“แมลงกินได้” ธุรกิจทำเงินแห่งโลกอนาคต!

2817
แมลงกินได้

สำหรับชาวไทยแล้ว “แมลง” ถือเป็นเมนูอาหารที่เราเห็นได้ทั่วไป โดยเฉพาะตามสถานที่ท่องเที่ยวอย่างถนนข้าวสารหรือถนนคนเดินต่างๆ แม้แต่ร้านสะดวกซื้อบางแห่งก็ยังมีแมลงทอดที่ผ่านขั้นตอนการผลิตอย่างดีมาขาย ถึงหลายคนจะยังรู้สึกอี๋อยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไทยและประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียมีการบริโภคแมลงกันอย่างแพร่หลาย

ที่น่าสนใจคือในช่วงปีที่ผ่านมา การบริโภคแมลงเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศฝั่งตะวันตก จนมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2023 ตลาดของการขายแมลงกินได้ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว!

Advertisements

มาดูกันดีกว่าว่าทำไมอาหารแห่งโลกอนาคตอย่าง “แมลง” ถึงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง

ใครบ้างบนโลกนี้ที่รับประทานแมลง

“ถ้าคุณเคยไปเท็กซัส คุณจะเห็นร้านอาหารที่คนนิยมเสิร์ฟเมนู ‘ตั๊กแตนทอด เสิร์ฟพร้อมกัวคาโมเล่ ตอร์ติญ่าและซัลซ่า’ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ฟังดูแย่นะ” Martin Armstrong นักข่าวของเว็บไซต์ Statista กล่าว 

เพราะวัฒนธรรมการบริโภคแมลงเป็นเรื่องปกติในทวีปอเมริกาใต้ อย่างในประเทศเม็กซิโกและโคลัมเบีย เมื่อแมลงเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ร้านอาหารเม็กซิกันในสหรัฐฯ ก็เริ่มออกเมนูที่มีส่วนผสมของแมลงมาขาย 

ส่วนในทวีปเอเชียมีมากกว่า 29 ประเทศที่บริโภคแมลง แต่ตลาดแมลงกินได้โตมากเป็นพิเศษในประเทศจีน โดยปกติ ตามธรรมเนียมของชาวจีน การรับประทานแมลงหรือการนำมาเป็นส่วนผสมในยาเป็นเรื่องที่พบเห็นกันได้ทั่วไป แต่ในทศวรรษที่ผ่านมา ความนิยมยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกเมื่อร้านอาหารและโรงแรมต่างๆ หันมาเสิร์ฟเมนูแมลงกินได้

ทวีปยุโรปเองก็มีความนิยมเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง แม้จะน้อยกว่าทวีปอื่นๆ ในประเทศอังกฤษมีแบรนด์ดังอย่าง Eat Grub ออกมาสนับสนุนการกินแมลง โดยแบรนด์นี้มีจำหน่ายทั้งแมลงทอดสำหรับทานเล่น และแมลงที่แปรรูปเป็นผง สามารถนำไปใช้แทนแป้ง ทำขนมปัง พิซซ่า พาสต้า หรือโรยเพิ่มโปรตีนได้

แม้จะยังเป็นที่นิยมแค่บางพื้นที่และขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม แต่แนวโน้มการเติบโตของตลาดแมลงกินได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะในอนาคต แหล่งโปรตีนหลักของมนุษย์จะเปลี่ยนไปแน่นอน

‘แมลง’ แหล่งโปรตีนของโลกอนาคต

รายงานของ UN กล่าวว่า “ภายในปี 2050 จะมีประชากรโลกมากถึง 9 พันล้านคน หากจะรองรับคนจำนวนนี้ได้ การผลิตอาหารต้องเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า แต่นั่นหมายถึงการเพิ่มพื้นที่ทำฟาร์ม ปศุสัตว์และการประมงให้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืนเลย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อภาวะโลกร้อน”

ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคตและปัญหาความยากไร้ ขาดแคลนอาหารในปัจจุบัน ที่สามารถพบเห็นได้ในทั่วมุมโลก ทาง UN จึงอยากจะย้ำเตือนทุกภาคส่วนว่าเราควรเริ่มพิจารณากันอย่างจริงจัง ก่อนจะ ‘ผลิต’ หรือ ‘บริโภค’ อะไร

และทางออกที่หลายๆ คนคาดการณ์ไว้ว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ในอนาคตคือ ‘แมลง’

แมลงถูกเรียกว่าเป็นสุดยอดอาหารคุณประโยชน์สูง (Super Food) เพราะเต็มไปด้วยโปรตีน โดยแมลง 100 กรัม มีโปรตีนสูงถึง 69% ซึ่งมากกว่าหมู เนื้อและไก่หลายเท่าตัว ที่สำคัญยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้ง 9 ชนิด รวมทั้งมีแคลเซียมและธาตุเหล็ก

แมลงยังทำร้ายสภาพแวดล้อมน้อยกว่าปศุสัตว์อย่างมาก โดยปกติแล้วสัตว์เศรษฐกิจอย่างหมู วัว และไก่ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่ารถเสียด้วยซ้ำ การผลิตเนื้อวัวที่มีโปรตีน 1 กิโลกรัมนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 2,850 กรัม แต่ขั้นตอนการเลี้ยงแมลงนั้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาเพียง 1 กรัมเท่านั้น

Advertisements

นอกจากนั้นแล้ว การเลี้ยงปศุสัตว์ยังใช้พื้นที่มากถึง 200 ตารางเมตรต่อการผลิตโปรตีน 1 กิโลกรัม ในขณะที่แมลงใช้พื้นที่เพียง 15 ตารางเมตรเท่านั้น เพราะเราสามารถเลี้ยงแมลงในฟาร์มแนวตั้งได้

นอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว อาหารและน้ำที่ใช้ในการเลี้ยงแมลงก็สิ้นเปลืองน้อยกว่ากันมาก

ในเรื่องรสชาติ หากคุณเปิดใจลองจะพบว่าแมลงก็อร่อยไม่แพ้เนื้ออื่นเลยๆ “หลายคนบอกว่ารสชาติอร่อยเหมือนปลา แต่ไม่ทำร้ายทะเลเท่าฟาร์มปลา” Tiziana Di Costanzo เจ้าของฟาร์ม ‘Horizon Insects’ ในลอนดอนกล่าว เธอเปิดฟาร์มนี้มาตั้งแต่ปี 2013 และเลี้ยงแมลงขาย ทั้งแบบเป็นๆ และแบบแปรรูปแล้ว ส่วนลูกค้าของเธอก็มีหลากหลาย ตั้งแต่คนธรรมดา เชฟบนเรือยอชต์ในทะเลแคริบเบียน ไปจนถึงโรงแรมหรูอย่าง The Ritz

อนาคตของตลาดแมลง

ในช่วงปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิดได้สร้างความท้าทายอย่างมากให้แก่อุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในแง่ความสะอาด การผลิต การขาดแคลนแรงงาน และการขนส่ง เราจึงเห็นความต้องการในโปรตีนทดแทนเพิ่มขึ้นกว่าในอดีต ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากพืช (Plant-based) หรือโปรตีนจากแมลง

บริษัทต่างๆ ในตลาดแมลงกินได้จึงมีความพยายามในการเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมาหลายบริษัทมีการระดมทุน (Raise-fund) และได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัทใหญ่ๆ

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ นอกจากแมลงจะเป็นอาหารคนได้แล้ว ยังเป็น “อาหารสัตว์” ได้ด้วย ปัจจุบันคนหันมาให้ความสนใจอาหารสัตว์จากแมลงกันมากขึ้น เพราะอาหารสัตว์แบบดั้งเดิมอย่างเมล็ดธัญพืชนั้นต้องอาศัยพื้นที่จำนวนมากในการผลิต อย่างการผลิตอาหารไก่ที่ทำจากถั่วเหลือง ตามรายงานพบว่าส่งผลให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าเป็นอันดับ 2 รองจากการเลี้ยงวัว

ข้อดีอีกอย่างของอาหารสัตว์จากแมลงก็คือ ช่วยให้สุขภาพของสัตว์ดีขึ้น เพราะมีความคล้ายคลึงกับแหล่งอาหารตามธรรมชาติของสัตว์เหล่านี้มากกว่าธัญพืช 

จะเห็นได้ว่าแม้ตอนนี้รายได้จากการบริโภคของคนจะยังไม่มาก แต่ระหว่างนี้ก็สามารถทำเงินจากการเป็นอาหารสัตว์ได้อย่างงามเลยทีเดียว

ความยั่งยืน ความคุ้มค่าในการผลิต และแนวโน้มการเติบโตที่มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้เองทำให้ธุรกิจแมลงกินได้เป็นที่น่าจับตามอง แล้วคุณผู้อ่านมีความเห็นอย่างไรบ้าง ตลาดแมลงจะเติบโตอย่างที่คาดการณ์จริงไหม น่าลงทุนอย่างที่เขาว่าจริงๆ หรือเปล่า


อ้างอิง
https://on.ft.com/3AbhAai
https://bit.ly/3ns1a9W
https://bit.ly/3CdJBP9

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#society

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements