ความสุขหายไปหรือเปล่า? 11 วิธีเพิ่มความสุขได้ด้วยตัวเอง

3143
วิธีเพิ่มความสุข

“ความสุข” อาจฟังดูเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็มีได้ แต่สถานการณ์โลกในปัจจุบันกลับบีบคั้นให้เราและคนรอบข้างห่างหายไปจากความสุข แต่ความสุขก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในชีวิตคนเราทุกคน เพราะเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับสุขภาพของเราโดยตรง คนที่นิยามตัวเองว่ามีความสุข ก็มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพน้อยกว่า เสี่ยงเป็นซึมเศร้าต่ำกว่า และยังมีอายุยืนยาวกว่าอีกด้วย

และต่อให้เราเป็นคนที่อะไรก็ได้ สบายๆ ที่สุดในโลก การทำตัวให้มีความสุขตลอดเวลายังคงเป็นสิ่งท้าทาย เพราะความสุขก็เหมือนการมีสุขภาพที่ดี คือ ต้องมีขั้นตอนต่างๆ ถึงจะเกิดความสุขได้ แล้วถ้าเราไม่ใช่คนที่เฮฮา จะสามารถมีความสุขเองได้ไหม?

ผลการวิจัยเผยว่า ผู้คนส่วนมากสามารถเพิ่มความสุขให้ตัวเองได้ เพราะโดยเฉลี่ย 50% ของระดับความสุขของเรามาจากยีนเป็นตัวควบคุม อีก 40% อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา และที่เหลืออีก 10% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ “สิ่งนี้ทำให้เรารู้ว่า เรามีพลังที่สามารถควบคุมให้เรามีความสุขได้” – Dr. Robert Waldinger ผู้ก่อตั้งการวิจัยของ Harvard ที่ยาวนานที่สุดเกี่ยวกับความสุขในพัฒนาการวัยผู้ใหญ่

Advertisements

นอกจากนี้รายงานต่างๆ ของนักวิจัยในเดือนมิถุนายนปี 2019 วารสาร Psychological Bulletin ได้รวบรวมเนื้อหาจากการวิจัย 138 ชิ้น ที่ศึกษาผู้คนมากกว่า 11,000 คนทั่วโลกว่า การแสดงออกบนใบหน้าสามารถส่งผลต่ออารมณ์ได้อย่างไร พวกเขาพบว่า “รอยยิ้ม” ทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น ในขณะที่การทำ “หน้าบึ้งตึง” ทำให้เราโกรธมากขึ้น และการ “ขมวดคิ้ว” ทำให้เราเศร้ามากขึ้น แม้ผลที่ได้จากรอยยิ้มอาจจะดูเล็กน้อย แต่รอยยิ้มสามารถดึงดูดความสุขเข้าหาเราได้มากกว่าสีหน้าแบบอื่นๆ

แล้วเราจะเพิ่มความสุขให้ตัวเองได้อย่างไร?

วันนี้เราอยากให้ลองถามตัวเองง่ายๆ ว่า “วันนี้เรามีความสุขไหม?” ไม่ว่าคำตอบจะเป็น “ใช่” หรือ “ไม่” ก็ตาม เรายังคงต้องเพิ่มความสุขให้ตัวเองอยู่ดี เพราะความสุขมีแล้วก็มีเพิ่มอีกได้! และ 11 วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถตามหาความสุขผ่านสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป

1. หมั่นติดต่อคนอื่นอยู่เสมอ

การวิจัยของ Harvard จาก Dr. Waldinger พบว่า ความสุขของเราเชื่อมต่อกับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับครอบครัวและเพื่อนอย่างเหนียวแน่น “เพราะสายสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นตัวกระตุ้นความสุขให้เราแบบอัตโนมัติ ในขณะที่การแยกห่างคือตัวทำลายความสุขของเรา” Dr. Waldinger ได้กล่าวไว้ ดังนั้นอย่าลืมโทรหาหรือพูดคุยกับครอบครัวไม่ก็เพื่อนวันละครั้งเพื่อเพิ่มอารมณ์เราให้มีความสุข 

2. ช่วยเหลือผู้อื่นให้มากขึ้น

การอาสาไปทำสิ่งต่างๆ ให้ความรู้สึกของการทำหน้าที่และช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น การวิจัยแบบเปิดของ BMJ (2016) พบว่า อาสาสมัครที่เป็นผู้ที่อายุมากกว่า 70 ปีสามารถเพิ่มความสุขผ่านการทำงานจิตอาสาได้เป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาว่าง อย่าลืมชวนผู้สูงอายุแถวบ้านไปร่วมกันทำจิตอาสา นอกจากสุขภาพจะดีแล้ว ความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก

3. ฝึกเป็นคนใจดี

เราควรลองทำตัวใจดีต่อผู้อื่น โดยไม่เกี่ยงว่าเขาจะเป็นใครสักหนึ่งวัน “เราอาจต้องไตร่ตรองและวางแผนล่วงหน้าก่อนจะทำ แต่การวางแผนและความตั้งใจของเราที่จะทำสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่นนี้สามารถทำให้เรามีสุขภาพที่ดีได้” – Tyler J. VanderWeele ผู้อำนวยการโครงการ Human Flourishing Program จาก Harvard’s T.H. Chan School of Public Health แนะนำไว้ วิธีนี้นอกจากเราจะมีความสุขแล้ว ยังเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนรอบข้างอีกด้วย

4. กลับไปหาความสุขในวัยเด็ก

เมื่อเราโตขึ้น เราอาจไม่มีโอกาสได้กลับไปทำกิจกรรมตอนเด็กที่มีความสุขอีกแล้ว ดังนั้น ลองหาอะไรที่ทำให้เรามีความสุขตอนเป็นเด็กกว่านี้ อย่างงานอดิเรก เกม กีฬา หรืออะไรก็ได้ที่คุณชอบจากวัยเด็กก็หยิบมาทำได้เลย 

5. ใช้เงินซื้อเวลาให้ตัวเอง

ในปี 2017 การศึกษาจาก Proceedings of the National Academy of Sciences แนะนำว่า คนที่ใช้เงินซื้อสิ่งที่ช่วยลดเวลาเรา (หรือที่เรามักพูดกันขำๆ ว่า “ใช้เงินแก้ปัญหา”) เช่น จ้างคนมาทำความสะอาดบ้านแทนที่จะซื้อสิ่งของนามธรรม ไม่ว่ารายได้ของพวกเขาจะมากหรือน้อยก็ตาม คนเหล่านี้จะมีความพึงพอใจในชีวิต (Life Satisfaction) ที่ดีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ใช่คนที่ทำงานบ้านไป มีความสุขไป ยกหน้าที่นี้ให้คนที่เราจ้าง แล้วเอาเวลาที่เหลือมาทำสิ่งที่เรามีความสุขดีกว่า

6. ลงทุนซื้อประสบการณ์

เงินอาจจะซื้อความสุขไม่ได้ แต่เงินซื้อประสบการณ์ที่ทำให้เรามีความสุขได้นะ แต่เราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นซื้อตั๋วเดินทางรอบโลก เพราะมันอาจเป็นประสบการณ์เล็กๆ เช่น จองมื้อค่ำที่ร้านอาหาร นั่งดูการแสดงที่น่าสนใจ หรืออาจไปนิทรรศการศิลปะสักที่ 

การลงทุนกับสิ่งเล็กๆ เหล่านี้มีผลในระยะยาวได้เช่นกัน อ้างอิงจากการวิจัยต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อสิ่งของที่มักให้ความสุขระยะสั้น คนที่ใช้เงินไปกับประสบการณ์ต่างๆ จะมีระดับความพึงพอใจที่ยาวนานกว่า เพราะพวกเขา “สร้างความสุขจากความทรงจำ” นั่นเอง

7. ออกไปสังสรรค์กับคนที่มีความสุข

ความสุขสามารถส่งต่อไปยังคนรอบข้างเราได้ การศึกษาหนึ่งพบว่า ความสุขสามารถแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียได้ ความสุขของเราสามารถกระตุ้นให้คนรอบข้างเรามีความสุขมากขึ้น และในขณะเดียวกันความสุขของคนรอบข้างก็สามารถส่งต่อไปอีกได้เป็นทอดๆ นักวิจัยยังพบอีกว่า ความเศร้าไม่สามารถแพร่กระจายได้เท่าความสุข ดังนั้นมาส่งต่อไวรัสแห่งความสุขด้วยการไปฉลองกับคนที่มีความสุขกันเถอะ!

Advertisements

8. มองสีเขียวให้มากขึ้น

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2021 การศึกษาหนึ่งโดย EPJ Data Science บนโลกออนไลน์พบความสัมพันธ์ระหว่างการมองพื้นที่สีเขียวในแถบชานเมืองกับอารมณ์ของประชากรใน 90 เมืองทั่วโลก พวกเขาพบว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร ความสุขของผู้คนยังคงสัมพันธ์กับจำนวนพื้นที่สีเขียวรอบๆ ตัวพวกเขา เช่น สวนสาธารณะ สวนหย่อม หรือพื้นที่ริมแม่น้ำ 

ดังนั้นการที่เรามีพื้นที่สีเขียวในบ้านสามารถเพิ่มความสุขให้เราเอง และการวิจัยอื่นๆ ยังแสดงให้เห็นว่า สวนที่บ้านเพิ่มความเป็นอยู่ให้เราได้ดีมากเท่าการปั่นจักรยานหรือเดินเลยทีเดียว

9. เลิกใช้ชีวิตแบบเดิมๆ

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ อาจนำมาสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ เมื่อเราทำกิจวัตรประจำวันให้หลากหลาย เราจะสามารถมีความสุขได้มากขึ้น อ้างอิงจากการศึกษาออนไลน์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2020 โดย Nature Neuroscience พบว่า การเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเดิมๆ เช่น ลองออกกำลังกายท่าใหม่ๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ ฟังพอดแคสต์สลับกับฟังเพลงวันเว้นวัน หรือใช้เส้นทางใหม่ๆ ไปร้านค้าหรือร้านขายยานั้นสามารถเพิ่มสีสันให้ชีวิตเราได้

10. นับสิ่งดีๆ ในชีวิต

ลองหาเวลาจดสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขดู อาจจะเป็นบางสิ่งที่ถูกมองข้ามมาตลอด เช่น ขอบคุณหลังคาบ้านที่คอยบังแดดฝน และครอบครัวที่คอยสนับสนุนเรามา หรือเขียนบางสิ่งที่เรียบง่าย เช่น คำชมที่ฟังแล้วใจฟู หนังสือที่เราชอบ วันนี้อากาศดีจัง หรือมื้ออร่อยๆ ที่เราทานไปเมื่อวาน

11. ตัดสินใจให้น้อยลง

การศึกษาพบว่า ผู้คนที่มีหลายตัวเลือกให้ต้องตัดสินใจ โอกาสที่พวกเขาจะรู้สึกเสียใจและกังวลก็มากขึ้นตาม วิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดภาระเวลาจะต้องตัดสินใจและปกป้องความสุขของเราไว้ก็คือ ถ้าการตัดสินใจนั้นไม่ส่งผลยิ่งใหญ่ตามมา ก็ลองให้ตัวเองมีเวลาในการเลือกหรือตัวเลือกน้อยลงดู

อย่าให้ตัวเราต้องมาตัดสินใจใหม่ซ้ำกับสิ่งที่เราเคยเลือก เก็บเวลาใคร่ครวญไว้ให้ปัญหาที่สำคัญกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เวลาจะตัดสินใจสิ่งที่สำคัญ พยายามอย่าหันกลับไปตัดสินใจซ้ำเด็ดขาด

ถึงแม้บางข้อใน 11 สิ่งจะดูทำได้ยากหรือไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ ลองเลือกสักข้อที่สามารถทำได้เลยและไม่ฝืนตัวเรามากไปเช่น จด “สิ่งดีๆ ที่เราเจอในวันนี้” สั้นๆ ใส่ในสมุดหรือบันทึกไว้ในมือถือของเรา เวลาที่เราเหนื่อยหรือท้อใจ พอเปิดมาเจอสิ่งเหล่านี้ ก็ช่วยกระตุ้นให้มุมปากเรายิ้มได้เล็กน้อยแล้วความสุขในวันนี้ก็จะเพิ่มตามโดยอัตโนมัติ

เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
– ความสุขอยู่ที่ไหน: https://bit.ly/3kUoTh2
– ตามหา ‘ความสุข’ ในช่วงเวลายากลำบาก: https://bit.ly/3oNNViW

แปลและเรียบเรียง
https://bit.ly/3FBgDu1

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่