ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า “หุ่นยนต์จะมาแย่งงาน” และเราต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ถึงจะ “เอาตัวรอด” ได้ในโลกอนาคต ไปจนถึงการแนะนำทักษะที่จะได้เงินดีและมีงานแน่นอน เมื่ออนาคตมาถึง
หลายคนได้ยินอาจจะรีบเตรียมตัวให้พร้อม แต่ถ้าหากเราเป็นอีกหนึ่งคน ที่คำพูดเหล่านี้ไม่ได้ชวนให้เรารีบเรียนรู้ล่ะ?
วอลเทอร์ แวนเดอร์เวลด์ (Walter Vandervelde) เข้าใจเป็นอย่างดี มีหลายคนที่กังขากับโลกอนาคต ว่างานจะไม่มีจริงๆ อย่างที่พูดไหม และไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากรีบเรียนรู้ทุกอย่างไปเสียตอนนี้ โดยเฉพาะทักษะที่ฟังดูยากอย่าง AI, Cloud computing, Machine learning,หรือภาษาโปรแกรมต่างๆ
แต่นั่นก็ไม่ได้ความว่าพวกเขาจะไม่อยากเรียนรู้เลยในอนาคต
บนเวที Ted Talk วอลเทอร์จึงได้แนะนำ “ 5 ทักษะสำคัญ” ที่จะเป็นตัวช่วยให้เราเรียนรู้ทักษะอะไรก็ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นทักษะพื้นฐานที่จะช่วยให้เรารอดในอนาคต – หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ทักษะในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ นั่นเอง
ทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ทุกสิ่ง
แน่นอนว่ามีคนพูดถึงทักษะที่ต้องมี หรือ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อะไรทำนองนี้กันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น World Economic Forum ที่แนะนำว่าเราต้องมี Analytical thinking, Active learning, Complex problem solving, Critical thinking, และ Creativity
แต่เว็บไซต์อย่าง LinkedIn ก็แนะนำต่างกันออกไป เช่น Creativity, Persuation, Cooperation, Adaptability, และ Emotional Intelligence
แล้วอะไรคือทักษะที่สำคัญจริงๆ ล่ะ? วอลเทอร์ทำการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ทักษะต่างๆ ที่ถูกแนะนำ จนในที่สุดเขาก็พบ 5 ทักษะที่ปรากฏซ้ำๆ และเรียกมันว่า WINGS หรือ “5 ทักษะพื้นฐานในการเรียนรู้ทักษะใหม่”
1) Creativity ความคิดสร้างสรรค์
ความคิดสร้างสรรค์สำคัญต่อการคิดไอเดียที่ทั้งใหม่และมีประสิทธิภาพ ไอเดียเหล่านี้สามารถนำมาสร้างทั้งโอกาสใหม่ๆ และแก้ปัญหาเดิมที่เคยมีอยู่ก่อนหน้า เราสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้โดยการเป็นคนช่างสังเกต ชอบตั้งคำถาม มองในมุมมองใหม่ๆ และลองทำในวิธีที่แตกต่าง
2) Critical Thinking การคิดวิเคราะห์
ทักษะการคิดวิเคราะห์ช่วยให้เราเข้าใจเหตุผลของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันจะนำไปสู่ความรู้ที่เชื่อถือได้และคำตอบของคำถามที่เราสงสัย จึงเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากในอนาคตที่จะมีทั้งวิธีการใหม่ ความจริงชุดใหม่ ทฤษฎีใหม่ และความเห็นใหม่ๆ
การคิดวิเคราะห์ยังช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งในการทำงานเป็นกลุ่มและทำงานคนเดียว อีกทั้งความเป็นเหตุเป็นผลที่ได้จากการวิเคราะห์ ยังช่วยให้เรามองหาข้อผิดพลาดจากขั้นตอนเดิมๆ และนำไปสู่การค้นพบวิธีใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา
3) Self-Management การจัดการตนเอง
วอลเทอร์เชื่อว่า คนเราจะสามารถเดินไปยังเส้นทางที่ถูกต้องได้ ถ้ารู้ว่าเราอยู่จุดไหนของแผนที่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เราจะพัฒนาตัวเองไปได้ถูกทาง หากเรารู้จักทรัพยากรที่มีในตัวเองและนำเอามันมาใช้อย่างถูกวิธีนั่นเอง
เขาเชื่อว่าผลที่จะตามมาจากการรู้จักจัดการตนเอง คือ คนจะมีความมั่นใจ และ รู้ว่าตนกำลังมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายใด ทำให้พวกเขาผ่อนคลาย รับมือกับความเครียดได้ดี เรียนรู้และพัฒนาไปอย่างเป็นธรรมชาติ
4) Social Intelligence ความฉลาดทางสังคม
ความฉลาดทางสังคมนั้นคล้ายกับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) เพราะทักษะทั้งสองนี้จะสอนให้เราสื่อสาร อยู่ร่วมกับผู้อื่น และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ โดยการทำให้เราเป็นผู้ฟังที่ดี รู้จักสื่อสาร รู้จักให้กำลังใจคนอื่น โน้มน้าวคนอื่น และให้ฟีดแบ็ก
มนุษย์เราเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คน แต่การจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนได้นั้น เราต้องมีความฉลาดทางสังคมเสียก่อน
5) Attention Management การบริหารจัดการสมาธิ
เราพูดเรื่องการบริหารเวลากันบ่อย เราจัดเวลาเป็นช่องๆ ลงตารางในปฏิทินไว้ว่าจะทำงาน A กี่โมง และ งาน B ตอนกี่โมง ด้วยความหวังว่า การบริหารเวลานี้จะช่วยให้เราใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากขึ้น
แต่เท่านั้นยังไม่พอ วอลเทอร์มองว่า เวลาเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม และสิ่งที่เราบริหารได้โดยแท้จริงคือ เราจะมีสมาธิและจดจ่อไปกับอะไรบ้าง ณ เวลานั้นๆ
การจัดการความจดจ่อหรือสมาธิ นอกจากจะทำให้เราใช้เวลาได้คุ้มค่า ยังทำให้เรารู้จักเลือกที่จะสนใจและรู้ว่าอะไรสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด บางคนอาจมัวโฟกัสแต่ตัวปัญหา แต่คนที่รู้จักจัดการสมาธิจะกลับมาโฟกัสที่วิธีแก้ปัญหา มากกว่าข้อผิดพลาดที่เกิดไปแล้ว
หากพิจารณาให้ดี ทักษะที่ฟังดูซับซ้อนและเฉพาะเจาะจงอย่าง Complex Problem Solving ที่จริงแล้วก็คือการรวมกันของ ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ในการหาวิธีแก้ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ และ ‘การคิดวิเคราะห์’ ว่าวิธีที่คิดมาใช้ได้ผลจริงไหมและตัดสินใจเลือก
หรือทักษะอย่างการโน้มน้าวและการทำงานร่วมกับผู้อื่นก็ต้องมีรากฐานที่ดีอย่าง ‘ความฉลาดทางสังคมก่อน’
ดังนั้นหากเราฝึกฝนและพัฒนา 5 ทักษะพื้นฐานที่กล่าวไปอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าอนาคตจะเปลี่ยนไปแค่ไหน และไม่ว่าหุ่นยนต์จะมาแทนที่งานใด เราก็จะปรับตัว เรียนรู้ พัฒนาได้ และอยู่รอดในทุกๆ สถานการณ์แน่นอน!
อ้างอิง
https://bit.ly/3Slk4ME
https://bit.ly/3PYfJgL
.
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รู้จัก “กฎ 3x3x3 แห่งการเรียนรู้” ฝึกทักษะใหม่และพัฒนาตนเองภายใน 3 เดือน : https://bit.ly/3zSn0ch
“วัยกลางงาน” กับการเริ่มใหม่! ปรับตัวอย่างไรให้ราบรื่น เมื่อย้ายงานในช่วง Mid-Career : https://bit.ly/3bqoEst
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#reskill