หลายคนอาจนึกถึงช่วงเวลาปี 2021 ว่าเป็นปีแห่งการ Work From Home รวมถึงการปรับตัวในหลายๆ อย่างที่เราทั้งชอบและไม่ชอบ การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในหมู่พนักงานตามบริษัทต่างๆ แต่รวมไปถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วย อย่าง “Bill Gates” (บิล เกตส์) หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้ร่ำรวยอันดับ 4 ของโลก ซึ่งได้เปิดใจว่า
“นี่คือปีที่ยากลำบากของหลายๆ คน รวมถึงตัวผมเองด้วย”
รวมๆ แล้ว นี่คือปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่สำหรับเราทุกคน อย่างไรก็ตามบิลเกตส์ก็ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า แม้การแพร่ระบาดจะทำให้ปีนี้ดูยากลำบาก แต่กลับมีการพัฒนาเทคโนโลยีอันน่าตื่นเต้น ซึ่งนำไปสู่การปฏิวัติวงการการแพทย์ การศึกษา และการทำงานด้านต่างๆ
ซึ่งปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงและปีต่อๆ ไป คงมีนวัตกรรมมากมายที่จะเกิดขึ้น และนี่คือ 5 สิ่งที่บิลเกตส์คาดการณ์ไว้ในปี 2022
5 สิ่งที่อาจเกิดขึ้นจากการคาดการณ์ของ บิล เกตส์ (Bill Gates)
1. วัคซีน mRNA จะเป็นทางออกที่สำคัญที่สุดในช่วงการแพร่ระบาด
การแพร่ระบาดบีบให้โลกต้องรีบพัฒนาความรู้ที่เรามี และรวบรวมข้อมูลมากมายเพื่อนำมาปรับประสิทธิภาพของวัคซีน เช่น การแพร่กระจายของสายพันธุ์ Omicron ซึ่งการเข้ามาของสายพันธุ์ใหม่ๆ จะทำให้เราพัฒนาอุปกรณ์การแพทย์ที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในเทคโนโลยีการแพทย์อย่างวัคซีน mRNA จะกลายเป็นความหวังที่ช่วยให้เรารับมือกับไวรัสสายพันธุ์อันตรายได้มากกว่าที่เราเคยเจอ
และหากประเทศอื่นๆ ยิ่งร่วมมือกัน เราจะยิ่งมีโอกาสหาสายพันธุ์อื่นๆ ได้เร็วขึ้นอีกเท่าตัว อย่างเช่นการค้นพบสายพันธุ์ Delta ซึ่งค้นพบได้เพราะการลงทุนการวิจัยจีโนมโดยประเทศแอฟริกาใต้ เป็นต้น ดังนั้น ด้วยเทคโนโลยีที่เรามีในตอนนี้จะช่วยให้เราข้ามผ่านการสูญเสียจากไวรัสนี้ลงได้
2. รัฐบาลอาจต้องกำหนดกฎหมายเพื่อควบคุมโซเชียลมีเดีย
บิลเกตส์ได้อ้างอิงข้อมูลจาก Edelman Trust Index (2021) ที่เผยว่า ขณะนี้คนทั่วโลกขาดความเชื่อใจจนอยู่ในเกณฑ์ที่น่ากังวล บิลเกตส์จึงแนะนำให้เราลดกำแพงแห่งความไม่ไว้ใจลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และใส่ใจการแก้ปัญหาเพื่อส่วนรวมให้มากที่สุด เพื่อให้เราทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติให้เร็วที่สุด
บิลเกตส์เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า โซเชียลมีเดียคือบ่อเกิดของความไม่ไว้ใจและการแบ่งชนชั้นทางสังคม ดังนั้นรัฐบาลควรออกกฎหมายที่ชี้ชัดว่า โซเชียลมีเดียไหนคือพื้นที่ส่วนตัว อันไหนคือส่วนรวมที่เราพึงระวังขณะใช้ ซึ่งรัฐจะต้องควบคุมข้อมูลโดยยึดหลักประชาธิปไตยซึ่งยังคงให้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นแก่ประชาชน
3. ภาวะโลกร้อนจะทำให้เราเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
จากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ซึ่งจัดขึ้นที่กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมได้ตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซมีเทน และปราบปรามการตัดไม้แบบผิดกฎหมายให้สำเร็จภายในช่วงสิบปีต่อจากนี้ นอกจากนี้ยังวางแผนช่วยชาวนาปรับวิถีการทำนาให้เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น
ซึ่งบิลเกตส์เชื่อว่า วิธีนี้จะทำให้เราสามารถสามารถสร้างโลกที่ผู้คนร่วมกันตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และเขาอยากให้หัวข้อนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนทั้งในบทสนทนาทั่วไปและในกฎหมายด้วย
4. เทคโนโลยี VR และโลกดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานและใช้ชีวิตมากขึ้น
หลังเราใช้เทคโนโลยีสุดสร้างสรรค์มาผนวกเข้ากับการทำงานและการใช้ชีวิต โลกของเราได้ปรับสู่ E-commerce และทำงานจากระยะไกลเป็นหลัก ซึ่งในปี 2022 บิลเกตส์คาดหวังให้เรานำโลกดิจิทัลเข้ามาปรับใช้แทนระบบ Manual ที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ เพราะเขามองเห็นศักยภาพเทคโนโลยีเหล่านี้ที่จะดึง Productivity และทักษะอื่นๆ ในตัวเราออกมาได้
และต่อจากนี้ สถานที่ทำงานจะกลายเป็นพื้นที่ออนไลน์สำหรับประชุม มีเครือข่าย Bandwidth ที่ช่วยเชื่อมต่อเราทุกคน และมีซอฟต์แวร์ทรงพลังที่จะพาเราไปสู่อีกก้าวของการทำงาน และบิลเกตส์คาดการณ์ว่า เทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากกว่าเทคโนโลยีในครึ่งศตวรรษหลังรวมกันซะอีก
5. การศึกษาจะนำเทคโนโลยีต่างๆ มาสร้างนักเรียนยุคใหม่
ในปี 2022 เราอาจจะได้เจอภาพ Learn From Home / Remote Learning หรือการเรียนจากระยะไกลเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้การเรียนระยะไกลฟังดูจะเป็นสิ่งที่ดี แต่เราต้องไม่ลืมข้อจำกัดในการจัดหาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นให้นักเรียนทุกคน นอกจากนี้ เราต้องคำนึงถึงการเข้าสังคมเพื่อให้เด็กเติบโตสมวัย ซึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อให้การเรียนระยะไกลมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
เพื่อให้เข้ากับโลกดิจิทัลที่เติบโตมากขึ้น เราสามารถช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนตรงตามความต้องการผ่านหลักสูตรที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม แต่ถึงแบบนั้น บิลเกตส์ก็ยังเห็นว่า ห้องเรียนแบบเดิมจะยังไม่หายไปไหน ทั้งนี้การนำโลกดิจิทัลเข้าสู่การศึกษาในปี 2022 จะไม่ใช่แค่การเพิ่มประสบการณ์ในห้องเรียน แต่เป็นการทำให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาหรือเห็นภาพได้มากขึ้น เช่น คุณครูใช้เทคโนโลยี VR ทำให้นักเรียนสามารถเข้าใจสภาวะโลกร้อนผ่านภาพจำลอง
นี่คือมุมมองของบิลเกตส์และ 5 สิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2022 ซึ่งอาจช่วยให้ใครหลายๆ คนมีกำลังใจในการก้าวข้ามและฝ่าฟันปัญหาที่เกิดจากความเปลี่ยนแปลงในชีวิต แม้โลกอาจดูไม่น่าอยู่จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แต่เขายังอยากให้เรามองเห็นถึงโอกาสต่างๆ ที่รอเราอยู่หลังการเปลี่ยนแปลง และขอให้เชื่อมั่นว่า เราทุกคนจะสามารถผ่านไปได้ด้วยกัน
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
– 10 Podcasts เตรียมพร้อมรับ “ชีวิตบทใหม่” ในปี 2022
– สรุปหนังสือ ‘Reasons to Stay Alive’ เรียนรู้การมีชีวิตต่อ แม้จะแหลกสลาย
แปลและเรียบเรียง
https://bit.ly/3GFy39g
https://bit.ly/3s0qPsF
https://bit.ly/3IQ7xMo
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#society
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/