เราควรรักหรือกลัว Midjourney?  เมื่อ AI มอบคำถามครั้งใหญ่ ที่อาจ Disrupt วงการศิลปะ ไปตลอดกาล

SOCIETYเราควรรักหรือกลัว Midjourney?  เมื่อ AI มอบคำถามครั้งใหญ่ ที่อาจ Disrupt วงการศิลปะ ไปตลอดกาล

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในวงการศิลปะ ผ่าน #Midjourney ที่กำลังเป็นกระแส การวิพากษ์วิจารณ์ และข้อถกเถียงกันบนโลกโซเชียลมีเดียกันบ้างไม่มากก็น้อย

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า #Midjourney คืออะไร ถ้าอธิบายสั้นๆ Midjourney เป็นปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่สามารถวาดภาพประกอบได้ตามคำสั่งที่มนุษย์ป้อนลงไปได้อย่างงดงาม โดยเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้มีคนเข้าไปลองเล่น ลองป้อนคีย์เวิร์ดต่างๆ ให้ AI ตัวนี้ลองสร้างภาพขึ้นมา ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

Midjourney นั้นถูกพัฒนาขึ้นในแล็บเล็กๆ ในชื่อเดียวกัน ก่อตั้งโดย David Holz อดีตนักวิจัยด้านประสาทวิทยาของ NASA ผู้มากประสบการณ์ในวงการไอที และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Leap Motion บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน Motion Tracking โดยความพิเศษของบริษัท Midjourny ตอนนี้คือพวกเขามีพนักงานเพียงแค่ 10 คน ยังไม่มีนักลงทุน และไม่ได้ต้องการที่จะทำกำไร เพราะว่าพวกเขาทำงานจากแพชชัน และความสนุกล้วนๆ ซึ่งจุดมุ่งหมายของพวกเขาคือ การสร้างโปรเจกต์ที่เจ๋งๆ เน้นความสนุกสนานเป็นหลัก ซึ่งก็เห็นได้ชัดเลยว่าไอเดียของพวกเขาได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม

หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน #Midjourney ก็กลายเป็นกระแสไวรัลทั่วโลกทันที เพราะว่ามันเป็นโปรแกรมที่เปิดกว้างต่อคนทั่วไป ที่ไม่ว่าใครก็สามารถไปทดลองใช้งานได้ฟรี 25 รูปแรก ซึ่ง AI ของ Midjourney นั้นจะสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยคีย์เวิร์ดที่เราพิมพ์ลงไป มันก็จะทำการประมวลผลและสร้างสรรค์งานศิลปะออกมาทั้งหมด 4 รูปแบบภายในเวลา 1 นาทีเท่านั้น ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะ Upscale เพิ่มความละเอียดในการประมวลผล หรือสั่งให้ Regenerate สร้างภาพใหม่ในรูปแบบที่ต้องการออกมาได้อีก 4 รูป

 เส้นบางๆ ระหว่างศิลปะและเทคโนโลยี

อันที่จริงแล้ว โปรแกรม AI ที่สามารถวาดภาพตามคีย์เวิร์ดที่ป้อนลงไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เราเคยได้เห็นโปรแกรมอย่าง ​​DALL·E, Imagen, หรือ Craiyon ที่ได้รับการพัฒนาจากบริษัทเทคโนโลยีมากมายอย่าง Google หรือ OpenAI แต่สิ่งที่ทำให้ Midjourney นั้นแตกต่างจากเหล่า AI ตัวก่อนหน้าก็คือ “สไตล์” นั่นเอง

เนื่องจากว่า AI ก่อนหน้าอย่างเช่น ​​DALL·E จะเน้นไปที่ความสมจริงของภาพ เวลาที่มันได้รับคีย์เวิร์ดบางอย่างมาก โดยอ้างอิงจากคลังข้อมูลมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต แล้วสร้างภาพมันขึ้นมาใหม่อย่างสมจริงที่สุด ซึ่ง Midjourney เองก็ไม่ต่างกัน มันดึงข้อมูลนับล้านบนโลกออนไลน์สำหรับการอ้างอิงในการสร้างภาพๆ หนึ่งขึ้นมา แต่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ “ศิลปะ” ที่ได้รับการสร้างสรรค์จากจิตรกรระดับโลก ตั้งแต่สไตล์ ลายเส้น ไปจนถึงการตีความ เรียกได้ว่ามีความเป็น “มนุษย์” มากทีเดียว

ซึ่ง ความเป็นมนุษย์ในระดับขนาดนี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามและข้อถกเถียง ทั้งในวงการศิลปะและวงการออกแบบเป็นอย่างมาก โดยในวงการศิลปะก็เกิดการถกเถียงกันอย่างหนักว่าในเมื่อ AI นั้นสามารถสร้างภาพที่มีความเป็นศิลปะมากขนาดนี้ คำจำกัดความของ ‘ศิลปิน’ นั้นจะอยู่ตรงไหน คุณค่าของคำว่า “ศิลปะ” จะยังเป็นเหมือนเดิมอยู่หรือไม่ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ AI จะมา Disrupt เหล่าคนทำงานอาชีพออกแบบอีกด้วย

แต่ในอีกมุมหนึ่ง กลุ่มคนทำงานอาชีพออกแบบก็ยังให้ความเห็นว่าพวกเขาไม่ได้มองว่า AI ของ Midjourney นั้นจะสามารถมาทำงานแทนที่นักออกแบบได้อย่าง 100% เพราะว่า ภาพต่างๆ ก็ยังคงต้องถูกนำมาปรับตกแต่งรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายด้วยมือมนุษย์อยู่ดี

“ส่วนตัวแล้ว เมื่อฉันได้สัมผัสกับ Midjourney มันคือวิวัฒนาการของ AI ที่มีความเป็นไปได้สูงในการเป็นผู้ช่วยที่มากความสามารถ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งาน ฉันคิดว่ามันจะเป็นโอกาสสำหรับฉันที่จะเติบโตต่อไปในฐานะจิตรกร ซึ่งการที่ AI ดังกล่าวสามารถวาดภาพสไตล์ที่ปกติแล้วคนเราไม่สามารถวาดได้ง่ายๆ นั้นแสดงถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างแน่นอน” navigavi ศิลปินนักวาดภาพชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งทวีตแสดงความเห็น

นอกจากนี้ ยังได้มีการตั้งคำถามไม่น้อยถึงความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี AI ที่ถ้าขยายไปยังส่วนอื่นๆ ในวงการศิลปะเช่น AI สามารถแต่งเพลงได้หรือไม่? แล้วเพลงจะยังเรียกว่าเพลงอยู่อีกไหมถ้า AI แต่ง? ไปจนถึงว่า ในอนาคต อาจจะมี AI ที่สามารถสร้างสรรค์สัมผัสทั้ง 5 อย่าง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม David Holz เองก็ได้ออกมาทำการปรามผู้คนทั้งหลาย พร้อมทั้งให้ความมุมมองส่วนตัวของเขาต่อ Midjourney ในบทสัมภาษณ์กับ The Verge เอาไว้ว่า

“เป็นเวลาสักพักหนึ่งเลยนะ ที่ผมพยายามค้นหาว่า Midjourney’s AI Image Generator คืออะไร เราสามารถพูดได้ว่ามันเป็นเหมือนเครื่องจักรชั้นดีสำหรับจินตนาการของมนุษย์ แต่มันก็สามารถเป็นได้อีกหลายอย่าง เช่น ในแง่มุมของศิลปะ ถามว่าเราเทียบสิ่งนี้ (Midjoureny) กับสมัยที่มีการประดิษฐ์คิดค้นการถ่ายภาพขึ้นมาได้ไหม? เพราะเมื่อการถ่ายภาพถูกคิดค้นขึ้น สไตล์การวาดภาพก็เริ่มเปลี่ยนไป มีความแอบสแตรกขึ้น ไม่มีใครเริ่มวาดภาพเหมือนจริงแบบเดิมๆ อีกแล้ว เพราะไม่ว่าใครก็ถ่ายรูปได้” Holz กล่าวถึงอิทธิพลของ Midjourney ที่เขามองว่าไม่ได้มาทดแทนหรือทำลายวงการศิลปะ แต่จะมาช่วยผลักดันวงการศิลปะให้ไปไกลขึ้นมากกว่า

“ตอนนี้ผู้คนเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิงว่า AI คืออะไร พวกเขาเห็นมันเป็นเสือโคร่ง เป็นเสือโคร่งอันตราย มันอาจจะกินเรา มันเป็นศัตรู แต่ความอันตรายมีอยู่ทุกที่ เช่นในน้ำ คุณสามารถจมน้ำตายได้”

“แต่อันตรายจากแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวนั้นแตกต่างอย่างมากกับอันตรายของเสือโคร่ง น้ำเป็นสิ่งที่อันตราย ใช่ แต่คุณสามารถว่ายน้ำได้ สร้างเรือ สร้างเขื่อน และทำกระแสไฟฟ้าได้ น้ำเป็นสิ่งที่อันตราย แต่ก็เป็นตัวขับเคลื่อนของอารยธรรมเช่นกัน และเราเป็นมนุษย์ที่รู้วิธีอยู่ร่วมกับน้ำและทำงานกับน้ำได้ดียิ่งขึ้น มันเป็นโอกาส มันไม่มีเจตจำนง ไม่มีความเคียดแค้น และใช่ คุณสามารถจมน้ำตายได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราควรแบนน้ำทั้งหมด และเมื่อคุณค้นพบแหล่งน้ำใหม่ มันก็เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ” Holz เสริมปิดท้าย

ในท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบ Midjourney หรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เราทุกคนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยก็คือ ความยอดเยี่ยมของภาพศิลปะจาก Midjourney ที่มีความเป็นมนุษย์ชนิดที่ว่า ถ้าวางข้างๆ กัน ก็ไม่สามารถแยกออกได้เลยว่าภาพไหนเป็นฝีมือมนุษย์ หรือ AI ก็ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

สำหรับใครก็ตามที่อยากจะลองไปสัมผัสกับ Midjourney ด้วยตัวเอง ก็สามารถลองได้ที่ www.midjourney.com และ Discord: https://discord.gg/midjourney

ส่วนหนึ่งของภาพประกอบบทความนี้ก็ถูกสร้างโดย Midjourney เช่นเดียวกัน หากใครลองเล่นแล้ว รู้สึกอย่างไรกันบ้างกับ AI ตัวนี้ของ Midjourney สามารถมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันในคอมเมนต์ได้นะ


อ้างอิง
https://bit.ly/3p4NHVg
https://bit.ly/3BU6Vod
https://bit.ly/3JB9OvG
https://tcrn.ch/3oYCG7Q
https://bit.ly/3p8ymTj
https://bit.ly/3Pcnz57

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#midjourney

Advertisements

 

Advertisements
Advertisements

POPULAR PODCAST

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า