‘แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง’ ประโยคนี้ไม่เกินจริงเลย อยากให้ลองนึกถึงหญิงสาวที่อุ้มท้องโตๆ หนักๆ ใช้ชีวิตอย่างลำบาก เพื่อให้เราได้เกิดมา คอยมอบความรัก ความเมตตา เลี้ยงเรามาด้วยความพยายามอย่างหนัก ที่จะให้เติบโตมาอย่างดีที่สุด เท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำได้
.
ความรักที่ยิ่งใหญ่จากแม่ เป็นสิ่งที่ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเชื้อชาติ เผ่าไหน หรือแม้แต่กับสัตว์ก็ไม่ต่างกัน ผมเลยนำเรื่องราวความเป็นแม่ของสัตว์โลก ที่ทั้งน่ารัก และซาบซึ้ง จัดอันดับโดย Animal Planet มาฝากเพื่อนๆ กันครับ
1) ช้างแอฟริกา – ฝูงแม่ที่ช่วยกันเลี้ยงลูก
แม่ช้างจะต้องแบกครรภ์นานถึง 22 เดือน โดยที่ลูกช้างวัยแรกเกิดจะมีน้ำหนักเฉลี่ย 200 ปอนด์ (90 กิโลกรัม) น่าจะเป็นภาระที่หนักอึ้งเลยทีเดียว
.
แถมในช่วงแรกลูกช้างจะยังไม่สามารถมองเห็นได้ ต้องพึ่งพาคุณแม่ในการนำทาง ใช้ชีวิต โชคดีที่คุณแม่ช้างมีสังคมครอบครัวที่ดี บรรดาช้างเพศเมียในฝูง ไม่ว่าย่า ป้า น้า พี่ น้อง จะแห่กันเข้ามาช่วยเลี้ยง ซึ่งเรียกว่า “Allomothers” ลูกช้างเลยไม่ได้มีแม่แค่หนึ่งเดียว แต่มีเป็นฝูง
2) โคอาลา – แม่ที่ให้ลูกกินอุจจาระตัวเอง
ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าโคอาลา กินใบยูคาลิปตัสเป็นอาหาร แต่คุณอาจยังไม่รู้ว่าใบยูคาลิปตัสนั้นเต็มไปด้วยพิษร้าย อันตรายถึงตาย โชคดีที่ระบบทางเดินอาหารของสัตว์ชนิดนี้มีแบคทีเรียชนิดพิเศษ ที่ย่อยทำลายพิษเหล่านั้นจนหมดได้
.
แต่ลูกโคอาลาที่เพิ่งเกิดมา จะยังไม่มีพลังวิเศษแบบนี้ ทำให้กินอาหารหลักอย่างใบยูคาลิปตัสไม่ได้
คุณแม่เลยต้องป้อนอึให้ลูกกิน เพื่อสร้างภูมิต้านทานต่อพิษร้าย ในช่วงแรกเกิดลูกโคอาลาจะใช้ชีวิตอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องของคุณแม่นานถึง 6 เดือน เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์
.
ปกติโคอาลาคือสิ่งมีชีวิตสโลว์ไลฟ์ ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน โดยนอนไปเฉลี่ย 90% ของเวลาทั้งวัน (22 ชั่วโมง) ซึ่งตอนที่เป็นแม่ก็ไม่ต่าง ยังไงก็นอนอยู่ดี เลี้ยงไปนอนไปสบายใจดี
3) หมีขั้วโลก – แม่เลี้ยงเดี่ยว ที่ต้องสู้เพื่อให้ลูกได้เกิด
รู้หรือไม่ ภายนอกที่ดูน่ารักน่ากอดของหมีขั้วโลก ความจริงหมีตัวผู้ คือราชาแห่งการ ‘One night stand’ ที่ชอบทิ้งหมีสาวไปแบบไร้เยื่อใย หลังจากที่ได้ผสมพันธ์ุกันเรียบร้อยแล้ว
.
หลังจากโดนหมีหนุ่มทิ้ง หมีสาวจะต้องแบกรับครรภ์ที่มีลูกน้อย (แต่ตัวใหญ่) หนักประมาณ 400 ปอนด์ (181 กิโลกรัม) โดยเธอต้องหาอาหารมากินตุนไว้ให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มน้ำหนักตัวเองเป็นสองเท่า ไม่อย่างนั้นร่างกายจะทำการ ‘กินลูก’ กลับไปเป็นอาหารเลี้ยงตัวเอง
.
หลังจากที่หมีสาวเตรียมตัวพร้อมแล้ว พวกเธอจะขุดถ้ำเพื่อเข้าสู่ภาวะจำศีลเป็นเวลา 2 เดือน และเมื่อลูกน้อยเกิดมาจะใช้เวลาอยู่กับแม่เพียงประมาณ 2 ปี แล้วจึงออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
4) อุรังอุตัง – แม่นักสร้างบ้าน
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ จะใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่บนต้นไม้ ซึ่งอุรังอุตังสาวจะรวบรวมกิ่งไม้ ใบไม้มากมาย มาสร้างบ้าน (รัง) ใหม่แทบจะตลอดเวลา เฉลี่ยแล้วหนึ่งชีวิตของอุรังอุตังสาว จะสร้างบ้านได้ประมาณ 30,000 หลัง
.
นอกจากนี้ความเป็นแม่ของอุรังอุตังยังเข้าขั้นสุดยอด เมื่อเทียบกับสัตว์อื่น เพราะมีระยะการให้นม นาน 6 – 7 ปี ถือว่ายาวนานที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
5) หมึก – แม่ลูกดก ที่ยอมกินเนื้อตัวเอง
หมึกสาวจะสามารถออกไข่ได้มากถึง 50,000 ใบ โดยใช้เวลาประมาณ 40 วันในการฟักตัว ในระหว่างนั้นแม่หมึกจะรับบทเป็น ‘บอดี้การ์ด’ คอยดูแลปกป้องลูกๆ จากนักล่าในท้องทะเล ซึ่งทำให้ไม่สามารถออกไปล่าหาอาหารให้ตัวเองได้ แม่หมึกจึงจำเป็นที่จะต้องเสียสละร่างกาย ด้วยการกินหนวดของตัวเอง เพื่อบรรเทาความหิวระหว่างดูแลลูก
แปลและเรียบเรียงจาก :
https://bit.ly/3fNFOPI
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#brief
ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/
