บทเรียนที่ 0: เพราะการเลือกไม่มีถูกผิด เรียนรู้การเลือกเส้นทางชีวิตจากหนังสือ ‘แปดขุนเขา’ (Le otto montagne)

3970
Le otto montagne

เปาโล คนเญตติ (Paulo Cognetti) นักเขียนชาวอิตาลีได้นำประสบการณ์และบทเรียนชีวิตที่ได้จากการเดินทางท่องโลกของตนเอง นำเสนอในรูปแบบเรื่องเล่าผ่านผลงานหนังสือ แปดขุนเขา (Le otto montagne) ที่ทำให้เราค้นพบกับเส้นทางชีวิตที่แตกต่างทว่า ‘ล้วนงดงามในแบบของตัวเอง’

“เราเล่าขานกันมาว่า มีขุนเขาสูงยิ่งใหญ่อยู่ใจกลางโลก ชื่อเขาพระสุเมรุ รอบเขาพระสุเมรุมีแปดขุนเขา และแปดมหาสมุทร โลกเป็นเช่นนี้ในความเชื่อของเรา”

“แล้วเราก็พูดกันว่า ใครได้เรียนรู้มากกว่ากัน คนที่ได้ท่องเที่ยวไปทั้งแปดขุนเขา หรือคนที่ไปถึงยอดเขาพระสุเมรุ”

นี่ไม่เพียงเป็นคำบอกเล่าที่ชายชราชาวเนปาลได้ให้ไว้กับ ‘ปิเอโตร กวัสติ’ แต่ยังเป็นการโยนคำถามให้เขาและผู้อ่านว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดกันแน่ ระหว่างการได้ขึ้นยอดเขาพระสุเมรุ หรือการออกท่องไปบนแปดมหาสมุทร

‘ปิเอโตร กวัสติ’ ชาวเมืองมิลานผู้มีพ่อแม่เป็นคนรักภูเขาและชื่นชอบการปีนเขา ส่วน ‘บรูโน กุลเยลมินา’ เด็กเลี้ยงวัว ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ทั้งสองเปลี่ยนจากคนแปลกหน้ากลายมาเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้นยากจะลืมเลือน กาลเวลาที่ผ่านพ้นไป ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของแต่ละคนค่อยๆ แจ่มชัดขึ้น มาหาคำตอบกันว่าคนสองคนนี้จะเดินตามความฝันไปทิศทางใด

บรูโนเป็นตัวแทนของผู้ที่ ‘ไปถึงยอดเขาพระสุเมรุ’ ผู้ไม่เคยจากขุนเขาบ้านเกิด ยึดมั่นว่าจะอยู่ที่นั่นไปตลอดชีวิต เป็นคนภูเขาที่ใช้ชีวิตอยู่กับการซ่อมบ้าน รีดนมวัว ทำชีสขาย เลี้ยงสัตว์นานาชนิด และมีความคิดที่ว่า “อยู่กับสัตว์ก็มีเรื่องใหม่ๆ ให้เรียนรู้อยู่เสมอ”

เขาปฏิเสธคำชวนของปิเอโตรที่ชวนเขาเข้าเมืองหรือเดินทางไปยังขุนเขาลูกอื่นที่ยังไม่เคยไปมาก่อน ถึงแม้ว่าในชีวิตของบรูโนจะมีเพียงขุนเขาบ้านเกิด แต่ที่แห่งนั้นเป็นทุกอย่างสำหรับเขา เขาพอใจและภูมิใจที่ได้อยู่กับมัน มันเป็นสถานที่ที่ให้ประสบการณ์และทำให้เขาเติบโต

ปิเอโตรคือสัญลักษณ์ของผู้ที่ ‘ท่องเที่ยวไปทั้งแปดขุนเขา’ เริ่มทำตามฝันด้วยการออกท่องเดินทางไปขุนเขาต่างๆ รอบโลก เพื่อต้องการจะเห็นยอดเขาสวยๆ ในที่ไกลๆ และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เขารู้ว่าในชีวิตเขาไม่มีภูเขาลูกไหนที่เหมือนกับภูเขาลูกที่เคยเดินกับพ่อในตอนเด็ก พ่อได้จากเขาไปแล้ว ภูเขาที่ผูกพันลูกนั้นไม่มีอีกแล้ว เพื่อเก็บซ่อนความทรงจำที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามไว้ส่วนลึกของหัวใจ  ด้วยเหตุนี้เขาจึงออกเดินทางไปยังขุนเขารอบโลก

ในขณะเดียวกัน เขายังเห็นมุมมองของบรูโนที่มีต่ออุปสรรคชีวิตที่ถูกหลอกจากการทำธุรกิจและถูกบอกเลิกจากคนรัก ทำให้เขาเข้าใจว่าการเลือกเดินทางชีวิตของแต่ละคนนั้นไม่มีถูกผิด ชีวิตคือการเลือกในสิ่งที่เราต้องการ ทำในสิ่งที่ชีวิตสอนให้ทำและเข้าใจมันอย่างถ่องแท้

เมื่อเราอ่านจบ เราได้เห็นมุมมองของชายสองคนนี้ที่มีต่อการใช้ชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อีกคนพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ อีกคนกลับต้องการความตื่นเต้นในชีวิตที่ตนยังไม่เคยพบเจอ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาพอใจและมีความสุขกับสิ่งที่เลือก พวกเขามีความฝันที่หนักแน่นและมั่นคง สิ่งนี้ทำให้เราเข้าใจว่าไม่มีใครเรียนรู้มากกว่าใครหรือประสบความสำเร็จมากกว่าใคร เพราะเราทุกคนล้วนนิยามความหมายของชีวิต ‘แตกต่าง’ กันออกไป

‘เพราะการเลือกไม่มีถูกผิด’

บางคนชอบกินร้านอาหารร้านเดิมเพราะชินกับรสชาติอาหาร กลัวว่าเมื่อเปลี่ยนร้านอาหารจะไม่อร่อยเท่าร้านเดิม บางคนชอบเปลี่ยนร้านอาหารไปเรื่อยๆ เพราะอยากลิ้มลองรสชาติใหม่ๆ เราเลือกที่จะขับรถไปเส้นทางที่รถติดเพราะขี้เกียจขับอ้อม แต่คนอื่นอาจจะเลือกที่จะขับอ้อมเพราะไม่อยากเสียเวลา

ทางเลือกในชีวิตเรามีนับไม่ถ้วน แต่ละคนล้วนมีความฝันและความต้องการที่แตกต่างกัน  เราไม่สามารถนำมาตรฐานของตนไปวัดกับผู้อื่นว่าใครเรียนรู้มากกว่าใคร ใครมีความสุขมากกว่าใคร ในขณะเดียวกันผู้อื่นก็ไม่สามารถมาตัดสินหรือบงการชีวิตว่าเราควรเลือกเส้นทางไหน

เราจะมีอิสระในการใช้ชีวิตก็ต่อเมื่อเรา ‘เลือก’ โดยการเลือกนั้นต้องมาจากความต้องการของเราจริงๆ หนักแน่นในความคิดของตัวเอง ฟังเสียงหัวใจตัวเอง แล้วเราจะได้คำตอบว่าเราต้องการอะไรกันแน่ และเมื่อเราเลือกแล้วนั่นหมายความว่าสิ่งนั้นดีสำหรับเราจริงๆ ต่อจากนั้นทำมันให้ดีอย่างที่เราต้องการให้มันเป็น

เมื่อเราทำมันให้ดี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับตรงกันข้าม ขอให้รู้ไว้ว่าอย่างน้อยเรายังมี ‘บรูโน’ เป็นเพื่อนที่เหมือนกันกับเรา บรูโนกล่าวไว้ว่า “คนเราต้องทำสิ่งที่ชีวิตสอนให้ทำ ตอนอายุน้อยๆ อาจยังเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางเดินได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งควรหยุดและบอกตัวเองว่า เอาล่ะ สิ่งนี้เราทำได้ สิ่งนี้ทำไม่ได้” เขาผ่านเรื่องราวชีวิตมามากมาย ใช้ชีวิตคนเดียวในภูเขาจนอายุ 40 ปีถึงรู้ว่าตัวเองก็มีคุณค่าเหมือนกัน

เช่นเดียวกัน เราจะไม่รู้ความหมายของชีวิตจนกว่าเราจะประสบพบเจอด้วยตนเอง และเราจะรู้คุณค่าของตัวเองก็ต่อเมื่อเราเจอเรื่องแย่ๆ ในชีวิตและในที่สุดเราผ่านมันมาได้ แล้วเราจะภูมิใจว่า “เราก็เก่งเหมือนกันนะที่ผ่านมันมาได้”

สำหรับใครที่กำลังเจ็บปวดอยู่กับเรื่องในอดีต เมื่อคิดถึงมัน มันคอยตอกย้ำความรู้สึกแย่ๆ อยู่เสมอ หรือใครที่กำลังตามหาขุนเขาที่สวยที่สุดในชีวิต พวกคุณกำลังตามหาชีวิตที่ดีขึ้นอยู่ใช่ไหม? ไม่ต้องกังวล เพราะปิเอโตรจะเดินข้างๆ เป็นเพื่อนคุณเอง

บางอย่างที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้ จงให้เวลาจนกว่ามันจะตกตะกอน ทิ้งมันไว้และเก็บกระเป๋าเดินทางสู่ภูเขาลูกใหม่ไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน เดินทางไปจนกว่าจะเจอภูเขาลูกที่สวยและเหมาะกับเราที่สุด ไม่แน่ สักวันเราจะพบว่าบทเรียนที่เราได้จากการเดินทางไปยังภูเขาลูกต่างๆ อาจเป็นคำตอบเดียวกับที่เราตามหามาตลอด

Advertisements



ไม่ว่าจะเลือกทางเดินไหน ขอให้คุณเลือกด้วยตัวคุณเอง ไม่ต้องกลัวว่าจะแตกต่างจากคนอื่น เพราะไม่ว่าอย่างไรบรูโนและปิเอโตรจะอยู่เป็นเพื่อนและไม่ทิ้งคุณไปไหนแน่นอน


อ้างอิง: แปดขุนเขา – เปาโล คนเญตติ (Paulo Cognetti)

Advertisements


#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements