8 ชั่วโมงแห่งโศกนาฏกรรมเกาหลีใต้ ที่มีต้นเหตุจาก ‘แมลงวัน’ ตัวเดียว

1241
โศกนาฏกรรม

“น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นเหตุ” สำนวนไทยที่ใช้อธิบายถึงปัญหาที่บานปลายมาจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ และสามารถใช้อธิบายคดีในวันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเป็นเหตุสลดที่เกิดจาก ‘ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์’ แต่กลับหันคมดาบเข้าหาประชาชน กราดยิงไม่เลือกหน้า ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น

คดีนี้เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นเรื่องราวของนายตำรวจคนหนึ่ง ที่เกิดคลั่งไล่ยิงคน เพียงเพราะ ‘แมลงวัน’ ตัวเดียว ส่งผลให้มีประชาชนตกเป็นเหยื่ออารมณ์ โดยมีผู้บาดเจ็บ 36 ราย บาดเจ็บสาหัส 6 ราย และเสียชีวิตมากถึง 55 ราย ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์เกาหลี

Advertisements

คนหลับ อย่าปลุก..

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ‘วู’ (นายตำรวจ) ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับ ‘ซัน’ (แฟนสาว) ที่หมู่บ้านไกลปืนเที่ยงแห่งหนึ่ง โดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ซึ่งขัดกับค่านิยมสมัยนั้น ทั้งคู่จึงตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างหนัก แต่ก็ใช้ชีวิตเรื่อยมา

จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่งปี 1982 ขณะนั้น วู กำลังนอนกลางวัน โดยที่ ซัน กำลังพยายามไล่ตีแมลงวัน และพลาดไปตีโดนหน้าอกของ วู ดัง “ป้าบ!”

ทำให้ วู สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจปนโมโห ที่แฟนมาทำให้เขาตื่น ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างหนัก จากนั้นฝ่ายชายก็ได้ออกจากบ้านไปทำงานประจำสถานีตำรวจ โดยพกเหล้าติดตัวไปดื่มด้วย

พยานบอกว่าวันนั้น วู ดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ หลังเลิกงานเขาก็ได้กลับบ้านไป แต่ก็ดันไปทะเลาะกับแฟนสาวอีกรอบ ครั้งนี้เขาหัวร้อนคุมอารมณ์ไม่ได้ จนลงมือทำลายข้าวของ รวมถึงทุบตีแฟนสาว จนเลือดตกยางออก จากนั้นก็ได้ออกจากบ้านและกลับไปที่สถานีตำรวจอีกครั้ง

วู ได้เข้าไปขนอาวุธหนัก ประกอบด้วยปืนกล M2 สองกระบอก พร้อมกระสุน 200 นัด และระเบิดอีก 7 ลูก ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าสู่ช่วงเวลา “8 ชั่วโมงแห่งโศกนาฏกรรม ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้”

แผนคลั่ง พลังแค้น

แผนการระบายความคลั่งของ วู ในครั้งนี้ ผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ ในคืนนั้นเวลา 3 ทุ่ม วู ได้ไปที่ทำการไปรษณีย์ และกราดยิงพนักงานจนตายคาที่ 3 ราย จากนั้นทำการตัดสายโทรศัพท์ เพื่อให้หมู่บ้านนี้ขาดการติดต่อกับโลกภายนอก

จากนั้นเขาก็เที่ยวเดินไล่ยิงคนแถวตลาด พร้อมปาระเบิดใส่บ้านเรือน มีคนเสียชีวิตเพิ่มอีก 6 ราย โดยมีเป้าหมายอันดับหนึ่งคือ ‘ซัน’ แฟนสาวที่ไล่ตีแมลงวันจนทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมา

ย้อนกลับไปช่วงที่ทั้งคู่ทะเลาะกันตอนหัวค่ำแล้ว วู ได้เดินออกจากบ้านไป ขณะเดียวกันนั้นเอง ด้วยความที่ ซัน เป็นห่วงแฟนหนุ่มก็เลยออกตามหา และได้เจออีกทีก็คือตอนที่เขากลายเป็นไอคลั่ง และไม่รีรอ หันปืนมายิงเธอจนล้มลงไปกองกับพื้น (แต่ไม่ตาย)

หลังจากที่เขาคิดว่าภารกิจล้างแค้นแฟนสาว เสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ยังไม่เลิกคลั่ง เพราะมีผู้เคราะห์ร้ายอีกมากมายที่ต้องจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของนายตำรวจคนนี้

Advertisements

เท่านั้นไม่พอ เขายังเดินทางไปหมู่บ้านข้างๆ อีกหลายแห่ง เพื่อกราดยิงสนองโทสะ โดยที่ตัวเขาเองยังสวมเครื่องแบบอยู่ด้วย

เขาอาศัยความเป็นตำรวจ ทำให้ผู้คนเชื่อใจ และอ้างว่าเขาถูกพวกเกาหลีเหนือไล่ล่าอยู่ จึงได้รับการต้อนรับขับสู้จากประชาชนเป็นอย่างดี แต่ชาวบ้านเหล่านั้นก็ถูกตอบแทนบุญคุณด้วยความตายทั้งหมด

จากวีรกรรมทั้งหมด นายวู ตกเป็นบุคคลที่ตำรวจเกาหลีต้องการตามล่า เขาถูกต้อนให้จนมุม และคิดว่าตัวเองไม่รอดแน่ๆ จึงได้ใช้ระเบิดมือพลีชีพตัวเองไปพร้อมกับตัวประกันที่จับไว้

โศกนาฏกรรมจากความแค้นที่โดนปลุกครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างมากมาย มีประชาชนเสียชีวิตถึง 55 ราย บาดเจ็บ 36 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 6 ราย

สาเหตุที่แท้จริง

คดีกราดยิงครั้งนี้ ทำให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจำจังหวัด สั่งพักงานตำรวจ 4 ราย ฐานละเลยหน้าที่ รวมถึงบรรดาคนใหญ่คนโต อย่างรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ขอเสนอตัว ‘ลาออก’ เพื่อชดใช้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น

เป็นการแสดงความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐ รวมถึงรักษาภาพลักษณ์ของตำรวจเกาหลี ที่ถูกทำลายอย่างย่อยยับ และมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสียอีกด้วย

มีหลายคนได้วิเคราะห์สาเหตุ และแรงจูงใจที่แท้จริงเอาไว้ว่า น่าจะเป็นเพราะ ‘ความเครียด’ และ ‘ความกดดัน’ ทั้งถูกย้ายงานมาอยู่ในชนบท และต้องเจอกับชาวบ้านขี้นินทา สภาพจิตใจของเขาน่าจะอยู่ในภาวะย่ำแย่มานาน

ซึ่งฟางเส้นสุดท้ายคงจะเป็นการที่ทะเลาะกับแฟน (เพราะแมลงวัน) เขาจึงระเบิดความโกรธแค้นที่สะสมไว้ด้วยการ ‘ไล่ฆ่าคน’ กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งของชาวเกาหลีใต้


ตำรวจคลั่ง พังแดนโสม | File Not Found EP.53

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast

ดูเนื้อหาอื่นๆ ของ File Not Found ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/podcast/file-not-found/

Advertisements