แค่เปลี่ยน “มุมมอง” ก็เรียนรู้เรื่องใหม่ได้ทุกวัน

11018
รูปภาพจาก Number 24 x Shutterstock.com

(บทความนี้เป็นอีกหนึ่ง Sponsored Post ที่ให้แง่คิดดีๆ เกี่ยวกับการเรียนรู้)

ในการทำสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ เราต้องมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้ไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เมื่อมองย้อนกลับมา ตัวเราเองก็ต้องการการพัฒนาความรู้และทักษะของเราอยู่ตลอดเวลาไม่ต่างกัน เพราะการที่เรามีความรู้และทักษะที่จำเป็น จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้อย่างง่ายขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องเริ่มจากการมี Mindset ที่พร้อมเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ 

แต่อุปสรรคของการเรียนรู้ที่หลายๆ คนมักเจอคือ “อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ไม่มีเวลา” โดยเฉพาะเมื่อเราต่างมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ และบางคนก็ยังต้องทำงานประจำเต็มเวลาอีก สิ่งที่พอจะทำได้คือทำให้ทุกวันของเราเป็นการเรียนรู้โดยสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ เริ่มเปลี่ยนจากมุมมองของตัวเราเอง

Advertisements

1. เรียนรู้จากผู้คน

เราสามารถมองหาโอกาสที่จะได้เจอสิ่งใหม่ได้จากทุกคนที่เราได้เจอ เช่น หากคุณมีโอกาสได้พบลูกค้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง หรือได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในงานของเขา อย่าปล่อยเวลานั้นให้ผ่านไปอย่างสูญเปล่า แต่ให้ใช้โอกาสนั้นในการสังเกตและเรียนรู้สไตล์การทำงานของเขา เทคนิคที่เขาใช้ วิธีที่เขาคิด แล้วคุณจะพบว่าการเรียนรู้จากคนเก่งๆ นั้นเป็นประสบการณ์ที่หาอะไรเทียบไม่ได้เลย

2. มองความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเรียนรู้

ไม่มีอะไรรับประกันว่าทุกสิ่งที่เราตั้งใจทำจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป ถ้าเรามองความผิดพลาดเป็นความล้มเหลว มันก็คือความล้มเหลว แต่ถ้าเราลองมองว่ามันเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่เข้ามาท้าทายชีวิต เป็นการหาทางออกใหม่ๆ ให้กับปัญหาที่ยังไม่เคยเจอ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี่แหละที่จะทำให้เรารู้ตัวว่าเรายังมีอะไรที่ขาดตกพร่องไป และหาทางแก้ไขและพัฒนาตัวเองในจุดนั้น แล้วเราก็จะเรียนรู้จากมันแล้วเดินไปข้างหน้า เพื่อที่ต่อไปเราจะไม่ก้าวพลาดซ้ำในจุดเดิมอีก 

3. กระหายที่จะเรียนรู้

พูดกันตามตรงคือในชีวิตเรามีโอกาสให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ได้ในทุกวัน แต่บางครั้งเราก็ต้องปล่อยโอกาสเหล่านั้นให้หลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายเพียงเพราะว่าเราไม่ว่าง เช่น คนในทีมของคุณอาจจะได้รับโอกาสในการไปเทรนเรื่องที่คุณกำลังสนใจ แต่คุณกลับพลาดโอกาสเหล่านั้นไปเพราะติดพันโปรเจกต์บางอย่าง ดังนั้นเมื่อมีเวลา ลองเดินเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานของคุณเพื่อให้เขาถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ ให้ฟัง และถ้าเป็นจังหวะดีๆ ที่เขาไม่ติดงานอื่นอยู่ แน่นอนว่าเขาต้องเต็มใจเล่าให้คุณฟังอยู่แล้ว

4. สมัครรับจดหมาย (ออนไลน์)

พวกเว็บไซต์ต่างประเทศมักจะมีให้เรากดรับ newsletter (จดหมายข่าว) ทางอีเมล ลองเลือกรับสมัครพวกข่าวและบทความที่สนใจ รวมถึงเนื้อหาที่เป็นสายงานของคุณดู ซึ่งก็มีหลากหลายเว็บไซต์ให้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นข่าว บทความไลฟ์สไตล์ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เช่น Bloomberg, Morning Brew, Monocle, Fast Company ฯลฯ เป็นต้น ส่วนมากเว็บพวกนี้มักจะสรุปเนื้อหาที่น่าสนใจมาให้เราเรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และถ้าสุดท้ายแล้วเราไม่สนใจก็สามารถกดยกเลิกรับสมัครได้ตลอดเวลา

5. ล็อคตารางเวลาเรียนให้ตัวเอง

บ่อยครั้งที่เราคิดอยากจะเรียนอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้เริ่มสักที ลองใช้วิธีบันทึกลงไปบนปฏิทิน, แอปพลิเคชันเตือนความจำ หรือจะจดลงไปในสมุดเลยก็ได้ วิธีนี้จะช่วย visualize มันออกมาและจะช่วยเตือนความจำเราด้วย และถ้ามันสำคัญกับเรามากพอ สุดท้ายเราจะหาเวลาทำมันได้ในที่สุด แต่ถ้าเราไม่กำหนดเวลาไว้ให้ชัดเจน สุดท้ายงานอื่นที่ด่วนกว่าหรืองานที่เสียงดังกว่าก็จะเอาเวลาของเราไป

อย่างในบ้านเราก็มีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอย่าง YourNextU ที่ต้องบอกว่าเหมาะสำหรับคนทำงาน ที่กำลังมองหาคอร์สเรียน เพื่อที่จะพัฒนา Skill พัฒนาวิธีคิดและมุมมองต่างๆ เพราะต้องบอกว่าแม้ว่าเราจะเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่การที่เราจะสามารถก้าวไปอีกเลเวลหนึ่ง ในสายอาชีพ หรือแม้แต่เป็นการเปลี่ยนสายอาชีพก็ตาม

เรื่องของการเรียนรู้นั้นยังคงมีความสำคัญ และจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันข้างหน้า

Advertisements

ทาง YourNextU ให้ความสำคัญกับการพัฒนา Skill ที่จำเป็นสำหรับคนทำงานในรอบด้าน เพราะเชื่อว่าการจะไปสู่เป้าหมายในอนาคตได้นั้น คนทำงานควรจะมีทั้งเรื่องของ Soft Skill, Hard Skill, และเรื่องของ Mindset ซึ่งเราจะได้ฝึกฝนทักษะเหล่านั้นผ่านการพูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบุคคลจากสายอาชีพที่แตกต่าง ห้องเรียนที่มีเทรนเนอร์คอยไกด์ ให้คำแนะนำ จะช่วยทำให้เข้าใจ และมองเห็นโลกในมุมใหม่ ที่ต่างออกไปจากเดิม

โดยมีคอร์สชั้นนำมากกว่า 200 หลักสูตรจากสถาบันระดับโลกในด้านต่างๆ มาเติมเต็มความรู้และทัศนคติที่จำเป็น อันเป็นสิ่งสำคัญที่จะพาเราไปถึงความฝันของเราได้ในที่สุด

หากไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นเรียนด้วยคอร์สไหน YourNextU เปิดโปรแกรมแนะนำให้ทดลองเรียนถึง 2 คอร์ส

  • The Four Houses of DISC เทคนิคการอ่านตัวเองและคนรอบข้าง พร้อมวิธีการปรับตัวเพื่อการทำงานที่ราบรื่น ลงทะเบียนทดลองเรียนได้ที่ http://bit.ly/31BjX44
  • Outward Mindset ที่สอนให้มองคนรอบตัวด้วยความเข้าใจ แทนการจดจ่ออยู่กับเป้าหมายของตัวเองอย่างเดียว เพื่อสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ไปในทางที่ดี ลงทะเบียนทดลองเรียนได้ที่ http://bit.ly/2pTcdgr

สำหรับใครที่สนใจคอร์สเรียนดีๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/363xUuP

สุดท้ายการมีทัศนคติที่เปิดกว้างเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเรามีใจที่พร้อมจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เราก็จะสามารถพัฒนาตัวเองได้เร็วกว่าคนที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว นอกจากนี้การที่เราเป็นคนที่มีความกระหายในการเรียนรู้ทักษะต่างๆ ด้วยตัวเองก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เพราะในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้ด้วยตัวเองภายในเวลาไม่กี่นาที ถ้าเราจะรอให้ใครมาสอนก็คงไม่ทันการเป็นแน่

ในอนาคต ไม่ช้าก็เร็ว ทักษะทั้งหมดที่เรามีในตอนนี้ก็จะล้าหลัง ความรู้แบบเดิมๆ อาจไม่พอสำหรับอาชีพในอนาคต อย่างที่มหาตมะ คานธี เคยกล่าวว่า 

“Live as if you were to die tomorrow.
Learn as if you were to live forever”

“ใช้ชีวิตเสมือนว่าคุณกำลังจะตายในวันพรุ่งนี้ เรียนรู้ราวกับว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป”

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่