ในปัจจุบัน Gig Economy หรือระบบเศรษฐกิจที่เกิดจากการจ้างงานแบบชั่วคราวได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถประกอบอาชีพ ‘Freelancer’ หรือ ‘อาชีพอิสระ’ กันมากขึ้น
ซึ่งการประกอบอาชีพอิสระมีข้อดีหลายประการ เช่น มีความยืดหยุ่นในการทำงาน สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ มีโอกาสในการพัฒนาตัวเองมากขึ้น และรายได้เติบโตได้อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสกับโปรเจกต์หลากหลายที่จะช่วยเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เหรียญมักมีสองด้านเสมอ แม้ว่าการประกอบอาชีพอิสระจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียหลายประการที่ต้องเผชิญ
ความเสี่ยงและความท้าทายของการเป็นฟรีแลนซ์
ชาวฟรีแลนซ์ต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายประการที่อาจทำให้รู้สึกกดดันหรือเครียด และหากไม่ได้เตรียมตัวหรือจัดการความเสี่ยงเหล่านี้อย่างรอบคอบ ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและการทำงานได้ และนี่คือความท้าทายส่วนหนึ่งที่ฟรีแลนซ์ต้องเผชิญ
1. ความไม่เสถียรของรายได้
หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญของการเป็นฟรีแลนซ์คือ ความไม่เสถียรของรายได้ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสในการเพิ่มรายได้มากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็หมายถึงความไม่แน่นอนทางด้านการเงินด้วย บางเดือนรายได้อาจสูงจนน่าใจหาย แต่บางเดือนอาจน้อยจนน่าตกใจ ความไม่แน่นอนนี้ทำให้การวางแผนการเงินเป็นเรื่องที่ท้าทายและกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
2. ภาระงานที่ไม่แน่นอน
ภาระงานที่มีความไม่แน่นอนเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ฟรีแลนซ์ต้องเผชิญ บางเดือนอาจงานเยอะจนทำให้รู้สึกว่างานท่วมหัว แต่บางเดือนก็อาจงานหดจนทำให้รายได้หดตาม และแน่นอนว่าเรื่องของภาระงานนั้นส่งผลต่อสุขภาพของเราโดยตรง หากเดือนไหนงานเยอะเกินไป เราก็อาจต้องโหมร่างกายทำงานหนักจนป่วยได้ หรือหากเดือนไหนงานหด ก็อาจทำให้เครียดหนักจนส่งผลต่อสุขภาพกายได้เช่นกัน
3. ขาดสวัสดิการที่มั่นคง
ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของชาวฟรีแลนซ์คือ ไม่มีสวัสดิการเหมือนชาวออฟฟิศ หากพูดถึงชาวออฟฟิศแล้ว เราจะเห็นว่าผู้คนเหล่านั้นนอกจากจะมีเงินเดือนที่แน่นอนแล้ว ยังมีสวัสดิการที่จำเป็นหลายอย่าง เช่น ประกันสังคมที่ครอบคลุมกว่าและประกันกลุ่มที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยหรือยามได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แต่การเป็นฟรีแลนซ์หมายความว่าจะเสียประโยชน์ส่วนนี้ไป ทำให้ไม่มีหลักประกันเรื่องสุขภาพ
“อาชีพอิสระไม่ควรต้องเสี่ยง” แคมเปญที่จะช่วยให้ก้าวข้ามความเสี่ยง สู่อนาคตที่มั่นคงกว่าเดิม
การทำอาชีพอิสระมาพร้อมกับความเสี่ยงมากมาย ทำให้อนาคตกลายเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนสำหรับหลายคน แล้วฟรีแลนซ์จะสามารถปกป้องอนาคตของตัวเองจากความไม่แน่นอนนี้ได้อย่างไร?
ก่อนอื่น ธุรกิจต่างๆ ควรเล็งเห็นถึงความสำคัญของคนกลุ่มนี้และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หนึ่งในตัวอย่างของธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับอาชีพอิสระคือ “กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต” ที่ได้เปิดตัวแคมเปญแบรนด์ระดับโลก “Being self-employed shouldn’t be a risk.” หรือ “อาชีพอิสระไม่ควรต้องเสี่ยง”
ย้อนกลับไปในปี 2023 กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ได้เปิดตัวแคมเปญที่มุ่งเน้นความเสี่ยงที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ซึ่งส่งผลต่อศักยภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตของพวกเธอ เมื่อเข้าสู่ปี 2024 บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการความเสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งมักเผชิญกับความท้าทายต่างๆ และอาจไม่ได้รับผลประโยชน์หรือความคุ้มครองที่เหมาะสม ทำให้คนกลุ่มนี้มีอนาคตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
โทมัส บูเบิร์ล ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มแอกซ่า เคยตั้งคำถามว่า “อนาคต…ทำไมต้องมีความเสี่ยง?” ทุกคนต่างก็หวังที่จะมีอนาคตที่มั่นคง แต่โลกปัจจุบันเต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอน โดยเฉพาะกลุ่มฟรีแลนซ์ที่ต้องเจอกับความท้าทายต่างๆ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว อาชีพอิสระนั้นมีอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยนั้นมีความหลากหลายมาก มีตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย เช่น พ่อค้าแม่ค้าในตลาด, ผู้ให้บริการอิสระ เช่น ช่างภาพ นักเขียน ล่าม, ผู้รับจ้างอิสระ เช่น คนขับแท็กซี่ คนขับรถรับจ้าง, ไปจนถึงผู้ค้าขายออนไลน์ ศิลปินอิสระ และผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำอีกมากมาย แต่หลายคนกลับมองข้ามการทำประกันด้วยหลากหลายเหตุผล
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด หรืออาจเป็นเพราะหลายธุรกิจยังมองข้ามกลุ่มนี้ ทำให้บางคนละเลยความสำคัญของการดูแลสุขภาพตนเองไปโดยปริยาย
แคมเปญของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิตในครั้งนี้ จึงถือเป็นการจุดประกายให้เห็นถึงความสำคัญของกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระที่หลายธุรกิจอาจมองข้าม และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้คนกลุ่มนี้รับมือกับความท้าทายในแต่ละวันได้ดีขึ้น ด้วยความคิดที่ว่าทุกคนควรก้าวไปพร้อมกัน เพราะชาวฟรีแลนซ์เป็นกลุ่มสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและโลก
โดย กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิตนั้นมีแบบประกันที่ตอบโจทย์สำหรับชาวฟรีแลนซ์ เพื่อให้รับมือกับความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดในอนาคตได้ ซึ่งก็คือแบบประกัน “คุ้มเวอร์” ที่จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชาวฟรีแลนซ์ทุกคน
แคมเปญนี้ถูกสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ ตั้งแต่ภาพถ่ายไปจนถึงภาพยนตร์ ซึ่งในส่วนของภาพยนตร์ได้ผู้กำกับฝีมือดี Hoffman & Metoyer มาถ่ายทอดเรื่องราวของชาวฟรีแลนซ์ผ่านเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน พร้อมกับบทเพลง ‘I Got You, Babe’ ที่ถูกรีเมกโดย El Perro Del Mar นักดนตรีชาวสวีเดน
ส่วนแคมเปญภาพถ่ายนั้นได้ช่างภาพชาวอเมริกัน Brian Doben มานำเสนอกิจวัตรในการทำงานของผู้ประกอบอาชีพอิสระ แคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 ถึง 2025 ใน 14 ประเทศ (ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ไอร์แลนด์, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม, โมร็อกโก, ตุรกี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ไทย, และเม็กซิโก)
ในท้ายที่สุดนี้ จะเห็นว่าแคมเปญ “Being self-employed shouldn’t be a risk.” หรือ “อาชีพอิสระไม่ควรต้องเสี่ยง” ของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระที่มักถูกมองข้าม เนื่องจากทุกคนต่างก็ต้องการมีอนาคตที่มั่นคง กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จึงมีความมุ่งมั่นที่จะ “ลงมือทำ” เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของผู้คน
นอกจากแคมเปญดังกล่าวแล้ว กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ยังจัดคาราวานตรวจสุขภาพในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น
[ ] Bangkok : ตลาดกรุงธนบุรี 2 วันที่ 8 สิงหาคม 2567
[ ] SongKla : ถนนคนเดินสงขลาแต่แรก วันที่ 10 สิงหาคม 2567
[ ] Chiang Mai : กาดมีโชค วันที่ 13 สิงหาคม 2567
[ ] KhonKaen : ตลาดต้นตาล วันที่ 15 สิงหาคม 2567
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้คนดูแลตัวเองอย่างมั่นใจ พร้อมเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป
Mission To The Moon X Krungthai-AXA Life
#อาชีพอิสระไม่ควรต้องเสี่ยง
#เราเข้าใจคุณ
#KrungthaiAXALife
#KnowYouCan