“ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ” คำปลอบใจที่เราได้ยินบ่อยๆ เมื่อโดนชีวิตสู้กลับเข้าอย่างจัง
แน่นอนว่าเรารู้อยู่แก่ใจว่าชีวิตมีทั้งสุขและทุกข์ แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆ ในวันที่เราสู้เต็มที่ แต่กลับไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลย สุดท้ายก็ต้องติดแหง็กอยู่กับความรู้สึกไม่ดี เหนื่อย จนบางครั้งก็สูญเสียการควบคุม และความสุขก็ลดน้อยลงไปทุกที
หากใครเป็นแบบนี้อยู่อาจถึงเวลาที่ต้องย้อนกลับมาดูว่า เราใช้ชีวิตยากเกินไปไหม เราเคยทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างหรือเปล่า และเรามองข้ามความสุขเล็กๆ ใกล้ตัวไปหรือไม่
Mission To The Moon จึงอยากชวนทุกคนมาตามหาชิ้นส่วนของความสุขที่หายไป เพื่อนำมาต่อให้สมบูรณ์อีกครั้ง ด้วย 7 กิจวัตรง่ายๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดีกัน
7 กิจวัตรง่ายๆ ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น!
1. เขียน To-Do List
ทุกวันนี้เรามีเรื่องให้คิดและทำเยอะไปหมด หากเราใช้ความจำอย่างเดียว อาจทำให้เผลอลืมรายละเอียดเล็กๆ ไปได้ รวมถึงจัดลำดับความสำคัญได้ยาก การเขียน To-Do List จะทำให้เราเก็บรายละเอียดได้ครบ และจัดลำดับความสำคัญได้ดี
เมื่อพร้อมแล้วก็เตรียมหยิบปากกาและกระดาษ นึกถึงเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วเขียนลงไปเป็นข้อๆ กำหนดรายละเอียดและระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือทำได้เลย!
2. เข้านอนตรงเวลา
เชื่อไหมว่าการนอนก็ช่วยเปลี่ยนชีวิตได้ ลองสังเกตตัวเองกันว่าช่วงไหนที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอ ตอนตื่นก็จะเพลียไปทั้งวัน ส่วนช่วงไหนที่เข้านอนตรงเวลาและพักผ่อนเต็มที่ ตื่นมาก็จะสดชื่น มีสมาธิ และระเบิดไอเดียได้เต็มที่
หากการนอนดึกเกินไปทำให้เรานอนไม่พอ อาจลองค่อยๆ ปรับเวลาทีละนิด เช่น จากเดิมเข้านอนตี 2 ก็ค่อยๆ ปรับเป็น ตี 1 เที่ยงคืน และห้าทุ่มตามลำดับ เมื่อเราเริ่มชินก็อาจรู้สึกง่วงตั้งแต่ 3-4 ทุ่มเลยก็ได้
3.จัดโต๊ะทำงานให้น่านั่ง
สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติ ย่อมทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ส่วนสภาพแวดล้อมที่มีแต่เสียงแตรและกลิ่นควันจากท่อไอเสีย ย่อมทำให้เรารู้สึกไม่ดี เครียดและอึดอัด นั่นเป็นเพราะสภาพแวดล้อมส่งผลต่ออารมณ์และความคิดของเรา
สภาพแวดล้อมในที่ทำงานก็เช่นกัน หากโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยกองเอกสาร เศษขยะ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่วางเกลื่อนไม่เป็นระเบียบ คงส่งผลต่อการทำงานไม่น้อย จะดีกว่าไหมถ้าจัดโต๊ะให้น่านั่งและทำความสะอาดบ่อยๆ ไม่เพียงแค่จะได้บรรยากาศดีๆ แต่ยังช่วยคลายความเครียด และหยิบจับอะไรก็สะดวกขึ้น
4. ออกกำลังกาย
ทุกคนคงรู้ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายกันดีอยู่แล้วว่า มันไม่ได้ส่งผลดีแค่ช่วงสั้นๆ แต่มันคือการซื้อคุณภาพชีวิตให้ตัวเองเมื่ออายุมากขึ้น แต่เมื่อพูดถึงการออกกำลังกายทีไร หลายคนก็อยากเบือนหน้าหนี เพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้วหรืออยากทำแต่ทำไม่ได้สักที
แล้วทำอย่างไรถึงจะออกกำลังกายเป็นนิสัย? ก่อนอื่นเราต้องมีเป้าหมายก่อนว่าทำไปเพื่ออะไร โดยควรเริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ ที่ไม่เกินตัวเกินไป เลือกวิธีที่เหมาะสม หาเพื่อนออกกำลังกาย และเมื่อพร้อมแล้วก็ควร “เริ่มทันที”
5. ทานอาหารที่มีประโยชน์
เมื่อต้องรับมือกับความเครียดมากๆ หลายคนหาทางออกด้วยการ “กินแก้เครียด” ตามใจปาก กินทั้งของหวาน ของมัน และของทอด ที่อาจให้ความสุขในระยะเวลาสั้นๆ แต่ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การให้รางวัลกับตัวเองด้วยการกินของอร่อยๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิดมหันต์ แต่ทำบ่อยเกินไปอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคตได้ และถ้าจะเลี่ยงแบบหักดิบไปเลยก็ยากไป เราอาจเริ่มต้นลดของไม่มีประโยชน์และเพิ่มผักผลไม้ทีละมื้อ แล้วค่อยๆ ปรับเมนูอาหารไปเรื่อยๆ
6. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
หลายคนมีความเชื่อว่า “ยิ่งดื่มน้ำเยอะเท่าไร ยิ่งดี” ต้องบอกว่า “ไม่จริงเสมอไป” เพราะการดื่มน้ำมากไปทำให้ไตทำงานหนัก และส่งผลต่อระบบอื่นๆ ของร่างกายอีกด้วย ดังนั้น ดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายจะดีที่สุด โดยทั่วไปแล้ว จะอยู่ที่ 8 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 2-3 ลิตร ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวอีกที
7. ทำ Habit Tracker
หลังจากที่เราลิสต์สิ่งที่อยากเปลี่ยนแปลงแล้ว เพื่อให้เราได้รู้ถึงความสม่ำเสมอของตัวเอง เราต้อง “ติดตามนิสัยตัวเอง” หรือทำสิ่งที่เรียกว่า “Habit Tracker”
จากการวิจัยพบว่าคนที่ติดตามความคืบหน้าของเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีแนวโน้มทำได้ดีมากกว่าคนที่ไม่ติดตาม และผลสำรวจจาก 1,600 คน พบว่าคนที่จดบันทึกสิ่งที่ทานไปในแต่ละวันจะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ทำถึง 2 เท่า
เราจะพบว่า Habit Tracker ทำให้เราเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลง ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และมีความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
โดยเราสามารถทำได้ทั้งในแอปฯ หรือจะเขียนด้วยมือก็ได้ สำหรับคนที่อยากเขียนด้วยมือ เพียงแค่เตรียมปากกาหลายๆ สี และสมุดหนึ่งเล่ม สร้างสรรค์ตารางการติดตามได้ตามความชอบ เมื่อพร้อมแล้วก็นึกถึงสิ่งที่อยากทำและเขียนลงไปได้เลย ถ้าวันไหนทำเรียบร้อยก็ระบายสีลงในตาราง ส่วนวันที่ไม่ได้ทำก็เว้นว่างไว้ จนครบเดือนหรือตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ ก็มาดูภาพรวมกันว่าการเปลี่ยนแปลงคืบหน้ามากน้อยแค่ไหน
จากทั้ง 7 ข้อที่กล่าวมา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต่างรู้กันอยู่แล้ว แต่เชื่อไหมว่าสิ่งเล็กๆ เหล่านี้ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในขั้นต่อๆ ไป หากใครอยากเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น และหันมาทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้กันดู
อย่ามัวแต่รอและผลัดไปเรื่อยๆ เพราะทุกวันคือโอกาสในการเริ่มต้นใหม่และเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น!
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
– ความสำคัญของกิจวัตร: https://bit.ly/3NIrQNa
– ไปนอนได้แล้ว! เพราะชีวิตที่ดี เริ่มต้นจากการนอนที่ดี: https://bit.ly/3yNbD57
แปลและเรียบเรียงจาก : https://bit.ly/3RiuFHC
อ้างอิง :
– https://bit.ly/3PjU9m9
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration