“ติดแฟน ไม่อยากห่างกันเลย”
“ต้องห่างกับแฟน ทำใจไม่ได้เลย”
“ไม่เคยห่างกับแฟน พอห่างกันแล้วรู้สึกแปลกๆ”
ใครเคยมีอาการหรือความรู้สึกแบบนี้อยู่ในใจกันบ้าง? ถ้าหากเคยคุณอาจมีแนวโน้มเป็น Separation Anxiety หรืออาการของความวิตกกังวลเมื่อต้องแยกจาก
แน่นอนว่าการต้องห่างไกลจากคนรักจะทำให้เรารู้สึกเศร้าและหงุดหงิด เพราะต้องรอเวลาเพื่อที่จะได้พบเจอหน้ากันอีกครั้ง แต่สำหรับบางคนแล้วระยะทางสามารถทำให้รู้สึกวิตกกังวลได้เป็นอย่างมาก เช่น กลัวว่าเมื่อแยกจากกันแล้วจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับคนที่รัก กลัวถูกทิ้งไว้กลางทาง หรือกลัวโดนนอกใจ
แต่หากการอยู่ห่างจากคนรักทำให้วิตกกังวลหรือกลัวมากไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตได้ เพราะเราจะโฟกัสกับสิ่งอื่นๆ ในชีวิตได้น้อยลงและใช้เวลาทั้งหมดไปกับการคิดและกังวลซ้ำๆ ซึ่งไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อตัวเราเลย
ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการรับมือกับ Separation Anxiety เพื่อให้เราหันกลับมาใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวได้ โดยไม่ต้องกังวลถึงคนอื่น
รู้จักกับความวิตกกังวลเมื่อต้องห่างกับคนรัก
ตอนเด็กๆ ใครเคยไปโรงเรียนแล้วร้องไห้ตามพ่อแม่กลับบ้าน หรือเคยร้องไห้ตามพ่อแม่เมื่อเห็นเขากำลังจะออกจากบ้านบ้าง?
เราเรียกสิ่งนี้ว่า Separation Anxiety เป็นอาการที่พบได้บ่อยในวัยเด็ก แต่ก็เกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ได้เหมือนกัน
สำหรับคนที่กำลังรู้สึกว่าการอยู่ห่างจากคนรักเป็นเรื่องยาก หรือแค่คิดถึงสถานการณ์นั้นก็รู้สึกใจหายแล้ว เชื่อว่าเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจกำลังสงสัยว่า “หรือเรากำลังเป็น Separation Anxiety?”
ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าอะไรเป็นสัญญาณของ Separation Anxiety
[ ] กลัวการอยู่คนเดียว การถูกทอดทิ้ง หรือกลัวว่าความสัมพันธ์จะจบลง
[ ] กังวลเมื่อคนรักจะออกจากบ้าน
[ ] กลัวว่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้นกับแฟนมากเกินไป
[ ] มีปัญหาการนอนหลับเพราะกังวลเกี่ยวกับแฟนมากเกินไป
นอกจากนี้ David Klemanski นักจิตวิทยาจาก Yale Medicine ยังได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าคนที่เป็น Separation Anxiety อาจมีอาการต่อไปนี้อีกด้วย
[ ] อาการทางร่างกาย: Separation Anxiety อาจทำบางคนให้มีอาการทางกาย เช่น หัวใจเต้นเร็ว รวมถึงรู้สึกเสียวแปลบที่แขนขา
[ ] อาการทางพฤติกรรมและการรับรู้: Separation Anxiety จะทำให้อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่น อาการวิตกกังวลหรืออาการซึมเศร้าแย่ลง บางครั้งก็อาจทำให้การตัดสินใจ การกิน และการนอนแย่ลงด้วย
[ ] ปัญหาในการทำงาน: บางคนอาจหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน รู้สึกใช้ชีวิตที่ทำงานยากลำบาก หรือบางครั้งอาจถึงขั้นหันไปใช้สารเสพติดเพื่อรักษาอาการเลยทีเดียว
ที่มาของความกลัวการแยกจาก
เมื่อเราเข้าใจแล้วว่าอาการของ Separation Anxiety เป็นอย่างไร ทีนี้เรามาดูต้นตอที่ทำให้เกิดอาการนี้กันดีกว่า แต่ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ แล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิด Separation Anxiety ในความสัมพันธ์ เช่น
1. ปัญหาความผูกพันในวัยเด็ก
ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่เราจะได้เรียนรู้ความผูกพันกับพ่อแม่ หากเราได้รับความรักและการดูแลอย่างเหมาะสม เช่น พ่อแม่ทำให้รู้สึกอุ่นใจและไม่ปล่อยให้รู้สึกโดดเดี่ยว เราก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นไปในรูปแบบ “Secure Attachment” หรือ “ความผูกพันแบบมั่นคง” ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้จะหล่อหลอมให้เรารู้สึกปลอดภัย มั่นคง และไม่กลัวการอยู่คนเดียว
ในทางกลับกัน หากตอนเด็กเราถูกละเลยหรือถูกทอดทิ้งบ่อยๆ ก็จะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวพ่อแม่หรือผู้ปกครองคนอื่นๆ ของเรา ก็จะทำให้นำไปสู่ “Anxious Attachment” หรือ “ความผูกพันแบบกังวล” พอโตขึ้นและมีความรักความสัมพันธ์เป็นของตัวเอง ก็อาจจะกลายเป็นคนขี้กังวลในความสัมพันธ์ได้ เช่น
[ ] กลัวถูกแฟนทิ้ง
[ ] อยู่คนเดียวไม่ค่อยได้
[ ] ต้องการความมั่นใจจากคนรักว่าเขารักเราจริงๆ
2. เจอกับความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต
บางครั้งคนที่กลัวการห่างกับคนรัก อาจเป็นคนคนนั้นเพิ่งผ่านพ้นการสูญเสียครั้งสำคัญในชีวิต หรืออาจเพิ่งรอดชีวิตจากภัยพิบัติและเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจมา ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจกระตุ้นให้กลัวความไม่แน่นอนของชีวิต หลายคนจึงกังวลว่าหากอยู่ห่างจากคนรักแล้วจะเกิดเหตุการณ์อันตรายขึ้นเหมือนอย่างที่เคยผ่านมา
3. ปัจจัยด้านความสัมพันธ์
การถูกปฏิเสธหรือโดนทิ้งในอดีตก็มีส่วนทำให้เกิด Separation Anxiety ได้เช่นกัน รวมถึงหากใครอยู่ในสังคมวัฒนธรรมที่มองว่าการพึ่งพาตัวเองเป็นเรื่องแปลก ก็อาจทำให้รู้สึกกังวลเมื่อต้องทำสิ่งต่างๆ โดยไม่มีคนรักอยู่เคียงข้าง
หรือบางทีหากใครที่เคยอยู่ใกล้ชิดกับคนรักมากๆ เพราะสถานการณ์ในชีวิตเอื้ออำนวยให้ใช้ชีวิตด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ หากวันใดวันหนึ่งคนรักของเราใช้เวลาอยู่นอกบ้านนานๆ เราก็อาจเกิดความวิตกกังวลได้เช่นกัน
4. การผูกติดคุณค่าของตัวเองไว้กับคนรัก
การมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากันและกันเป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป แต่การผูกติดตัวเองไว้กับอีกฝ่ายหนึ่งมากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้หลายอย่าง ตั้งแต่ความโศกเศร้าทางอารมณ์ การมองเห็นคุณค่าตัวเองน้อยลง ไปจนถึงอาการวิตกกังวลเมื่อต้องแยกห่างจากอีกฝ่าย
เพราะในความสัมพันธ์แบบยึดติดตัวเองไว้กับอีกฝ่าย จะทำให้เราให้ความสำคัญกับความต้องการของคนรักเป็นอันดับแรก เรียกได้ว่าห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง จนในท้ายที่สุดแล้วอาจสูญเสียตัวตนของตัวเองไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องห่างกันจึงมีแนวโน้มที่จะอยู่ด้วยตัวคนเดียวยากขึ้น และอาจส่งผลให้สุขภาพจิตแย่ลงเรื่อยๆ
นอกจากนี้ การยึดติดตัวเองไว้กับอีกฝ่ายมากไปยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ได้อีกด้วย เพราะการที่เรายึดติดกับแฟนมากไป จะทำให้เรายิ่งอ่อนแอและความสัมพันธ์ก็จะยิ่งอ่อนแอตามลงไปอีก เพราะยิ่งเรากลัว เราก็จะยิ่งตามติดอีกฝ่าย จนก่อให้เกิดความอึดอัดในความสัมพันธ์ขึ้นได้นั่นเอง
กังวลจนเหนื่อยใจ ทำอย่างไรให้พอดี?
เข้าใจว่าสำหรับบางคนแล้วการอยู่ห่างจากคนรักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราสามารถหาวิธีรับมือเพื่อลดอาการวิตกกังวลลงได้ มาดูกันว่าจะมีวิธีใดบ้างที่ช่วยให้เรากังวลน้อยลง และอยู่กับตัวเองได้มากขึ้น
1. ลดการนึกถึงคนอื่น แล้วหันมาใช้ชีวิตของตัวเอง
หลายคนเมื่อห่างกับแฟนแล้วมีความกังวลมากๆ ทำให้ต้องโทรหา และส่งข้อความหาแฟนบ่อยจนเกินไป แต่ถ้าเราใช้เวลาทั้งหมดไปกับการกังวลถึงสิ่งเหล่านี้ เราก็จะมีพลังใจไว้รักและดูแลตัวเองน้อยลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสมาธิและกิจวัตรประจำวันในชีวิตของเราด้วย
เราจึงอยากแนะนำให้คนที่กำลังมีอาการเช่นนี้ ลองสร้างพื้นที่ให้กับตัวเองและกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าช่วงเวลาไหนที่ควรส่งข้อความหาแฟน โดยอาจจะกำหนดเวลาส่งข้อความเป็นช่วงพักตอนเช้า และโทรหาช่วงพักเที่ยง หรืออาจจะวางโทรศัพท์ไว้ไกลๆ แล้วหันมาใช้ชีวิตของตัวเองดูบ้าง
หากยังมีความกังวลผุดขึ้นมาในหัวอยู่ เพียงแค่รับรู้และปล่อยมันไป เพราะการไม่สนใจความคิดเหล่านั้นจะช่วยให้อาการกังวลของเราดีขึ้นเรื่อยๆ
2. สร้างกิจวัตรใหม่ๆ ให้คุ้นชินกับการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ในบางครั้ง Separation Anxiety นั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต เช่น คนใกล้ชิดเสียชีวิต หรือการถูกทิ้งในอดีต เมื่อผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นมาแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะกลัวสูญเสียความใกล้ชิดระหว่างเรากับแฟนไปอีกครั้ง
ทางออกที่สามารถช่วยให้ดีขึ้นจากอาการนี้ได้คือ ต้องพยายามทุ่มเทเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพให้มากขึ้น หลายคนอาจเกิดคำถามตามมาว่า แล้วจะทำได้อย่างไร?
จริงๆ อยากให้ทุกคนเริ่มเปลี่ยนความคิดก่อนว่า การห่างจากคนรักเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพจิตของตัวเราเอง เพราะเรามีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น และได้ใช้ชีวิตของตัวเองมากขึ้นด้วย แต่แน่นอนว่าเราก็ต้องมีเวลาให้กันและกันด้วย
หากใครอยากลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง แต่ก็อยากมีเวลาร่วมกันด้วยบ้าง ให้ลองจัดสรรเวลาในการใช้ชีวิตด้วยกันดังนี้
[ ] ทานข้าวด้วยกันวันละมื้อ
[ ] ใช้เวลาร่วมกันหนึ่งวันต่อสัปดาห์
[ ] หาเวลาไปเดินเล่นด้วยกันตอนเย็นๆ
3. พูดความกังวลของตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้
“การพูดคุย” เป็นสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ เมื่อเกิดการทะเลาะกัน หรือมีอะไรไม่สบายใจก็ควรเปิดอกพูดกันตรงๆ เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจกันมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความทุกข์ในใจลงได้อีกด้วย หากใครหลีกเลี่ยงการพูดถึงความทุกข์ของตัวเอง ต้องระวังไว้ให้ดี เพราะความรู้สึกเหล่านี้สามารถทวีความรุนแรงขึ้นได้
บางคนอาจจะมีความคิดว่า ถ้าพูดออกไปแล้วแฟนอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึก แต่อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถรับฟัง ยืนยันความรู้สึก และช่วยเป็นที่พึ่งทางใจได้ด้วย
ดังนั้น การพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา จึงอาจช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นได้ หากใครกำลังรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลเรื่องอะไรอยู่ เพียงแค่อธิบายออกไปว่าตอนนี้กำลังรู้สึกอะไรและพยายามหาทางแก้ไขร่วมกัน
4. โฟกัสที่ความต้องการของตัวเอง
อีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้เรารับมือกับ Separation Anxiety ได้คือ “การหันมาดูแลความต้องการทางกายและทางอารมณ์ของตัวเอง”
แต่ต้องบอกก่อนอีกว่าว่าการทำเช่นนี้จะไม่ทำให้ความกังวลหายไป แต่จะทำให้เราจัดการกับ Separation Anxiety ได้ดีมากยิ่งขึ้น
หากใครที่กำลังติดอยู่ในวังวนของความกังวล ให้ลองคิดดูว่าเราทำสิ่งเหล่านี้เพียงพอหรือยัง
[ ] การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
[ ] การออกกำลังกาย
[ ] การทานอาหารครบทุกมื้อ
[ ] การพักผ่อนและงานอดิเรก
[ ] การใช้เวลากับเพื่อนและคนที่รักคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แฟน
ถ้าลองคิดๆ ดูแล้วรู้สึกว่ายังดูแลตัวเองไม่เพียงพอ ให้ลองทำตามวิธีเหล่านี้ดู เพื่อสนับสนุนสุขภาวะของตัวเอง
[ ] ลองทำสมาธิและฝึกสติ
[ ] จดบันทึกความกลัวหรือความกังวลลงสมุด
[ ] พยายามทำใจให้สบาย
[ ] ออกไปเดินเล่นเมื่อรู้สึกหนักใจ
5. ค่อยๆ ทำความเคยชินกับการห่างกัน
การรับมือกับความวิตกกังวลในการห่างกันอีกอย่างหนึ่งก็คือ ค่อยๆ ทำความเคยชินกับการห่างกันทีละนิดๆ โดยอาจจะลองหาทางแยกกันเป็นเวลา 2-3 วัน หรือมากกว่านั้นก็ได้ แล้วเราจะค่อยๆ รู้สึกปลอดภัยขึ้นเมื่อเห็นคนที่รักกลับบ้านอย่างปลอดภัย เพราะเราเห็นกับตาตัวเองในหลายๆ ครั้งแล้วว่าเขาจะกลับมาหาเราอย่างแน่นอน
จะเห็นได้ว่า Separation Anxiety เป็นอาการที่ไม่ได้เกิดขึ้นและจบไปแค่ในช่วงวัยเด็กเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักเมื่อโตขึ้นแล้วด้วย ซึ่งต้นตอที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้ก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน ตั้งแต่ปัญหาในวัยเด็ก การเจอกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ไปจนถึงปัจจัยด้านความสัมพันธ์อื่นๆ
แม้การรับมือกับความวิตกกังวลจะฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าเรารับรู้ ยอมรับ รวมถึงทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการรับมือในรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าจะช่วยให้เราต่อสู้กับ Separation Anxiety ได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
แปลและเรียบเรียง
– Coping With Separation Anxiety in Relationships : Sanjana Gupta, Verywell Mind – https://bit.ly/3BYuKKG
– Separation Anxiety in Relationships : Psych Central – https://bit.ly/3GaUWnL
– When Separation from Your Partner Feels Unbearable, Here’s How to Cope : Healthline – https://bit.ly/3jrTHYk
#selfdevelopment
#psychology
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast