ที่ว่าง

404
ร้าน เช็คสเปียร์ & คอมปะนี | รูปภาพจาก Number 24 x Shutterstock.com
มีเวลาไม่เยอะอยากอ่านสั้นๆ
  • ธุรกิจที่มองเห็นที่ว่างที่คนอื่นไม่ทำ ช่วยแปรเปลี่ยนเป็นที่แออัดที่เต็มไปด้วยลูกค้าได้
  • เช็คสเปียร์ & คอมปะนี เป็นร้านหนังสือสแตนอโลนที่มีคนต่อคิวอย่างแน่นหนาแม้จะอยู่ในยุคที่ร้านหนังสือที่ไม่ใช่ดิจิทัลกำลังย่ำแย่ สาเหตุก็คือหนังสือถูกคัดมาอย่างดี และมีประวัติว่าเคยมีนักเขียนเจ๋งๆมาที่ร้านมากมายอีกด้วย
  • เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป ร้านนี้เล็กและแคบ แต่กลับรวมหนังสือเก่า หนังสือหายาก หนังสือธรรมดา หรือหนังสือราคาแพงไว้จำนวนมาก นอกจากนี้คนดูแลร้านยังพร้อมจะให้ข้อมูลกับคนอ่านอีกด้วย
  • เอ็กซ์ดี ดีไซน์ แบรนด์กระเป๋าที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาตรงจุดผู้ใช้งาน คือเป็นเป้แบบกันขโมย และมีฟีเจอร์อื่นๆ เช่น ที่เสียบชาร์จสายโทรศัพท์ และการออกแบบที่ไม่กดทับกระดูกสันหลัง

วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะอยู่ปารีสก่อนเดินทางกลับประเทศไทย จริงๆทริปนี้ต้องบอกว่าแทบไม่ได้ไปไหนเลย เพราะตอนอยู่ web summit ฟังเสร็จก็หมดแรงกลับมานอน ตอนมาปารีสงานที่ออฟฟิศก็เข้าสุดๆ เลยได้แต่เดินๆแถวที่พัก

วันนี้เจอเรื่องสามเรื่องอยากมาเล่าให้ฟังครับ สองเรื่องแรกเป็นร้านหนังสือ ส่วนเรื่องที่สามเป็นเรื่องเป้ แต่ทั้งสามเรื่องมีจุดร่วมที่น่าสนใจครับ

Shakespeare and company People stand in line.
คนยืนต่อแถวที่ ร้าน เช็คสเปียร์ & คอมปะนี | รูปภาพจาก shutterstock.com

เช็คสเปียร์ & คอมปะนี

ร้านแรกชื่อ เช็คสเปียร์ & คอมปะนี (Shakespeare and company) เป็นร้านหนังสือแบบสแตนด์อโลนที่ดังมากในหมู่คนรักการอ่าน เรียกว่าถ้าคุณรักหนังสือแล้วได้แวะมาปารีสเชื่อว่าคุณต้องเคยมาเยือนร้านนี้แน่นอน 

Advertisements

สิ่งที่สะดุดตาผมมากในวันนี้ก็คือ แม้ว่าฝนจะตกแต่หน้าร้านเช็คสเปียร์ & คอมปะนีมีผู้คนต่อคิวอย่างในภาพที่เห็นนี่แหละครับ และระบบเหมือนร้านขายแบรนด์เนมคือมีคนออกมาเท่าไรก็จะมีคนเข้าไปได้เท่านั้น

คำถามที่น่าสนใจคือว่า ในขณะที่ร้านหนังสือที่ไม่ใช่ดิจิทัลกำลังย่ำแย่ ทำไมร้านนี้ถึงมีคนมาต่อคิวยาวพอๆกับร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมในปารีส

แน่นอนว่าหนังสือที่เลือกมานั้นถูกคัดมาอย่างดี และจำนวนหนึ่งเป็นหนังสือที่หาซื้อที่อื่นได้ยาก อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะรูปแบบของร้านที่ดูเหมือน อาร์ท แกลเลอรี่ ขนาดย่อมๆ ชั้นสองมีเปียโน ที่เราจะได้ยินเสียงคนสลับกันไปเล่นเสมอ

อีกส่วนคงมาจากสาเหตุที่ร้านนี้มีประวัติที่ยาวนานตั้งแต่เปิดในปี 1951 จึงมีนักเขียนมากมายมาใช้ชีวิตอยู่ในร้าน มาเขียนมานอนอยู่ท่ามกลางหนังสือ มีการเอาฟูกนอนกันจริงจังเพราะเชื่อกันว่าการมีหนังสืออ่านเยอะๆ และการอยู่ในร้านหนังสือจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเจ๋งๆออกมา มีการประมาณการกันว่ามีนักเขียนมาที่ร้านเล็กๆแห่งนี้กว่า 30,000 คนตั้งแต่เปิดร้าน ซึ่งในจำนวนนั้นมีนักเขียนที่เป็นนักเขียนคนสำคัญแห่งยุคอย่าง อลัน ซิลิโดว์, โรเบิร์ต สโตน, เคท เกรนวิลล์, เซบาสเตียน แบร์รี, อีธาน ฮอว์ก, จีต ธายิล, ดาร์เรน อโรนอฟสกี, เจฟฟรีย์ รัช และ เดวิด ราคอฟฟ์ รวมอยู่ด้วย

The Abbey Bookshop
ร้าน เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป | รูปภาพจาก facebook.com/abbeybookshop/

เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป

ร้านที่สองที่อยู่ไม่ไกลกันมากชื่อ เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป (The Abbey Bookshop) ร้านนี้เล็กกว่าร้านแรกเยอะ และบอกก่อนเลยครับว่าไม่เหมาะสำหรับคนกลัวที่แคบ เพราะร้านแคบมากๆ และมีกองหนังสือวางซ้อนกันสูงมาก มันน่ากลัวมากครับ ผมต้องเอาเป้ออกจากหลังแล้วถือเพราะกลัวว่าหมุนตัวแล้วจะทำกองหนังสือเขาล้มแล้วจะเกิดการโดมิโนเอาได้

แต่ต้องบอกว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนชอบหาขุมทรัพย์จริงๆครับ

เพราะที่นี่มีหนังสือตั้งแต่กลางเก่ากลางใหม่ หนังสือเก่า หนังสือหายาก หนังสือธรรมดา หนังสือโคตรแพง หนังสือช้างเผือก ฯลฯ เรียกว่าถ้าคุณมีเวลา สามารถอยู่ในร้านที่เล็กมากๆนี้ได้ครึ่งวันก็ได้ ปัญหาอย่างเดียวคือร้านเล็กมากและคนเยอะมาก ผมออกมาพร้อมกับหนังสือหลายเล่มที่อยากได้มานานเช่น A Tale of Two Cities (เรื่องของสองนคร) เวอร์ชันนี้กำลังตามหาอยู่เลย มาเจอพอดี ถือว่าโชคดีมากๆครับ

เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป เป็นร้านที่มีเสน่ห์แบบสุดๆ คนดูแลร้านพร้อมจะให้ข้อมูลหนังสือกับคุณทุกอย่าง ผมเชื่อว่าถ้าคุณมาแล้วคุณจะได้หนังสือกลับไปเยอะกว่าที่คุณตั้งใจเยอะมากครับ และคุณจะใช้เงินเยอะกว่าที่คุณตั้งใจเยอะมากแน่นอน

ร้านเล็กๆแห่งนี้เปิดมา 28 ปีแล้ว และเชื่อว่ายังอยู่ต่อไปได้สบาย

Advertisements

(ผมไม่ได้ถ่ายภาพ Abby’s book shop มา เลยขอยืมภาพจาก parischeapskate.com มานะครับ)

xd design
กระเป๋าเป้ เอ็กซ์ดี ดีไซน์ | รูปภาพจาก xd-design.com

เอ็กซ์ดี ดีไซน์

เรื่องสุดท้ายที่อยากเขียนไม่เกี่ยวกับหนังสือแต่เป็นกระเป๋าเป้ เอ็กซ์ดี ดีไซน์ (XD Design ใบในภาพนี้แหละคร้บ เจ้าเป้นี้ฮิตพอควรตอนไป web summit เห็นคนถือกันเพียบ ผมเลยไปถามเขาว่ามันดียังไง ปรากฏว่ามันเป็นเป้กันขโมยครับ

พอฟังหลักการแล้วผมว่ามันเรียบง่ายมาก แต่มันตอบโจทย์ครับ ตัวซิปนั้นถูกซ้อนอยู่ข้างในทำให้โจรเอื้อมมาเปิดยากมาก เพราะปีกที่ปิดอยู่มันยาวมาก และตัวเป้ทำตัววัสดุที่มีชั้นป้องกันการกรีด (cut proof PR protection board)

ซึ่งต้องบอกว่าผมฟังแล้ว “ซื้อ” ทันทีครับ เพราะว่าเวลาเดินทางไปต่างประเทศ ผมไม่เคยกล้าถือเป้เลยเพราะกลัวโดนล้วงโดนกรีด ทั้งๆที่เป้เป็นกระเป๋าที่ดีที่สุด ใส่ของได้เยอะ ถือแล้วสบายไม่หนัก คล่องตัวที่สุด แต่เพราะกลัวของหายเลยไม่ใช้ และเป็นที่รู้กันว่าโจรยุโรปนี่โคตรโหด โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟ โดนกันมาเยอะละครับ

ถ้าใครแก้ปัญหานี้ได้ถือว่าช่วยคนได้เยอะมากครับ

เป้นี้ยังมีของฟีเจอร์อื่นๆอีก เช่น ที่เสียบชาร์จโทรศัพท์ หรือการออกแบบที่ทำให้น้ำหนักไม่กดทับกระดูกสันหลัง

ราคาก็ไม่แพงครับถือว่าใช้ได้ แต่ใครจะซื้อระวังของปลอมหน่อยนะครับ ตอนนี้มีเยอะมาก เกรงว่าของปลอมโจรจะกรีดกระเป๋าเข้านะครับ 


เอาเป็นว่าเล่ามาซะยาว อยากจะบอกว่าทั้งสามธุรกิจที่ผมพูดถึงนั้นมองเห็น “ที่ว่าง” ของสิ่งที่คนอื่นไม่ทำครับ ร้านหนังสือ เช็คสเปียร์ & คอมปะนี และ เดอะ แอบบีย์ บุ๊คช็อป อยู่ในธุรกิจที่คนอื่นเขาจะตายกันหมดแล้ว แต่นี่มีคนมาเข้าคิวรอเข้าร้าน

ส่วนเป้ เอ็กซ์ดี ดีไซน์ นั้นตอบโจทย์คนที่ต้องเดินทางทั้งใกล้ไกลที่เป็นห่วงทรัพย์สินของตัวเองเป็นอย่างมาก บนโลกใบนี้มีคนทำเป้มากมาย แต่คนที่แก้ปัญหาเรื่องที่ลูกค้าอยากได้แบบนี้มีไม่มาก 

ถ้าคุณมองเห็น “ที่ว่าง” มันจะกลายเป็น “ที่แออัด” ที่แน่นขนัดไปด้วยลูกค้าของคุณครับ

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่