ถึง “OnlyFans” คุณจะนึกถึงอะไร?
หลายคนอาจร้องอ๋อ เพราะก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยดี ซึ่งข้อมูลระบุว่า OnlyFans มีผู้ใช้ 5.5 ล้านคนต่อวัน และมีสมาชิกที่ลงทะเบียนมากถึง 150 ล้านคน
และด้วยรูปแบบของเนื้อหาจากครีเอเตอร์ที่ค่อนข้างจะ “สุดจัด” เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกได้ว่ามาเพื่อสะเทือนวงการคอนเทนต์กันเลยทีเดียว
แต่ความจริง OnlyFans ถูกสร้างมาเพื่อเผยแพร่ “คอนเทนต์อย่างว่า” จริงๆ ไหม?
วันนี้เราจะมาย้อนรอยจุดเริ่มต้น และเจาะความสำเร็จของแพลตฟอร์มออนไลน์นี้กัน
รู้จัก OnlyFans
OnlyFans คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยคุณ Timothy Stokely ที่ได้รับการขนานนามจากสำนักพิมพ์ The Times ว่าเป็น “เจ้าพ่อสื่อลามก” ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เคยเป็นเจ้าของเว็บไซต์ในทำนองเดียวกันมาแล้วถึง 2 เว็บ
ธุรกิจ OnlyFans เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีปัญหาให้ถกได้ไม่เคยหยุด เพราะต้องยอมรับว่ามันมีบางเคสที่ ‘เยาวชน’ แอบเข้ามาใช้งานด้วย จนล่าสุดทางบริษัทตัดสินใจที่จะ “แบนเนื้อหา18+” เกิดเป็นกระแสตีกลับ จากที่เคยรุ่ง ก็อาจจะกลายเป็นร่วงซะอย่างนั้น
อะไรที่ทำให้ OnlyFans ประสบความสำเร็จ?
วิธีการทำงานของ OnlyFans คือระบบ “สมัครสมาชิก” ที่ต้องจ่ายเงินแลกเนื้อหาพิเศษ อาจสามารถโทรคุย แช็ตหา และถ้าชอบมากไม่ไหวแล้ว ก็ให้ทิปแก่ครีเอเตอร์ได้โดยตรง
ความจริงแพลตฟอร์มนี้ก็ได้รับความนิยมมานานแล้ว แต่กลับถูกจุดเชื้อไฟให้ลามไปทั่วโลกในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดยุคแรกๆ คาดว่าคนน่าจะเหงา เลยสมัครมาดูคอนเทนต์เยียวยาจิตใจ
สถิติรายงานว่าในช่วงเมษายน 2020 ที่โควิดกำลังระบาดหนัก ยอดสมัครสมาชิกของ OnlyFans พุ่งขึ้น 75% ต่อเดือน มีดารา ศิลปิน คนดังหลายคนให้ความสนใจเข้ามาใช้งานมากขึ้น
และแล้วก็เกิดปรากฏการณ์เซเลบเยาวชนที่เป็นแค่ ‘เด็กอายุ 13’ แต่ทุบสถิติทำเงิน 1 ล้านเหรียญภายใน แค่เวลา 6 ชั่วโมง ถือว่าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ OnlyFans
นอกจากนี้ อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจมากๆ คือทัศนคติของโลกยุคนี้ที่มองว่า “Sex Worker ก็เป็นอาชีพ”
แม้จะมีเสียงต่อต้านด้านความเหมาะสมในการกำหนดอายุผู้ใช้งาน แต่พอมีข่าวว่าแอปฯ จะแบนเนื้อหา 18+ ผู้ใช้ทั้งครีเอเตอร์ และผู้สมัครก็ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกันเพียบ
ครีเอเตอร์รายหนึ่งกล่าวว่า แพลตฟอร์มนี้เป็นเหมือนที่ทำงาน หากมันปิดตัวลงไป ดังนั้นจึงอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปทำงานข้างถนนแทน ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงอีก
เมื่อมีเสียงสะท้อนกลับไปหา บริษัทก็ตัดสินใจยกเลิกแผนที่จะแบนเนื้อหา 18+ ทันที พร้อมทั้งยังแถลงว่าจะทำให้เป็นแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์เพื่อทุกคน เป็นที่น่าพอใจสำหรับทุกฝ่าย แบบวินวิน ครีเอเตอร์มีอาชีพ บริษัทมีรายได้ ผู้ใช้งานได้ดูคอนเทนต์
แล้วทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับ OnlyFans มาคุยกัน 🙂
แปลและเรียบเรียงจาก:
https://bit.ly/39b7BWs
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#society
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/