโกของใครหลายคนนั้นต้องมลายหายไปอย่างรวดเร็ว

แต่กว่าที่โมนาโกจะสามารถผลักดันตัวเองขึ้นมากลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยขนาดนี้ได้นั้นก็ต้องผ่านอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน โดยประเทศโมนาโกนั้นเคยเกือบกลายเป็นประเทศล้มละลายมาแล้วในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่ก็สามารถรอดมาได้ด้วยการเปิดธุรกิจกาสิโนสุดหรู “Monte Carlo” ทำให้รายได้หลั่งไหลเข้าประเทศจนยกเลิกการเรียกเก็บภาษีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โมนาโกก็พยายามประคับประคองตนเองด้วยความไม่ทะเยอทะยาน ไม่ได้ต้องการเป็นใหญ่ เพียงแต่ต้องการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีที่สุดด้วย มาตรฐานการใช้ชีวิตที่สูง, ระบบการศึกษาที่ดี, การพัฒนาทางเศรษฐกิจ, สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

จากทั้งหมดที่ว่ามานี้ คงไม่ต้องสงสัยใดๆ เพิ่มเติมแล้วว่า ทำไมประเทศโมนาโกถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่ามหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลก
แล้วจุดมุ่งหมายปลายทางของทุกคนอยู่ที่ไหน สามารถคอมเมนต์มาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลยนะ


อ้างอิง
https://bit.ly/3pacffg
https://cnn.it/3vYhgeZ
https://bit.ly/3vVO4Ft
https://bit.ly/3AdttPb
https://bit.ly/3pcoJTQ
https://bit.ly/3JOjPG1

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#society
#monaco

Advertisements
Advertisements

 

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า