สรุปหนังสือ ‘Reasons to Stay Alive’ เรียนรู้การมีชีวิตต่อ แม้จะแหลกสลาย

6749
Reasons to Stay Alive

รู้จักนักเขียน: Matt Haig

‘Matt Haig’ นักเขียนชาวอังกฤษที่ฝากผลงานไว้มากมาย เช่น ‘The Midnight Library’ และ ‘The Humans’ สำหรับหนังสือเรื่อง ‘Reasons to Stay Alive’ เป็นเสมือนบันทึกที่บอกเล่าประสบการณ์ของเขาเกี่ยวกับอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และแพนิค ผ่านเรื่องราวของเขาคนเก่าที่ตายไปแล้วและเขาคนใหม่ที่มีความสุขในปัจจุบัน เพื่อขอบคุณ ‘Andrea’ ภรรยาสุดที่รักที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอมา และเพื่อคนที่กำลังเผชิญกับโรคเหล่านี้อยู่ให้รู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนพร้อมเข้าใจเสมอ รวมถึงผู้ที่ต้องอยู่กับผู้ป่วยเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจมากขึ้น

Goodbye: Matt คนเก่าที่ตายจากโลกนี้ไปแล้ว

  1. เขาอาศัยอยู่ที่เมือง Ibiza ประเทศสเปนกับแฟนสาว ‘Andrea’ โดยจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เริ่มขึ้นตอนอายุ 24 ปี เมื่อเขาเริ่มมีอาการวิตกกังวลและแพนิคจนกระทบการใช้ชีวิตไปทุกอย่าง
  2. อาการต่างๆ ทำให้นอนไม่หลับและไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้ และทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแทบไม่ทันตั้งตัว เป็น 3 วันที่ทรมานมากๆ
  3. วันหนึ่งเขาอยากจบชีวิตตัวเองและตัดสินใจไปที่หน้าผา แต่ตอนนั้นกลับมีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘ความกลัว’ ทำให้เขาล้มเลิกที่จะจบชีวิตตัวเอง
  4. ‘Andrea’ คอยอยู่เคียงข้างเสมอ และพาเขาไปพบแพทย์ โดยแพทย์ได้สั่งยากล่อมประสาท ยานอนหลับ ยาลดเครียดให้เขา และทั้งสองคนตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านที่ประเทศอังกฤษ
  5. ภายนอกเขาอาจดูเหมือนปกติไม่มีความเจ็บปวดใดๆ ปรากฏออกมาให้คนอื่นเห็น แต่ความจริงแล้วภายในใจเขามันแหลกสลายไปแล้ว แม้แต่เรื่องง่ายๆ ที่เคยทำได้กลับกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
  6. เช่น การออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ เพราะแค่ก้าวขาออกจากบ้านก็ทรมานจนหายใจแทบไม่ออก เห็นภาพหลอน เกิดความคิดต่างๆ เต็มไปหมด และยังต้องพยายามทำตัวปกติต่อหน้าคนอื่น

Welcome Back: Matt คนใหม่ในเวอร์ชันที่เจ๋งกว่าเดิม

  1. หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นหลังจากเขาผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ 13 ปี ซึ่งหากมองย้อนกลับไปก็คงสังเกตเห็นสัญญาณเตือนต่างๆ ได้ง่ายๆ แต่ในตอนนั้นใครจะคาดคิดเพราะมันคือเรื่องปกติที่จะกังวลเมื่อตกอยู่ในบางสถานการณ์
  2. เขาค้นพบว่าการหนีทำให้โลกแคบและทุกอย่างแย่ไปกว่าเดิม แต่การกลับมาเผชิญโลกกว้างทำให้ค้นพบเรื่องน่าสนใจอีกมากมาย เช่น การไปเที่ยว ออกกำลังกาย หรือการอ่านหนังสือ ซึ่งช่วยทำให้อาการค่อยๆ ดีขึ้น
  3. สิ่งที่ช่วยรักษาโรคเหล่านี้ได้ดีที่สุดคือ ความเข้าใจทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง ต้องอาศัยเวลา รออีกสักนิดและทุกอย่างจะดีขึ้นในที่สุด
  4. เขาขอบคุณตัวเองในวันนั้นที่ไม่ตัดสินใจจบชีวิตลง เพราะเขาในวันนี้ค้นพบความสุขมากมายที่ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
  5. เขาขอบคุณครอบครัวและคนรอบข้างที่คอยให้กำลังใจ เข้าใจ และอยู่เคียงข้างเสมอมา โดยเฉพาะภรรยาที่คอยดูแลและอยู่ข้างๆ มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน
  6. เขาขอบคุณตัวเองที่ผ่านมันมาได้ จนในที่สุดก็ได้มีชีวิตใหม่ เป็น ‘Matt Haig’ เวอร์ชันใหม่ และบอกลาตัวเขาในอดีตที่จากโลกนี้ไปแล้ว

มุมมองของ Matt เกี่ยวกับโรคที่เขากำลังเผชิญ

  1. เขาคิดว่าทุกคนรู้ข้อมูลของโรคเหล่านี้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  และมีรายงานว่าผู้ป่วยซึมเศร้าเพศชายจะทรมานมากกว่า เพราะแสดงความรู้สึกไม่เก่ง ถูกคาดหวังให้ต้องเข้มแข็งและเป็นผู้นำ ซึ่งเขาเชื่อว่าอาการของเขาหนักขึ้นเพราะเขาพยายามจะข่มมันไว้
  2. อาการวิตกกังวลเกิดขึ้นกับเขาครั้งแรกตอนอายุ 10 ปี คืนวันนั้นที่พ่อแม่ออกไปข้างนอก ทำให้เขารู้สึกกลัว กังวล และมีความคิดหลายอย่างเกิดขึ้นในหัว เช่น กังวลว่าพวกเขาจะประสบอุบัติเหตุหรือเปล่า?
  3. ตอนเรียนมหาวิทยาลัยอาการของเขาก็ไม่ได้ทุเลาลง เขาดื่มแอลกอฮอล์หวังจะบรรเทาอาการแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะตอนนั้นเขาคิดว่าเป็นการวิตกกังวลธรรมดา ไม่ได้คิดถึงโรคเหล่านี้เลย
  4. คนภายนอกอาจไม่เข้าใจว่าอาการมันเป็นอย่างไร ผู้ป่วยไม่ได้อยากจะอ่อนแอ ไม่ได้อยากจะร้องไห้หรือสิ้นหวัง แต่ที่แสดงออกไปมันคืออาการของโรค
  5. สำหรับเขาทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เหมือนโดนพายุลูกใหญ่โจมตี และไม่มีวี่แววว่าจะสงบลงเลย
  6. คนเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคแพนิคไม่ต้องการอะไรมาก นอกจากคนรอบข้างที่พร้อมเข้าใจ และอยู่ข้างๆ คอยมอบความรักเพียงเท่านี้ก็ยิ่งใหญ่มากแล้ว

Reasons to Stay Alive: เหตุผลมากมายที่เราควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

  1. เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ มีคนพร้อมเข้าใจและอยู่เคียงข้างเราเสมอ
  2. ไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปมากกว่านี้แล้ว พายุลูกใหญ่กำลังจะจบลง และทุกอย่างจะดีขึ้นในไม่ช้า
  3. ความรู้สึกที่ว่าทุกอย่างจะแย่ลง ไม่มีทางดีขึ้น ราวกับโลกกำลังจะแตกสลาย เป็นเพียงอาการของโรคที่กำลังปั่นหัวเราอยู่เท่านั้น
  4. ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ความเจ็บปวดก็เช่นกัน มันจะผ่านมาและผ่านไปในที่สุด
  5. อย่าเลือกจบชีวิตตัวเองแม้ว่าจะเห็นแต่ความมืดมิด รออีกสักนิด เราจะพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แน่นอน
  6. เมื่อผ่านมาได้ เราจะพบว่าชีวิตไม่ได้ใจร้ายกับเราขนาดนั้น ชีวิตที่มีความสุขและคุ้มค่ากำลังรอเราอยู่
  7. โลกไม่ได้กำลังจะแตกสลาย เพียงอาจจะต้องใช้เวลาในการเยียวยาและรักษาใจสักพัก
  8. มีอีกหลายอย่างที่เรายังไม่ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือดีๆ การฟังเพลงเพราะๆ กินอาหารอร่อยๆ หรือการได้ออกไปพบเจอโลกและผู้คนกลุ่มใหม่ๆ

 

เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
จะตามหา ‘ความสุข’ ได้อย่างไรในช่วงเวลายากลำบาก
ทำไมไม่เก่ง ไม่ภูมิใจในตัวเองเลยสักอย่าง… มาเรียนรู้วิธีปรับความคิดให้ใช้ชีวิตแบบ ‘ไม่เกลียดตัวเอง’ กันเถอะ

Advertisements

อ้างอิง:
– Matt Haig (2015), Reasons to Stay Alive

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่