The Green Knight เป็นเรื่องราวตำนานของ เซอร์กาเวน หลานของกษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งเกิดมาในยุคสมัยที่มีทุกอย่างเพียบพร้อม ทั้งความสุขสบาย ลาภยศ เงินทอง เป็นชายหนุ่มผู้มี “ตำแหน่ง” แต่ยังขาด “ตำนาน” เป็นของตัวเอง
เพราะปมใหญ่ของเรื่องนี้ก็คือ “ถ้าเขาไม่ใช่หลานของอาเธอร์ เขาจะเป็นใคร?” ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวเอง ก็ยังตอบไม่ได้เลย
เซอร์กาเวน เลยรับคำท้าของ The Green Knight อัศวินมรกตผู้ปรากฏขึ้นมาท้าทาย “อัศวินโต๊ะกลม” เพื่อเชิญชวนให้ร่วมการละเล่น เพื่อแลกกับชื่อเสียงเกียรติยศในฐานะ “ตำนานผู้ตัดศีรษะอัศวินมรกต” แต่มีเงื่อนไขเป็นสัญญาใจว่า เมื่อ 1 ปี ผ่านไป เซอร์กาเวน จะต้องเดินทางไปให้อัศวินมรกต ฟาดฟันคืนในลักษณะเดียวกัน แล้วหลังจากนั้น ต่างคนต่างแยกย้าย ไม่ถือโทษโกรธกัน
มันคือปลายทางที่ทุกคนรู้จุดจบของตัวละครอยู่แล้ว เพราะเซอร์กาเวนต้องตายแน่ๆ
แล้วใครมันจะบ้าไปตามสัญญาที่พาตัวเองไปตาย
แต่สิ่งที่เราจะได้เรียนรู้พร้อมกับตัวละครคือเส้นทางการเป็น “อัศวินผู้มีเกียรติ” ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่เซอร์กาเวนได้พบเจอ มีอุปสรรคมากมายระหว่างทางที่เข้ามาเป็นบทเรียนอันน่าจดจำ เพื่อทำให้ตัวละครนี้เติบโต
หนังแสดงให้เราเห็นผ่านสัญญะต่างๆ ในเรื่องไม่ว่าจะเป็นทั้งการถ่ายทำ การเคลื่อนกล้อง ดนตรีประกอบ หรือแม้แต่บรรยากาศของเรื่อง ก็ล้วนมาเสริมให้ใจความหลักของเรื่องนี้เข้มข้นขึ้นไปอีก เราจะได้เห็นตัวละครที่แสนจะเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งความรัก โลภ โกรธ และหวาดกลัว
สำหรับใครที่สนใจอยากรับชม The Green Knight ต้องเกริ่นแนะนำก่อนว่าภาพยนตร์ค่อนข้างละเมียดละไมในการเล่าสารมากๆ จึงทำให้การดำเนินเรื่องดูเชื่องช้า แต่สิ่งที่ได้ออกมาคือผลงานศิลปะที่ควรค่าแก่การพูดถึง และถือเป็นหนึ่งในหนังของค่าย A24 ที่น่าจะถูกใจแฟนๆ ของค่ายนี้อยู่ไม่น้อย
The Green Knight จะเข้าฉายในวันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ ในโรงภาพยนตร์
#TheGreenKnight #อัศวินมรกต
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#people
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/
