f
เรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้นกับครอบครัว “Gardner” เมื่อจู่ๆ ก็มีวัตถุชิ้นหนึ่งจากฟากฟ้า ร่วงลงมาบนผืนดิน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการเก็บตัวอย่าง แต่แล้ว มันกลับหายลับตาไป และเมื่อกลับมาดูอีกครั้งก็ได้พบว่าวัตถุชิ้นนี้ มีแสงเปล่งออกมา ซึ่งเป็นสีที่มนุษย์ “ไม่สามารถอธิบายได้” และยังมีเหตุการณ์ประหลาดยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ พายุโหมกระหน่ำ วัตถุประหลาดหายวับไปกับตาขณะสายฟ้าฟาดลงมา
ความแปลกประหลาดยังไม่จบลงเท่านี้ ผลผลิตทางการเกษตรของครอบครัว Gardner เติบโตอย่างผิดปกติ มีรสชาติผิดเพี้ยนเกินกว่ามนุษย์จะทนได้ พืชและสัตว์เจริญเติบโตไม่สมประกอบ เปราะบาง และมีสีเทา
นอกจากปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ความผิดปกติที่เกิดกับสิ่งมีชีวิต สมาชิกในครอบครัว Gardner ก็เริ่มได้รับผลกระทบ ลูกชายกลายเป็นคนวิกลจริต ส่วนอีกคนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้เป็นแม่ก็มีสติไม่สมประกอบ และสุดท้ายหัวหน้าครอบครัวก็เริ่มเปลี่ยนไป และกลายเป็นคนสติไม่ดีในที่สุด
จากเรื่องย่อ การดำเนินเรื่อง วิธีการเล่า ปมปัญหา ที่ผู้เขียนได้ให้ไว้ ซึ่งมีความแปลก แหวกแนวจากนวนิยายเรื่องอื่นๆ และยากเกินกว่าวิทยาศาสตร์และมนุษย์จะหาคำตอบได้ นี่จึงเป็นเหมือน “พื้นที่จินตนาการของนักอ่าน” ว่าจะมองแบบใด เข้าใจแบบไหน และเป็นจุดขายที่ “ใครๆ ก็ซื้อ”
ถ้าจะบอกว่านิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายแนวแฟนตาซีก็ถูก หรือจะมองว่าเป็นนิยายแนวสยองขวัญก็ใช่ การ “ยำรวม” เนื้อหาแบบนี้ สามารถรังสรรค์สิ่งแปลกใหม่ และเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่องอื่นๆ ได้อีกด้วย
อาทิ ภาพยนตร์ “The Thing” การค้นพบของสิ่งมีชีวิตสุดสะพรึง และ “Annihilation” หนังไซไฟที่เต็มไปด้วยปริศนา กับการค้นหาคำตอบ หรือจะเป็นเกม Darkest Dungeon : The Colour of Madness ที่ถอด DNA มาจากนิยายเรื่อง The Color out of Space มาเป๊ะๆ สยดสยอง หลอนประสาท เมามันไปกับการฆ่าเหล่าปีศาจ รับรองได้เลยว่าน่ากลัวไม่แพ้ต้นฉบับ!
สามารถรับฟังแบบเต็มอิ่มได้ทาง Time to Play EP.66 | “The Color out of Space” แสงสีจากต่างโลก
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#timetoplaypodcast
ดูเนื้อหาอื่นๆ ของ Time To Play ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/podcast/time-to-play/