Mission to the Moon X JCB
กระแสโซเชียลมีเดียที่มาแรง ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse หรือแม้แต่ Facebook, Instagram และโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทำให้มีเทรนด์ใหม่ๆ และข่าวสารมากมายหลั่งไหลผ่านหน้าจอตลอดเวลา ด้วยกระแสโลกที่เปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่เสพติดการเล่นโซเชียล หลายๆ คนต้องพาตัวเองไปตามกระแสเหล่านั้น เช่น การทดลองเล่นแอปพลิเคชันใหม่ เช็กอินคาเฟ่เปิดใหม่ หรือท่องเที่ยวในที่ที่เพิ่งโด่งดัง เพราะรู้สึกกลัวว่าจะพลาดข้อมูลอะไรไป คนในกลุ่มดังกล่าวนี้ถูกเรียกว่า “FOMO” (Fear Of Missing Out) หรือคนที่กลัวตกกระแสในโลกออนไลน์ คนกลุ่มนี้จะใช้โทรศัพท์มือถือตลอดเวลา เข้าหน้าฟีดในโซเชียลมีเดียเพื่อเช็กข้อมูล อัปเดตเรื่องราวต่างๆ แบบไม่มีหยุดพัก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดทั่วโลก และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรายงานเมื่อปี 2019 จาก ไอพีจี มีเดียแบรนด์ ประเทศไทย ว่า มีคนไทยจำนวนถึง 25 ล้านคน อยู่ในกลุ่ม FOMO ซึ่งมีทุกวัยประกอบอยู่ในนี้
แต่การเสพติดโซเชียลมีเดียมากๆ เข้า มักจะก่อให้เกิดอาการเครียด จนหลายๆ คนเริ่มถอยออกมาจากการเกาะติดหน้าจอมือถือ และเริ่มแสวงหาความสุขในรูปแบบที่ตรงกันข้าม นั่นคือการเว้นพักจากโซเชียลมีเดีย งดรับข้อมูลข่าวสารที่หนักหน่วง มีการควบคุมการใช้งานมือถือ และพยายามมองหากิจกรรมพักผ่อนในโลกออฟไลน์มากขึ้น จึงเกิดกลุ่มคนใหม่ขึ้น คือ “JOMO” (Joy Of Missing Out) หรือกลุ่มคนที่รู้สึกมีความสุขดี แม้จะพลาดข้อมูลข่าวสารบางอย่างไป
สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนประเภท FOMO ที่ต้องตามทุกเทรนด์จนเหนื่อย และอยากเปลี่ยนพฤติกรรมมาสู่การใช้ชีวิตแบบ JOMO ลองมาดูวิธีเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนที่มีความสุขแม้จะตามข่าวสารไม่ทันกันดีกว่า
1. หยุดพักจากโลกออนไลน์
ข้อนี้ฟังดูเหมือนกำปั้นทุบดิน แต่นี่คือพื้นฐานของการก้าวออกจาก FOMO ลองสังเกตดูว่าเราเสพติดการรับรู้เรื่องราวต่างๆ ก็เพราะแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้พยายามคัดเลือกเนื้อหาที่เราสนใจมาให้เราดู ยิ่งดูมากเท่าไร โซเชียลมีเดียก็ยิ่งรู้ใจเรามากขึ้นเท่านั้น เพราะมันมีข้อมูลตัวอย่างจากเราเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น ลองจัดสรรเวลาสำหรับการใช้งานออนไลน์ และใช้มันอย่างมีเป้าหมาย เช่น เราจะหยิบมือถือมาดูและตอบข้อความหรืออีเมลเท่านั้น หรือเราจะเล่นเฟซบุ๊กแค่ 10 นาทีเท่านั้น เมื่อครบกำหนดเวลาเราต้องวางมือถือทันที ค่อยๆ บริหารเวลาในส่วนนี้ แล้วเราจะเรียนรู้เองว่า การไม่ได้ตามข่าวสารหรืออัปเดตเรื่องของเพื่อนในโลกออนไลน์นั้น ไม่ได้ทำให้เราตกข่าวสำคัญอะไรไปเลย ตรงกันข้าม ข่าวสำคัญๆ สามารถรับรู้ในช่วง 5-10 นาทีที่เรากำหนดอีกด้วย
2. รู้จักการจัดลำดับความสำคัญและทำตามแผน
เรามักเสียเวลาไปกับการ “ขอพักแป๊บเดียว” และก้มหน้าใช้เวลากับมือถือ จนเมื่อรู้ตัวอีกทีเราก็สูญเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ ถ้าหากได้ลองพยายามจัดสรรเวลาในการใช้มือถือแล้ว ให้ขยับมาสู่การจัดลำดับความสำคัญของกิจวัตรประจำวันด้วย ลองทำ To do list และใช้เทคนิค Time Blocking ช่วยเรียงลำดับและแบ่งเวลาการทำงาน ก็จะช่วยให้เราจัดลำดับกิจกรรมของชีวิตได้ดียิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญคือคุณต้องเคารพแผนการด้วยการทำมันตามเวลาอย่างเคร่งครัด ไม่อย่างนั้น การจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นชาว JOMO ก็คงเป็นเรื่องยาก
3. ให้ความสำคัญกับการเข้าใจตนเอง
การกลัวตกเทรนด์ทำให้เราวิ่งตามหน้าไทม์ไลน์อยู่ตลอด เรารู้ข่าวสารทันโลก เรารู้ว่าเพื่อนของเราทำอะไร คิดอะไร แต่สิ่งที่เราอาจไม่รู้ก็คือ ตัวเราคิดอะไร การเข้าใจตนเองด้วยวิธี Self-Reflection หรือการสะท้อนตัวตนของตัวเองจึงมีความสำคัญมาก อาจใช้การจดบันทึกความรู้สึกนึกคิดของตัวเองก็ได้ เวลาที่เราได้เขียนคือเวลาที่เราได้เรียบเรียงความคิดในหัว ค่อยๆ เขียนวันละ 20-30 นาที และไม่ต้องกังวลว่าเราจะเขียนไม่ดี เพราะเราเขียนเพื่อทบทวนตัวเอง เมื่อเราได้ตรวจสอบตัวเองทุกวัน เราก็จะมองเห็นคุณค่าของตัวเองและเวลาในชีวิตมากยิ่งขึ้น
4. ลองตามหาประสบการณ์พิเศษ
โลกใบใหญ่ไม่ได้มีแค่เรื่องราวในมือถือ ลองใช้ชีวิตเพื่อสัมผัสประสบการณ์ในโลกออฟไลน์ กับผู้คนจริงๆ อย่างการสร้างกิจกรรมพิเศษกับเพื่อนร่วมงาน เช่น การเล่นบอร์ดเกม การพูดถึงเรื่องทัศนคติหรือมุมมองชีวิต หรือการนัดเพื่อนสนิทไปเปิดโลกแห่งอาหาร เสาะหาร้านที่มีความโดดเด่น ลิ้มรสเมนูพิเศษของร้านนั้นๆ แล้วคุณจะสนุกกับการได้สัมผัสรสชาติของชีวิตอันแท้จริง อย่างเช่นการได้ไปเปิดประสบการณ์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภท Crown Dining อย่างเหนือระดับกับบัตรเครดิต JCB และชิมอาหาร Crown Dish จานพิเศษจากเชฟของร้านนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเลื่อนหน้าฟีดอย่างเดียวคงไม่ได้สัมผัสกับประสบการณ์พิเศษได้แน่นอน
และสำหรับใครที่อยากได้รับประสบการณ์พิเศษไม่เหมือนใคร ทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์การกิน ท่องเที่ยว และเดินทาง ต้องไม่พลาดกับบัตรเครดิต JCB ที่พร้อมเป็นเพื่อนที่รู้ใจ ซึ่งคัดสรรโปรโมชันสุดยูนีค มาเพื่อตอบโจทย์การเปิดประสบการณ์สุดพิเศษของผู้ใช้งาน กับ JCB PLATINUM SERVICE ทั้ง หมวด Daily Dining รวมร้านอร่อย, หมวด Journey ตอบโจทย์คนรักการเดินทางท่องเที่ยว, Lifestyle เข้ากับทุกการใช้ชีวิต และ Crown Dining ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นเหนือระดับ ให้คุณสนุกกับการใช้ชีวิตที่ไม่ตามกระแส แต่ที่มีความสุขแบบเฉพาะตัวได้แบบที่คุณต้องการ
อ้างอิง:
https://bit.ly/2MfqIa0
https://bit.ly/3bwG9mT
https://bit.ly/3pIYdPH
https://bit.ly/3pPFGkO
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#business
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/