ไม่แปลกที่จะ “แปลก” เมื่อความแปลกมีพลังกว่าที่คิด!

2055
แปลก

สรุปหนังสือ “Weird: The Power of Being an Outsider in an Insider World” โดย Olga Khazan

“ทำไมเราถึงไม่เหมือนคนอื่น แล้วแบบนี้ใครจะอยู่กับเราได้” นี่อาจเป็นคำถามที่เราได้แต่คิดอยู่ในใจ หลายๆ คนอาจเคยโดนปฏิเสธเพราะว่าเรา “แปลก” กว่าคนรอบตัว หลายต่อหลายครั้งเราพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับพวกเขาเหล่านั้นได้ และหลายต่อหลายครั้งเราก็รู้สึกท้อใจ ที่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไรก็ยังไม่เหมือนคนอื่นอยู่ดี

แต่จริงๆ แล้ว รู้หรือไม่ว่าคนอื่นก็รู้สึกแปลกเหมือนกับเรา การวิจัยพบว่า 54% ของชาวอเมริกันรู้สึกว่าไม่มีใครรู้จักตัวตนพวกเขาได้ดีสักคน

วันนี้ Mission To The Moon จึงอยากมาแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าจะช่วยให้เรารับมือกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ดี กับหนังสือที่มีชื่อว่า “Weird: The Power of Being an Outsider in an Insider World” โดย Olga Khazan ที่จะมาเปลี่ยน “ความแปลก” ของเราให้กลายเป็นพลัง และสอนให้เราเป็นตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ไปดูเรื่องราวโดยสรุปของหนังสือเล่มนี้กัน

ทำไมคนอื่นถึงมองว่าเราแปลก?

การวิจัยเผยว่า ถ้าเราถามคำถาม 100 ข้อกับเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน พวกเขาจะตอบ “เห็นด้วย” ถึง 86% ความเหมือนกันนี้เกิดจากการวิวัฒนาการในอดีต สมัยที่เราออกล่าอย่างเดียว เราเข้าสังคมเพื่อความอยู่รอดตามสัญชาตญาณ เราจึงไม่สนใจเรื่องความแตกต่าง 

แต่เมื่อเราเข้าสู่ยุคเพาะปลูก เราต้องเตรียมดินเพื่อปลูกพืชโดยคัดเลือกแล้วกำจัดสิ่งที่แตกต่างออกไป นั่นทำให้สมองเราจดจำว่า “ความแตกต่าง = อันตราย”  

การวิวัฒนาการนี้ส่งต่อมาถึงยุคปัจจุบัน ดังนั้นเวลาเราเห็นสิ่งที่แตกต่างไปจากกลุ่มเรา เราจะตีความทันทีว่า “นี่คือภัยคุกคาม!” และเมื่อเรารู้สึกถึงอันตราย เราจะเข้าสู่โหมดพร้อมสู้ คือจะเริ่มจ้องหรือเพิ่มระยะห่างระหว่างเรากับสิ่งนั้น และหัวใจจะเต้นแรงขึ้น

แปลกแค่ไหนก็ไม่ควรอยู่คนเดียวนะ!

ยังจำความรู้สึกแปลกแยกเพราะโดนเพื่อนแบนได้ไหม ตอนนั้นเราไม่ใช่แค่เศร้าอย่างเดียว แต่รู้สึกเสียใจถึงขนาดที่เรามานั่งคิดว่า “ชีวิตนี้จะมีความสุขได้อีกไหม” อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือแปลกแยกนี้ไม่ได้เกิดจากการทะเลาะกับเพื่อนเท่านั้น แค่เราโดนคนแปลกหน้าเมิน หัวเราะเยาะ หรือกีดกันก็ทำให้เราหัวเสียได้ การศึกษาพบว่าเมื่อต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ผลกระทบทางด้านอารมณ์จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 3 นาทีเลย

ความแปลกแยกไม่ได้ส่งผลเสียด้านอารมณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วยเพราะร่างกายเราต่อต้านความโดดเดี่ยวเหมือนที่ทำกับเชื้อโรค โดยร่างกายเราจะเกิดการอักเสบนำไปสู่การเกิดคราบพลัค (Plaque) ซึ่งอาจทำให้เราหัวใจวายได้ นอกจากนี้ยังทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งอีกด้วย

นักวิจัยพบว่า การขาดการติดต่อทางสังคมอันตรายเท่ากับสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวันเลยทีเดียว!

และสิ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ Minority Stress ซึ่งเป็นความกดดันที่กลุ่มคนชายขอบรู้สึกได้จากการถูกทำร้ายทางจิตใจโดยที่ผู้กระทำไม่รู้ตัวจากสังคม (Microaggression) เช่น เหยียดลักษณะภายนอก ใช้สรรพนามเรียกกลุ่ม LGBTQ+ ไม่ถูกต้อง การเหมารวม และอื่นๆ สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่เป็น Minority เครียดมากและได้รับผลกระทบมากจนถึงขั้นคลอดลูกก่อนกำหนด ซึ่งดูได้จากจำนวนหญิงผิวดำที่คลอดลูกก่อนกำหนดมีมากกว่าหญิงผิวขาว

ข้อดีของการเป็นคนแปลก

การมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสามารถทำให้คนจดจำเราได้ดีขึ้น เช่น มีไฝที่โดดเด่นหรือชอบใช้สองนิ้วเคาะโต๊ะเวลาอารมณ์ดี นอกจากสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คนจำเราได้ดีแล้ว ยังทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์กว่าคนอื่นด้วย เพราะเมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนคนรอบข้าง เราจะเริ่มหาวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างจากคนทั่วไป

Advertisements

จากแนวคิดที่ว่า “ความคิดสร้างสรรค์มาพร้อมกับผู้คนที่สามารถปรับตัวได้ดี” ดังนั้นการที่เราเคยชินกับความแปลกแยกจะทำให้เรารู้จักคุณค่าที่แท้จริงในตัวเราแม้อยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก และนั่นคือสิ่งที่บอกให้เราเชื่อมั่นในตัวเอง

3 วิธีที่ช่วยให้เราอยู่กับความแปลกได้

1. สร้างความมั่นใจในตัวเองด้วยการคิดบวก

เช่น เปลี่ยนจากคิดว่า “เราถูกแกล้งเพราะเราเนิร์ด” เป็น “เราถูกแกล้งเพราะความปังของเรามันบดบังคนที่มาแกล้ง”

2. สะกดจิตตัวเอง

เช่น เราอยากพูดในที่สาธารณะได้ดีขึ้นแต่เราไม่ชอบการพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เลย เราจะต้องบังคับตัวเองให้ไปหาโอกาสพูดและบอกตัวเองอยู่เสมอว่า “เราชอบพูดในที่สาธารณะ”

3. เลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

เช่น มีเพื่อนและครอบครัวที่คอยสนับสนุน จะช่วยให้เราสามารถทำอะไรหลายๆอย่างได้มากขึ้น นอกจากนี้การเลือกอยู่ในชุมชนที่เปิดกว้าง จะช่วยให้ความแปลกของเราได้เฉิดฉาย ซึ่งเป็นผลดีต่อยอดไปสู่การใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้แบบอิสระ

เมื่อเราให้ความแปลกของเรามีตัวตน เราก็สามารถเปลี่ยนความแปลกให้เป็นความคิดสร้างสรรค์ และใช้ความคิดนั้นสรรสร้างพลังในการทำสิ่งต่างๆ ได้

มาปรับมุมมองกันใหม่ ที่เราแปลก ไม่ใช่เพราะเราแตกต่าง แต่เราแค่เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์ต่างหาก! ดังนั้นจงภูมิใจในแบบที่ตัวเองเป็นนะ

 

อ้างอิง
“Weird: The Power of Being an Outsider in an Insider World” – Olga Khazan

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่