Downward Spiral คือ อะไรมาเข้าใจจากสถานการณ์นี้กัน
พอคิดว่า “พรุ่งนี้วันศุกร์” หัวใจที่เหี่ยวแห้งก็เบิกบาน เพราะวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์เป็นสัญญาณว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้เราจะได้พักผ่อน หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานกันมานาน
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเมื่อไรที่ต้องพูดว่า “พรุ่งนี้วันจันทร์แล้วนะ” ความรู้สึกก็คงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ยังไม่ทันเริ่มวันก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาแล้ว เมื่อนึกภาพที่ต้องกลับไปทำกิจวัตรเดิมๆ ปั่นงานกองโต ก่อนจะกลับบ้านมาด้วยความอ่อนล้า วนเวียนซ้ำๆ จนกว่าวันศุกร์จะเวียนมาอีกรอบ
ไม่ใช่แค่เราที่รู้สึกทุกข์เมื่อวันจันทร์มาถึง แต่คนทั่วโลกก็รู้สึกเหมือนกัน!
เรื่องนี้ยืนยันได้จากการศึกษาของนักวิจัยมหาวิทยาลัย Vermont Complex Systems Center ซึ่งใช้ Hedonometer หรือมาตรวัดความสุข มาจับคำพูดที่สื่อถึงความสุข โดยการสุ่มตัวอย่างจาก Twitter จำนวน 50 ล้านทวีตในแต่ละวัน ซึ่งนับเป็น 10% ของข้อความทั้งหมดตั้งแต่ปี 2008-2017
พวกเขาพบว่า วันจันทร์เป็นวันที่คนในโลกทวิตเตอร์พูดถึงสิ่งดีๆ น้อยที่สุด หลังจากนั้นความสุขจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วสูงสุดที่วันเสาร์ ทำให้นักวิจัยตีความว่า วันจันทร์เป็นวันที่แย่ที่สุดในรอบสัปดาห์
แล้วเราสามารถเปลี่ยนวันจันทร์แย่ๆ ให้กลายเป็นวันที่มีความสุขเหมือนเป็นวันเสาร์ได้ไหม?
คำตอบคือ “ได้” ด้วยการควบคุม “อารมณ์แรกของวัน” ให้ดี ลองนึกภาพการตื่นมาด้วยใจที่ขุ่นมัวเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ทั้งงานมากมายที่รอเคลียร์ ทั้งการโหยหาวันหยุดที่เพิ่งผ่านพ้น เมื่อ “อารมณ์เสีย” ตั้งแต่ลืมตาตื่น วันนั้นทั้งวันก็คงไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้แน่ๆ
เพราะอารมณ์ความรู้สึกของเรานั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนเกลียวที่ขดเป็นก้นหอยหรือ “Emotional Spiral” โดยเกลียวอารมณ์นี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองขั้ว คือ “Upward Spiral” ซึ่งเป็นเกลียวอารมณ์เชิงบวกที่เริ่มจากความรู้สึกเป็นสุขหรือความพึงพอใจ (Contentment) ไปจนถึงความปีติ (Joy)
ส่วนอีกขั้วหนึ่งคือเกลียวอารมณ์เชิงลบ “Downward Spiral” ซึ่งเริ่มต้นจากความเบื่อหน่าย (Boredom) สู่ความรู้สึกเศร้าโศก หวาดกลัวหรือไร้พลัง (Powerless) ซึ่งอารมณ์เชิงลบนี้พาเราดิ่งจมไปกับความรู้สึกท่วมท้น ความตึงเครียด บางครั้งอาจถึงขั้นรู้สึกสิ้นหวังได้อย่างรวดเร็ว
การจมอยู่กับความคิดเชิงลบนี้เอง ที่นำไปสู่การกระทำเชิงลบ เช่น เอาแต่ตะคอกหรือด่าคนอื่น พาให้คนอื่นไม่อยากอยู่ใกล้เรา กลายเป็นคน Toxic ไม่น่าคบหา แต่ในทางตรงข้ามหากเราเริ่มต้นวันด้วยความคิดดีๆ เราจะอยู่กับความสุขตลอดทั้งวัน รวมถึงช่วยให้เรามี Productivity ที่ดีอีกด้วย
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วมาเรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยง “Downward Spiral” กันเถอะ
5 วิธีหลีกเลี่ยง “Downward Spiral”
1. เริ่มต้นและจบวันด้วยสิ่งที่เราชอบ
หลายคนมีสิ่งที่ชอบทำ เช่น อาบน้ำอุ่นหรือดื่มชาสักแก้วในตอนเช้า แม้แต่การกอดสมาชิกในครอบครัวก่อนออกจากบ้านก็เป็นสิ่งที่เหมือนเป็นการชาร์จแบตให้ใจเราได้ ลองทำสิ่งที่ชอบให้บ่อย แล้วเราจะค่อยๆ หยุดโฟกัสอารมณ์โมโหเวลาเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
และเมื่อเรากลับบ้าน อย่าเพิ่งไปคิดถึงงานที่วันนี้เจอมา พักผ่อนใจและสมองด้วยการทำสิ่งที่ชอบอีกสักครั้ง เพื่อให้อารมณ์เชิงบวกนี้ฝังอยู่ในใจเรา อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเชิงลบมาสะสมอยู่ในใจแล้วปั่นป่วนเช้าดีๆ ในวันพรุ่งนี้ของเรา
2. ลองมองเหตุการณ์ทั้งสองมุมมอง
เวลาต้องเจอความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต ลองมองหาโอกาสที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น แม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างการที่เราต้องตื่นเช้าทุกวัน ลองปรับมุมมองว่า นี่คือโอกาสดีที่เราจะได้เห็นความเงียบสงบของโลกก่อนความวุ่นวายจะมาเยือนเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น การปรับมุมมองจะช่วยให้เราไม่หัวเสียกับทุกเหตุการณ์จนเกิดความเครียดมากเกินไป
3. อย่าพยายามลบความรู้สึกเชิงลบไปจากใจ
การไม่พาตัวเองเข้าสู่ Downward Spiral ไม่ใช่การที่ทุกคนทำแต่สิ่งที่มีความสุขจนมองข้ามความรู้สึกด้านลบไปอย่างสิ้นเชิง เราเพียงแค่ต้อง “รับรู้และเข้าใจ” ความรู้สึกเหล่านั้นว่า นี่คือส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ และความรู้สึกเชิงลบนี้ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตเรา หรือเป็นตัวตนทั้งหมดของเรา
ให้เรามอบความเห็นอกเห็นใจให้ตัวเองบ้าง บางครั้งการที่เรารู้สึกหงุดหงิดตัวเองเวลาพยายามทำบางอย่างที่เราไม่เคยทำ เราลองหายใจลึกๆ และให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอว่า “สิ่งนี้มันทำยาก แต่ฉันกำลังพยายาม และฉันจะทำมันให้สำเร็จได้”
4. คิดให้น้อยลง
หากเราไม่สามารถหยุดคิดเรื่องแย่ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ ลองหันไปสนใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวเราขณะนี้ดู เราอาจจะได้เห็นสิ่งดีๆ ชวนให้เรายิ้ม เช่น ขณะนั่งรถไฟฟ้า เราอาจเห็นคนสละที่นั่งให้ผู้โดยสารที่เข้ามาใหม่
หรือถ้าเรากำลังอยู่ในที่ทำงาน เราอาจลองสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ หรือส่งสายตาให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเราอาจได้รับกำลังใจจากเพื่อนคนนั้นกลับเช่นกัน ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น
5. เลือกโฟกัสให้ถูกจุด
แน่นอนว่า เราไม่สามารถควบคุมความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลาได้ แต่เราสามารถควบคุมสิ่งที่เราสนใจได้ แล้วฝึกหาว่า เราจดจ่อสมาธิไปที่สิ่งใด ถ้าสิ่งที่เราจดจ่อ เป็นสิ่งไม่ดี พาให้เราเครียดตลอดเวลา หรือพาเราไปสู่ขั้นอื่นๆ ลึกขึ้นใน Downward Spiral ให้เรามองสิ่งนั้นเป็นแค่เรื่องรอง แล้วหันมาเลือกใช้สมาธิจดจ่อกับเรื่องอื่นๆ แทน
แม้ว่าความคิดในแง่ลบของเราอาจมีพลังในการควบคุมการกระทำ แต่ความคิดแง่บวกของเราก็มีพลังมากเช่นเดียวกัน เช่น ถ้างานที่เราวางแผนไว้อย่างดิบดีถูกยกเลิกกะทันหัน แทนที่เราจะมัวแต่จดจ่อกับความหงุดหงิด เราลองมองว่า นี่คือโอกาสให้เราเอาเวลาไปทำสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำดู
สุดท้ายนี้ หากความรู้สึกด้านลบมันยากเกินกว่าที่เราจะรับมือด้วยตัวคนเดียว ลองมองหาคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแม้แต่การปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อให้เราได้คำแนะนำที่ถูกต้อง รวมถึงวิธีการระบายความรู้สึกแย่ๆ นี้อย่างเหมาะสมเพื่อเลี่ยงอาการป่วยทางใจและกายที่อาจตามมาในภายหลัง
หลังอ่านบทความนี้จบ อย่าลืมทำให้วันนี้จบลงด้วยความรู้สึกดีๆ และตื่นด้วยความสดใสในวันพรุ่งนี้ มามีความสุขเป็นอารมณ์แรกๆ ของวันกันเถอะ!
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
– อารมณ์แรกของวันส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างไร?
– ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องพบจิตแพทย์? ทำความเข้าใจมนุษย์ผ่านข้อคิดจากหนังสือ Maybe You Should Talk to Someone
อ้างอิง
https://bit.ly/32ljzfT
https://bit.ly/3E9q173
https://bit.ly/3yKPWkE
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#psychology
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/