Mission to the Moon X SC Asset
ถ้าพูดถึงคำว่า ‘บ้าน’ คุณจะนิยามสิ่งนี้ว่าอะไร?
บางคนคิดถึงความอบอุ่น บางคนบอกว่าคือความปลอดภัย หรือบางคนอาจจะบอกว่า อธิบายเป็นคำพูดเองไม่ได้ แต่รู้สึกว่าบ้านนั้นมีความหมายเหมือนกับที่เพลงเพลงหนึ่งบอก นั่นก็คือเพลง ‘Home’ ของคุณบอย โกสิยพงษ์ ซึ่งเป็นเพลงที่ถ่ายทอดความเป็นบ้าน นั่นคือไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่หมายถึง ‘หัวใจ’ ด้วย
ยิ่งในช่วงวิกฤต Covid-19 ที่ทำให้เราต้องอยู่บ้านกันมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าแทบจะ 24 ชั่วโมง ทำให้ความสำคัญของบ้านแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น ในวันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาร่วมพูดคุยถึงนิยามความหมายของ ‘บ้าน’ ผ่านบทเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยอย่างเพลง Home ที่ SC Asset เลือกหยิบมาสื่อสารกับคนอยากมีบ้านกัน รวมถึงเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่น่าสนใจ ไปกับ “คุณจูน -โฉมชฎา กุลดิลก” หัวหน้าสายงานกลยุทธ์แบรนด์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบในช่วงวิกฤตโควิด-19
ภาพรวมของตลาดในปีที่แล้วมีการชะลอตัวกันทั้งหมด แต่มาปีนี้ มีส่วนที่น่าสนใจคือ ตลาดบ้านเดี่ยวกลับได้รับความนิยมมากขึ้น ปีที่แล้วถ้าหากดูผลจากค้นหาใน Google จะเห็นว่าคนหาบ้านเดี่ยวค่อนข้างมาก พูดได้ว่า พฤติกรรมของคนค่อนข้างเปลี่ยน เพราะการอยู่อาศัยในคอนโดหรือห้องพักเล็กๆ ในเมืองอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป คนจึงมองหาที่อยู่อาศัยที่อาจจะไกลเมืองออกไป เพราะคน Work From Home ได้ กลายเป็นยอดจองบ้านเมื่อปีที่แล้วค่อนข้างเติบโตขึ้นและต่อเนื่องมาถึงปีนี้
ความหมายของคำว่า “บ้าน” ต่อความต้องการของคนในยุคนี้
นอกจากพฤติกรรมการซื้อบ้านจะเปลี่ยนไปแล้ว คุณจูนยังเล่าอีกว่า ความต้องการของคนเวลามาดูบ้านก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนลูกค้าที่มาดูบ้านมักมีคำถามว่า กี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ เดินทางอย่างไร เส้นไหนสะดวก แต่ตอนนี้คำถามกลายเป็นว่า “ถ้าพี่ทำงานตรงนี้ ลูกพี่จะเล่นที่ไหน” หรือ “มีที่ออกกำลังกายตรงไหน” และค่อนข้างมีข้อกังวลเรื่องของเสียง ในช่วงที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน บางทีก็มีคนที่ต้องการพื้นที่เงียบๆ ในขณะเดียวกันสมาชิกในบ้านคนอื่น อาจต้องใช้เสียงเรียนหรือทำงานไปพร้อมๆ กัน บ้านที่คนต้องการจึงเป็นบ้านที่เป็นพื้นที่ปิด แต่ยังเชื่อมต่อถึงกันได้
โจทย์การออกแบบบ้านในสถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อลูกค้าอยากได้บ้านที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตอยากออกกำลังกายหรือทำกับข้าวพร้อมกับดูลูกไปด้วยหรืออยากจะดูภาพยนตร์จอใหญ่ในบ้านซึ่งถ้าหากเป็นบ้านหลังใหญ่งบสูงๆก็คงไม่มีปัญหาแต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาในปัจจุบันก็คือความต้องการของคนที่มีกำลังซื้อเท่าเดิมแต่อยากได้บ้านที่ใช้ทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ SC Asset ทำก็คือการทดลองคิดและทำเพื่อแก้โจทย์ให้ได้ เช่น ลองถอดกำแพงบ้านฝั่งหนึ่งออก แล้ววางโซฟา ติดโปรเจกเตอร์เข้าไป ก็กลายเป็นโรงหนังได้ หรือการพยายามสร้างพื้นที่ส่วนตัวให้กับ “คุณแม่” ผู้ที่มีพื้นที่ส่วนตัวน้อยมาก โดยออกแบบให้ชั้นล่างเป็น Open Plan แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่สามารถปิดได้ ชั้นบนสุดก็ยืดหลังคาให้สูงขึ้น ทำเป็นชั้นลอยสำหรับเก็บของได้ จนเป็นที่มาของแบบบ้านในซีรีส์ “Home is Everything”
เพลง “Home” กับการสะท้อนเรื่องราวของ “บ้าน” ในแบบ SC Asset
เพลงฮิตที่มีอายุครบ 25 ปี ซึ่งเพียงขึ้นต้นมาว่า “ดอกไม้ ประตู แจกัน…” ทุกคนก็ต้องร้องต่อได้ คำง่ายๆ ที่เหมือนมีมนตร์วิเศษบางอย่างที่ทำให้ความหมายของ “บ้าน” บรรจุอยู่ในเพลงนี้ได้อย่างงดงาม หลายๆ ครั้งที่ SC Asset สอบถามลูกค้าว่า บ้านมีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ คำตอบที่ได้ก็มักจะมีเพลง Home อยู่ในนั้นด้วยเสมอ
“น้องเคยฟังเพลงนั้นไหม ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่… สำหรับพี่ความหมายของบ้านมันคือแบบเพลงนี้ พี่ดูมันทุกวัน สีมันก็ลอก มันก็เก่าลงทุกวัน แต่พี่ก็ตกหลุมรักมันทุกวัน อยากจะซ่อมมัน อยากจะดูแลมัน”
คำบอกกล่าวง่ายๆ เหล่านี้ได้สะท้อนพลังของเพลง Home ซึ่งปี 2021 ที่เราอยู่บ้านกันมากขึ้นก็ยิ่งทำให้ความหมายของเพลงนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย แต่ SC Asset อยากทำให้เพลง Home ในเวอร์ชัน 2021 มีความพิเศษมากขึ้น จึงตีความใหม่ และถ่ายทอดออกมาในอีกรูปแบบที่บอกเล่าความรู้สึกได้มากขึ้น โดยการย้อนกลับไปคิดถึงว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่ร้องเพลงนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นเขาคงกำลังสร้างอะไรบางอย่าง อาจจะเพิ่งเรียนจบ เพิ่งแต่งงาน สร้างเนื้อสร้างตัว และมีความตั้งใจที่จะสร้างบ้านหลังนี้เพื่อใครสักคน ทำให้ SC Asset เรียบเรียงดนตรีเพลงนี้ใหม่ และเพิ่มเสียงร้องอีกเสียงหนึ่งเข้ามา เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เดินทางผ่านเวลา 25 ปีมาด้วยตัวของเขาเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนสำคัญในชีวิตมาด้วย
ความท้าทายในการนำเพลงดังมาสร้างการรับรู้แบบ Music Marketing
การใช้บทเพลงหรือดนตรีในการสื่อสาร นับเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมมายาวนาน แต่สิ่งที่ SC Asset ให้ความสำคัญมากกว่าการสื่อสารทั่วไป ก็คือการพยายามส่งสารออกไปเพื่อตอบโจทย์ให้ครบทั้ง 5 ผัสสะของคนในการรับชมสารนั้นๆ เป็นสิ่งที่เรียกว่า “อรรถรส” ในการทำแบรนด์ ที่เกิดจากการได้รับชมเนื้อหาที่กลมกล่อม ซึ่งประกอบไปด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส
สำหรับวันนี้ที่ SC Asset มีโอกาสได้เพลงคลาสสิกที่ฮิตติดหู เป็นภาพจำของใครหลายๆ คนมาแล้ว SC Asset จึงพยายามสร้างภาพที่อยู่ในใจของคนขึ้นมาด้วย ด้วยวิดีโอที่เป็นเรื่องเล่า มีภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่คล้ายกับชีวิตของเราทุกคน ซึ่งเกิดขึ้นในบ้าน ตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีความทรงจำในทุกซอกทุกมุม กับใครบางคนในบ้านหลังนั้น โดยมุ่งหวังที่จะสร้าง Visualize เมื่อคนฟังเพลง หลับตาลง และปรากฏภาพเดียวกันนี้ในการรับรู้ของเขา
คุณจูนยังเชื่อว่า ดนตรีทำงานกับความรู้สึกของคนได้ดี ซึ่งในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เพลง Home ก็เป็นเพลงที่อยู่ในใจและอยากนำมาใช้อยู่ตลอด แต่ก็ยังมีความกังวลว่าจะนำมาสื่อสารได้ไม่ดีพอ แต่ในนี้ช่วงเวลานี้ที่โควิด-19 ระบาด ส่งผลให้คนอยู่บ้านมากขึ้น บ้านจึงมีความหมายกับคนมากขึ้นกว่าช่วงอื่นๆ ประกอบกับความรู้สึกย่ำแย่ของคนที่เผชิญกับวิกฤตมา นี่จึงนับเป็นเวลาที่เหมาะสม ที่จะนำเพลงที่เปี่ยมความหมายมาช่วยเติมความรู้สึกด้านบวกให้กับคน พร้อมกับการส่งกำลังใจ อย่างน้อยให้ทุกๆ คนได้รู้ว่า ตัวเราเองกำลังทำทุกอย่างไปเพื่อใคร ซึ่งก็คือคนที่คุณหันไปแล้วเจอเขาอยู่ในบ้านนั่นเอง
การตอบรับของ SC Asset เมื่อเทรนด์ Subscription มาแรงในทุกมิติ
เมื่อพูดถึงเทรนด์ความนิยมในการซื้อสินค้าและบริการในปัจจุบัน คุณจูนเล่าว่า คนรุ่นใหม่ๆ เริ่มไม่มีความเชื่อว่าเราต้องเป็นเจ้าของอะไรหลายๆ อย่าง จนเกิดบริการอย่างเช่น Streaming เมื่อก่อนเราซื้อซีดี ดีวีดีกันเต็มบ้านไปหมด แต่ปัจจุบันเมื่อ Streaming Culture เข้ามา เราไม่ต้องซื้อสินค้าพวกนี้แล้ว
SC Asset จึงมีบริการพิเศษ ก็คือบริการสำหรับใช้ในบ้าน เช่น บริการล้างแอร์ ส่งน้ำ ส่งแก๊ส แม้แต่เสริมสวยตัดผมรายเดือน ฯลฯ โดยส่งบริการผ่าน “รู้ใจแอป” ให้ลูกบ้านสามารถ Subscription จ่ายรายเดือน แล้วได้บริการต่อเนื่อง ซึ่งผลตอบรับนั้นดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่คนอยู่บ้านกันมากขึ้น แล้วต้องการบริการที่เขาไม่ต้องออกไปหา แต่ถูกส่งเข้ามาที่บ้านแทน
การรองรับกระแส Smart Home เมื่อโลกขับเคลื่อนด้วย IoT
IoT เป็นอีกหนึ่งหน่วยบริการของ SC Asset ชื่อว่า “RueJai Home OS” เป็นระบบที่ติดตั้งไปในบ้านของ SC Asset เพื่อให้บ้าน “คิด” ได้ โดย SC Asset ได้ให้น้องๆ เด็กพิเศษที่มีภาวะบกพร่องทางการมองเห็น แต่ทักษะการฟังดีเยี่ยม มาช่วยเทรนด์ AI โดยสอนคำต่างๆ ที่นำไปสู่คำสั่งในบ้าน เช่น การให้ AI ปิดไฟ ซึ่งระบบ Smart Home จะไปช่วยให้คนในบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุใช้ชีวิตในบ้านได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น หรือแม้แต่คุณแม่ที่งานยุ่งสุดๆ แล้วมีลูกเล็กๆ ในบ้าน เมื่อใช้ระบบ IoT ก็สามารถมอนิเตอร์ได้จากทุกที่ รู้ว่าชีพจรของบ้านเต้นจังหวะไหน มีน้ำรั่ว ไฟรั่วหรือเปล่า
โดยพยายามจะรวมทุกอย่างเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มของ ‘รู้ใจ’ ทั้งบริการซ่อมแซมต่างๆ ที่กล่าวมา เพื่อให้เกิดการติดต่อและใช้งานได้ง่ายสำหรับคนอยู่บ้าน นอกจากนี้ SC Asset ยังให้สำคัญกับการสร้าง Data Privacy ให้ลูกค้า จากเดิมที่ลูกค้าต้องไปลงชื่อล็อกอินผ่านหลายแอปพลิเคชัน เพื่อใช้บริการต่างๆ ให้ครบ ซึ่งไม่รู้ว่าจะถูกนำข้อมูลส่งไปไหนต่อ SC Asset จึงรวมทุกบริการในบ้านไว้ในแอปพลิเคชันเดียว พร้อมการปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวไปพร้อมๆ กัน
ก้าวต่อไปของ SC Asset ในวันพรุ่งนี้
หลัง SC Asset ประกาศไว้ในต้นปีว่าต้องการจะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ซึ่งผลในไตรมาสที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่าแบรนด์กำลังมาถูกทาง เพราะได้ Market Share ของบ้านเดี่ยวมาเป็นอันดับ 1 จริงๆ แต่การจะขึ้นเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับหนึ่งได้ ต้องเกิดจากการมีสินค้าพร้อม และตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของคน
“ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ Segment แต่ต้องลงไปถึง Fragment” คุณจูนกล่าว
เพราะหากเราดูกันอย่างจริงจัง ปัจจุบันนี้ แค่ Segment คนโสด นั้นมี Fragment แยกย่อยไปมากมาย ไม่ใช่แค่คนที่อยู่คนเดียว แต่ยังรวมถึงแม่หรือพ่อเลี้ยงเดี่ยว และอื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ SC Asset ยังต้องการดูแลลูกบ้านแบบระยะยาว ไม่ได้เพียงขายบ้านแล้วจบ แต่ขยายเป็นสังคมที่เชื่อมต่อกัน และตอบรับด้วยบริการ ‘รู้ใจ’ อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ SC Asset มุ่งมั่นและอยากจะทำให้ดีที่สุด
ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย หรือต้นไม้ใหญ่ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คำว่าบ้านสมบูรณ์ เช่นเดียวกับที่ SC Asset ใส่ใจในทุกๆ องค์ประกอบที่ว่านี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คำว่าบ้านนั้นไม่ได้เป็นแค่สิ่งปลูกสร้างอีกต่อไป แต่มันมีความหมายถึง ‘หัวใจ’ ของคนที่อยู่อาศัยด้วย
