สำนักข่าว The Financial Times ระบุว่า หลังจากพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นฐานการผลิตที่สำคัญต่อโลก แต่ด้วยมาตรการ Zero Covid ของรัฐบาลจีน ส่งผลให้ต้องมีการล็อกดาวน์พื้นที่ในเมืองไปแล้ว 50% ทำให้ประชากรชาวเซี่ยงไฮ้จะต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านเท่านั้น และผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อจะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์กักตัวทันที นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีอาการที่แสดงถึงแนวโน้มการติดเชื้อก็ต้องกักตัวด้วยเช่นเดียวกัน จากความเข้มงวดของมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ทั่วโลกกังวลว่า Zero Covid อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก
ดูเหมือนว่า การใช้มาตรการ Zero Covid ของจีนเพียงประเทศเดียว ทำให้ทั่วโลกได้รับความเสียหายมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ที่พนักงานที่ทำงานในเซี่ยงไฮ้ จะต้องถูกกักตัวอยู่ใน ‘Bubble’ และเมืองทั้งเมืองอาจต้องถูกตัดขาดจากโลก และนี่อาจเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า จีนควรยกเลิกมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดแบบ Zero Covid ไปก่อนที่ห่วงโซ่อุปทานของทั้งโลกจะเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว The Financial Times เผยว่า ในท้ายที่สุดจีนจะต้องยกเลิก Zero Covid และต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตร่วมไปกับการแพร่ระบาดของโรค แม้ว่าที่ผ่านมาการใช้มาตรการดังกล่าว จะช่วยควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้เสมอมา ทว่าการแพร่ระบาดรุนแรงและยาวนานขึ้น จึงถึงเวลาที่จีนต้องสร้างตัวเลือกใหม่ให้กับประชาชนได้แล้ว
จากกรณีที่เกิดขึ้นกับฮ่องกง ทำให้เห็นแล้วว่า การล็อกดาวน์โดยใช้มาตรการ Zero Covid อาจไม่ได้ผลอีกต่อไป เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตส่วนมากไม่ได้มาจากการติดเชื้อ แต่เป็นเพราะไม่ได้รับวัคซีน โดยพบว่า อัตราการได้รับการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปี) มีจำนวนต่ำเกินไป
จากผลสำรวจข้อมูลการฉีดวัคซีนในจีนพบว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป จำนวนมากถึง 130 ล้านคน ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งการฉีดวัคซีนถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้ประชากรได้ใช้ชีวิตร่วมกับการแพร่ระบาดได้ ดังนั้นจีนจึงควรล้มเลิกมาตรการ Zero Covid และหันไปกระตุ้นการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ อย่างวัคซีน mRNA มากกว่าการควบคุมตัวเลขของจำนวนผู้ติดเชื้อ
ปัจจุบันทั่วโลก เริ่มหันมาดำเนินธุรกิจ และขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง อีกทั้งในหลายๆ ประเทศ ก็เริ่มมีการประกาศให้โควิด-19 กลายมาเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่การดื้อดึงที่จะใช้มาตรการ Zero Covid ของจีน ทำให้ทั้งโลกไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ และมาตรการดังกล่าวจะยิ่งทำให้จีนสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นหากจีนตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19 ก็จะช่วยทำให้ห่วงโซ่อุปทานของโลก และปัญหาการขาดแคลนสินค้ากลับมาฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ในอนาคต
แปลและเรียบเรียงจาก:
https://on.ft.com/3iJTc8w
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worldnews