รู้จัก “ร่างทรง” จากหลากวัฒนธรรมทั่วโลก

2147
ร่างทรง

ต้อนรับการมาของภาพยนตร์ไทยที่หลายคนตั้งตารออย่าง “ร่างทรง” (The Medium) ที่ไปสร้างประสบการณ์ขวัญผวากันไปทั่วเอเชียแล้ว และในที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้กลับมาฉายสู่ถิ่นกำเนิดของมันเสียที

วันนี้เราเลยจะโหมโรงสักเล็กน้อย ด้วยการพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเหล่า “คนทรง” จากแต่ละวัฒนธรรมทั่วโลก เพราะจากการสัมภาษณ์คุณโต้ง บรรจง ถึงเบื้องหลังภาพยนตร์ ร่างทรง เราได้เห็นว่าความจริงแล้วการเข้าทรง คือวัฒนธรรมที่ปรากฏอยู่ทั่วโลก และมีความคล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จักวัฒนธรรมร่างทรงจากทั่วโลก โดย “Shamanism” หรือ “Shaman” คือคำที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีความเชื่อเรื่องวิญญาณ หยิบยืมพลังมาใช้รักษา ควบคุมลมฟ้าอากาศ หรือแม้กระทั่งเป็นผู้นำด้านศาสนา และกลุ่มคนเหล่านี้ก็จะถูกแบ่งออกเป็นหลักๆ 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
คนทรง (Medium) ผู้ร่ายคาถา (Sorcerer) ผู้เผยพระวจนะ (Prophet) ผู้หยั่งรู้ (Seer)

Advertisements

ซึ่งเราจะมาพูดถึงเฉพาะ “คนทรง” (Medium) เพราะความหมายของคำว่า คนทรง ก็คือเป็นผู้ที่ใช้ร่างตัวเองเป็นสื่อกลางระหว่างภพ แบ่งเป็น “คนทรงวิญญาณ” และ “คนทรงเจ้า” ซึ่งจะเห็นได้บ่อยๆ ในประเทศไทยบ้านเรา

ร่างทรง

คนทรง – เกาหลีใต้

ลักษณะความเชื่อของ “คนทรง” ในวัฒนธรรมเกาหลีใต้นั้นใกล้กับบ้านเราเป็นอย่างมาก เพื่อใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลางในการติดต่อระหว่างเทพเจ้าและมนุษย์บนโลก โดยจะใช้วิธีออกมาร่ายรำหรือระบำเข้าจังหวะเพลง 

โดยมีมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนที่ผู้ปกครองบ้านเมืองจะใช้คนทรง ในการทำพิธีเพื่อติดต่อกับเทพเจ้า เพื่อขอคำแนะนำ รักษาโรค ทำนายอนาคต หรือทำพิธีปลุกเสกหรือสาปแช่งศัตรูตามความเชื่อ เราจะเห็นได้ชัดจากบทบาท อิทธิพล และอำนาจ ของผู้ทำหน้าที่เป็นคนทรงในสมัยก่อน ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพชัดที่สุด เราจะขอแนะนำให้คุณไปดูเรื่องซีรีส์เรื่อง The Moon that Embraces the Sun

จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมคนทรง ของเกาหลีใต้และไทยเองนั้นมีจุดร่วมและวัตถุประสงค์ที่คล้ายกันมาก จึงไม่แปลกเลยที่ภาพยนตร์เรื่อง “ร่างทรง” (The Medium) จะเข้าถึงคนเกาหลีใต้เป็นอย่างดีจนออกตัวร้อนแรงที่สุดในช่วงที่ผ่านมา

ร่างทรง

มิโกะ – ญี่ปุ่น

หญิงสาวร่างทรงแห่งองค์เทพ “มิโกะ” ใครที่เคยไปญี่ปุ่นอาจจะคุ้นเคยกับภาพของหญิงสาวที่มาพร้อมกับเครื่องแต่งกายสีขาวแดง คอยทำหน้าที่จัดจำหน่ายเครื่องรางและต้อนรับผู้คนที่มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาลเจ้า 

ซึ่งในอดีตพวกเธอคือผู้ทำพิธีกรรมบวงสรวงเทพเจ้า เช่น การสวดมนตร์ และเต้นระบำ หรือแม้แต่เป็น “ร่างทรง” ของเทพเจ้าตามความเชื่อเพื่อรับคำพยากรณ์ และไปเผยแพร่สู่คนอื่นๆ 

ซึ่งปัจจุบัน มิโกะ ได้ลดบทบาทและหน้าที่ของตัวเองตามความเชื่อของญี่ปุ่นสมัยใหม่ และเปลี่ยนหน้าที่มาเป็นผู้ช่วยนักบวชในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ

Advertisements
ร่างทรง

ดรูอิด – ชาวเคลต์ ยุโรปตอนเหนือ

ย้ายมาทางฝั่งตะวันตกกันบ้างกับ ดรูอิด (Druid) ผู้วิเศษแห่งพงไพร ผู้ใช้พลังวิญญาณในการสื่อสารกับธรรมชาติและสัตว์ ดรูอิดเป็นที่รู้จักกันดีในทางตอนเหนือของทวีปยุโรป (ชาวเคลต์) ซึ่งรวมอยู่ในความเชื่อเรื่องของตำนานเทพนอร์ส 

ภาพลักษณ์ที่เรามักจะคุ้นเคยกันส่วนใหญ่ ดรูอิด มักจะมาในแนวของผู้วิเศษที่ใช้พลังแห่งพงไพร ทำหน้าที่สื่อวิญญาณกับธรรมชาติ เป็นนักพยากรณ์ผู้ใช้ธรรมชาติเป็นสื่อกลางเป็นหลัก แต่บทบาทจริงๆ ของชาวดรูอิดตามประวัติศาสตร์แล้วดูจะไปในทางของนักบวช/นักกฎหมายเสียมากกว่า

สังคมของชาวเคลต์จะอยู่รวมกันเป็นเผ่าและแบ่งชนชั้นออกเป็น อัศวินนักรบ, ดรูอิด และเกษตรกรชาวบ้านทั่วไป ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของดรูอิดก็คือการเป็นผู้นำทางด้านศาสนาของเผ่า แถมยังต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำด้านการศีกษา เป็นที่ปรึกษาของผู้นำ และพิพากษาคนผิด (หรือบางครั้งก็ไม่ผิด) 

คำว่า ดรูอิด แปลว่า ผู้ทรงภูมิ หรือผู้มองเห็นอนาคต เป็นผู้หยั่งรู้ที่ให้คำปรึกษาแก่กษัตริย์หรือหัวหน้าเผ่าอยู่บ่อยๆ ทำให้ชาวเคลต์จึงนับถือดรูอิดเพราะถือว่าดรูอิดคือผู้ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าและมีพลังเกี่ยวกับธรรมชาติ (ซึ่งจริงๆ ก็คือเป็นผู้มีความรู้มาก จนคนสมัยนั้นมองเป็นผู้วิเศษนั่นเอง) 

ร่างทรง

เชแมน – ชนพื้นเมืองอเมริกา

เชแมน หรือ ชาแมน (Shaman) คือผู้นำทางด้านจิตวิญญาณ ทำพิธีกรรมเพื่อเข้าถึงสิ่งเหนือธรรมชาติ เพื่อนำมารักษาโรคหรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ในเผ่า ชาแมนของอินเดียนชนพื้นเมืองอเมริกาไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นคำสอนที่ยึดตามความเชื่อที่ว่าธรรมชาติไม่อาจอยู่ภายใต้การควบคุมใด โดยพวกเขาจะอัญเชิญวิญญาณสัตว์หรือวิญญาณบรรพบุรุษมาเข้าทรงเพื่อทำพิธีต่างๆ ตามความเชื่อ

ความสามารถส่วนใหญ่ของพวกเขามักจะเกี่ยวข้องกับสัตว์และวิญญาณสัตว์ เพื่อยืมพลังจากสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ บ้างก็ให้วิญญาณสัตว์เหล่านั้นมาเข้าทรง ในรูปแบบของความฝัน เพื่อพยากรณ์ ปลุกเสกวัตถุสิ่งของ นอกจากนั้นเหล่าชาแมนยังผสมผสานศาสตร์ต่างๆ ทางความเชื่อเข้าไว้ด้วยกันอีกเช่น Animism, Totemism, Ritualism และ Fetishism เมื่อรวมสิ่งเหล่านี้ไว้ด้วยกันจึงเกิดเป็นศาสนาของเหล่า ชาแมน (Shaman) ที่ชนพื้นเมืองอเมริกานับถือนั่นเอง

แปลและเรียบเรียงจาก
https://bit.ly/3bat9DG
https://bit.ly/3vLyjiZ
https://bit.ly/3nxuSZv

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#trend

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/

Advertisements