เจาะลึก “หอแต๋วแตก” สาระดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในความบันเทิง

999
หอแต๋วแตก

วินาทีนี้คงไม่มีหนังเรื่องใดที่ดังไปกว่า “หอแต๋วแตกแหกโควิดปังปุริเย่” อีกแล้ว หลังจากปล่อยตัวอย่างหนัง จะเห็นว่าหอแต๋วแตกภาคนี้ถือได้ก้าวไปอีกขั้นของความสำเร็จ เพราะจากภาคก่อนๆ ที่ถูกใครหลายคนมองว่าเป็นหนังไร้สาระ ทว่า ตอนนี้จักรวาลหอแต๋วแตก ‘ทุกภาค’ กลับถูกชูคุณค่าและถูกยกขึ้นหิ้งเป็น “จดหมายเหตุประเทศไทย” ไปเรียบร้อย 

ด้วยเนื้อหาและการเล่าเรื่องที่สะท้อนเรื่องราวในประเทศไทยในแต่ละช่วงไว้อย่างครบรสและไม่เหมือนใคร มีการเสียดสี ล้อเลียนประเด็นสังคมควบคู่ไปกับการเล่นมุก ไม่เพียงทำให้เราขำจนท้องแข็ง แต่เปลือกนอกของความฮาๆ ยังแฝงไปด้วย ‘ความเรียล’ ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันในอีกบริบทหนึ่งซึ่งอยู่ในชีวิตจริงของเรา เป็นเรื่องจริง ‘ขำๆ ที่ไม่ขำ’ เลย 

บอกได้ว่าจักรวาลหอแต๋วแตกเป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือหนังที่แสดงความ ‘ไทยๆ’ ไว้อย่างจัดจ้าน เพราะคนไทยเราสามารถเปลี่ยนจากเรื่องเครียดๆ ให้กลายเป็นเรื่องตลก เพราะ “ชีวิตนี้เครียดเกินกว่าที่จะจริงจังกับทุกเรื่อง”  

Advertisements

ส่วนเหตุผลที่ว่า เพราะอะไรจักรวาลหอแต๋วแตกถูกมองว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บันทึกเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ทำไมมันถึงเพิ่งถูกมองเห็นคุณค่า ทั้งๆ ที่หนังออกมาหลายภาคและทำออกมาค่อนข้างได้ดีทีเดียว อีกทั้งสถานะของมันกลับค้างเติ่งไว้ในตำแหน่ง “ตำนาน” อยู่นานหลายปี 

เหตุผลแรก อาจเป็นเพราะตัวอย่างหนังภาคล่าสุดที่มีความยาวเพียงสองนาทีครึ่งนี้ มีพลังพอที่จะเขย่าทั้งจักรวาลหอแต๋วแตก และเหมือนเป็นการปลดล็อกจักรวาลหอแต๋วแตกที่ผ่านมา ทำให้หนังก้าวสู่สื่อที่มีคุณค่า ไม่เป็นเพียงตำนานที่สร้างความบันเทิงอีกต่อไป   เราจะเห็นได้ว่าตัวอย่างหนังภาคนี้ยังคงตอกย้ำเรื่องราวในปัจจุบันที่เกิดขึ้น มีเนื้อหาที่สะท้อนประเด็นสังคมไว้อย่างคมคาย สิ่งนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง ศาสนา และเป็นความจริงที่ถูกกดทับและถูกมองข้ามจากคนกลุ่มหนึ่ง

ซึ่งการจี้จุดความจริงในคราบที่ถูกหุ้มด้วย “ความไร้สาระ” “ไม่มีมูล” กระตุ้นความอัดอั้นในใจที่ใครหลายคนเก็บมานาน แล้วอยากจะกะเทาะเปลือกของความจริงออกมา หนังเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนเพื่อนที่เหมือนมานั่งในใจเรา บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ และเราพยักหน้าเต็มแรง พร้อมตะโกนออกไปดังๆ ว่า “จริงที่สุด!” “นัมเบอร์วัน!” 

อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ในช่วงปีที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่สำคัญในการนำเสนอและแสดงตัวตน แทบจะกินพื้นที่สื่ออื่นๆ เลยก็ว่าได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าไม่ใช่เพราะประเด็นอื่นที่หอแต๋วแตกภาคอื่นหยิบยกมาไม่ดังเท่าสมัยนี้ แต่เป็นเพราะในปัจจุบัน ความสำคัญของโซเชียลมีเดียถูกยกระดับและมองว่าเป็นช่องทางที่ทำให้ประเด็นต่างๆ ได้เฉิดฉายและถูกขยี้ให้แหลกมากขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนพูดคุยและความสนใจจากผู้คน 

Advertisements

เมื่อประเด็นเหล่านี้เป็นที่พูดถึงจนโด่งดัง มันจะทำให้เรามีส่วนร่วมและอินไปกับมัน จะเห็นได้ว่าจากตัวอย่างหนัง ประเด็นที่ถูกเอ่ยถึงมักมาจากกระแสในโซเชียลมีเดีย นี่จึงทำให้เราอดรู้สึกคล้อยตามและชื่นชอบได้ไม่ยาก

และเหตุผลสุดท้าย เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้สร้างบาดแผลและความรวดร้าวไว้ในใจของผู้คน ในขณะเดียวกันมันก็กระตุ้นทำให้เรา ‘ตื่นรู้’ และตระหนักถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งการเข้าใจความเป็นมาในอดีตนี้จะทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า “อะไรเป็นอะไร” มากขึ้น 

เพราะการมองย้อนกลับอาจทำให้เราเห็นสภาพความเป็นจริงได้มากกว่าการมองและวิเคราะห์จากการยืนอยู่ในสถานการณ์ ณ ตอนนั้น ดังนั้นคำจำกัดความที่ว่า “จักรวาลหอแต๋วแตกเป็นคลังประวัติศาสตร์ชาติไทย” ที่ควรค่าแก่การอวยยศร้อยครั้งพันรอบ จึงเป็นเหมือนกล่องเก็บความทรงจำซึ่งทำให้เราหวนนึกถึงอดีตที่ (เคย) สวยงาม

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#trend

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/

Advertisements

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่