ENTERTAINMENTมันอยู่ในกระจก!?! ย้อนรอยคดีดังเบื้องหลังตำนานเมือง “ฆาตกรในกระจกเงา”

มันอยู่ในกระจก!?! ย้อนรอยคดีดังเบื้องหลังตำนานเมือง “ฆาตกรในกระจกเงา”

เคยคิดไหมว่าจะเป็นอย่างไร หากเราส่องกระจก แต่ภาพที่เห็นนั้นไม่ใช่ “ภาพสะท้อน” ของตัวเราเอง กลับเป็น “ใครอีกคน” ที่กำลังจ้องมอง พร้อมจะทะลุกระจกออกมาทำร้ายเราได้ตลอดเวลา!?!

เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1987 ณ เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา

“รูธี เมย์ แมคคอย” (Ruthie Mae McCoy) หญิงผิวดำ อายุ 52 ปี อาศัยอยู่คนเดียวในตึกของโครงการ The Grace Abbott Homes อะพาร์ตเมนต์ที่รัฐอุดหนุนให้ แต่ถึงกระนั้นชีวิต ณ ที่แห่งนี้ก็ดูจะห่างไกลจากคำว่าบ้านนัก

เพราะสภาพภายในตึกค่อนข้างมืด บริเวณบันไดมีเพียงแค่ไฟสลัวๆ ที่ในบางชั้นกลับใช้การไม่ได้จนมืดสนิท มีร่องรอยและเศษขยะของการใช้สารเสพติดให้เห็นทุกชั้น ส่วนลิฟต์นั้นก็พัง ใช้การได้บ้างไม่ได้บ้าง

และ ณ ห้องหมายเลข 9 ห้องในสุดของชั้นที่ 11 คือห้องที่รูธี แมคคอยพักอาศัยอยู่

หากดูจากสภาพแวดล้อม เราจะพบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ที่สถานที่แห่งนี้มักจะเกิดคดีอาชญากรรมขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เพราะตึกโทรมๆ เหล่านี้ นอกจากจะเป็นบ้านให้ผู้ยากไร้แล้ว ยังเป็นทั้งเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกโจรและพ่อค้ายา เป็นโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ใครแข็งแกร่งกว่าและข่มเหงอื่นได้ก็จะมีชีวิตรอดไปอีกวัน

และไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันที่ผู้อาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวอเมริกัน-แอฟริกัน เพราะในยุคนั้นคนผิวดำยังไม่ได้รับความเท่าเทียม ถูกกีดกันจากสังคมและโอกาส การจะไต่บันไดสังคมเพื่อมีคุณภาพชีวิตที่ดีจึงเป็นเรื่องยาก หลายคนจึงลงเอยด้วยการอาศัยอยู่ในที่พักที่รัฐจัดหาให้ แม้สภาพแวดล้อมจะไม่ได้ดีเลยก็ตาม

ณ อะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ มีรายงานว่าบางสัปดาห์มีคดีเกิดขึ้นบ่อยแบบวันเว้นวัน ทั้งจี้ ปล้น ทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ การค้ายา และการต่อสู้ระหว่างแก๊ง แต่ถึงแม้จะเป็นพื้นที่ของภาครัฐ เมื่อเกิดคดีใดๆ ขึ้น ตำรวจกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

แม้เพื่อนบ้านจะอันตราย แต่ในสายตาคนอื่น รูธีก็อันตรายไม่แพ้กัน

รู​ธี แมคคอยเป็นคนมีปัญหาทางจิต เธอมักจะชอบบ่นพึมพำกับตัวเองอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็ตะโกนด่าคนที่เดินผ่านไปมา และหลายครั้งนักสังคมสงเคราะห์ต้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะเธออ้างว่ามีคนขู่ทำร้ายหรือขู่ฆ่า แต่พอวินิจฉัยกลับพบว่าเป็นตัวเธอที่เกิดระแวงไปเอง

พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ไม่มีใครอยากจะสุงสิงกับเธอนัก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่นับหญิงวัยกลางคนสติไม่ดีคนนี้เป็นเพื่อน
และแล้วอยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น รูธีโทรหาตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอกล่าวว่า

“มีคนกำลังบุกมาฆ่าฉัน!”
“พวกมันเข้ามาผ่านตู้กระจกเก็บยา”
“พวกมันโยนตู้กระจกไปแล้ว”
“มันกำลังเข้ามาทางห้องน้ำ”
“ช่วยด้วย! ฉันอยู่ที่ห้อง 1109 ฉันชื่อ รูธี แมคคอย”

ตำรวจได้ฟังข้อความเหล่านี้ก็ได้แต่มึนงง โดยเฉพาะประโยคที่ว่า ‘พวกมันเข้ามาผ่านตู้กระจกเก็บยา’ ปกติในบ้านของชาวอเมริกันมักจะมีตู้ (Cabinet) สำหรับเก็บยาและเป็นกระจกเงาอยู่เหนืออ่างล้างหน้า แต่การที่ใครสักคนจะทะลุผ่านตู้กระจกนี้เป็นไปแทบไม่ได้เลย

ด้วยความไม่เข้าใจเหตุการณ์ ตำรวจจึงตีความคดีนี้ว่าเป็นคดีเสียงดังรบกวนเท่านั้น และไม่ได้ส่งสายตรวจออกไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไป 20 นาทีก็มีโทรศัพท์อีกสายโทรหาตำรวจ เพื่อรายงานว่ามีเสียงปืนดังออกจากห้อง 1109 ที่นางรูธีอยู่ ครั้งนี้จึงมีการส่งสายตรวจออกไปทันที

แต่เมื่อตำรวจไปถึงหน้าห้อง 1109 และพยายามเคาะเรียกนางรูธี กลับไม่มีเสียงใดๆ ตอบรับกลับมา เมื่อโทรหาก็กลับได้ยินแค่เสียงโทรศัพท์ที่ดังออกมาจากในห้อง แต่ไม่มีคนรับสาย และเมื่อตำรวจยืมกุญแจสำรอง กลับพบว่าใช้งานไม่ได้ เพราะรูธีเปลี่ยนกลอนประตูไปนานแล้ว

เมื่อถามเพื่อนบ้านและได้คำตอบว่า “ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น” ตำรวจจึงตัดสินใจกลับสถานี

ในวันถัดมา มีการโทรศัพท์หาตำรวจอีกครั้งเพื่อรายงานความผิดปกติ โดยเป็นสายจากเพื่อนของรูธีนั่นเอง เธอบอกว่าในทุกๆ วัน อย่างน้อยจะเห็นนางรูธีเดินออกจากห้องในช่วงเช้า และกลับในช่วงเย็น แต่ในวันดังกล่าวกลับไม่พบว่าเธอได้เข้า-ออกห้องแต่อย่างใด

ครั้งนี้ตำรวจมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตึก พร้อมจะพังประตูเข้าไป อย่างไรก็ตาม ด้วยกฎหมายแล้วการพังประตูเข้าไปทั้งอย่างนั้นอาจทำให้ตำรวจโดนฟ้องได้ เจ้าหน้าที่ของตึกจึงห้ามไม่ให้ตำรวจใช้กำลังใดๆ และนี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ตำรวจตัดสินใจกลับสถานี โดยยังไม่มีใครที่รู้ชะตากรรมของรูธีเลย

ในวันถัดมา เพื่อนของนางรูธีก็ยังคงไม่ลดละความพยายาม เธอติดต่อส่วนกลางของอะพาร์ตเมนต์เพื่อทำการเจาะกลอนประตูเพื่อเข้าห้อง เมื่อประตูเปิดออกมาทุกคนจึงได้พบความจริงอันน่าหดหู่

สภาพห้องเต็มไปด้วยเลือดและกลิ่นเน่า โดยมีนางรูธีนอนเสียชีวิตจมกองเลือดตัวเอง จากบาดแผลกระสุน 4 นัดตามร่างกาย และเมื่อเข้าไปในห้องน้ำก็พบกับตู้กระจกที่หลุดออกจากผนัง แตกกระจายอยู่บนพื้นห้องน้ำ เผยให้เห็นช่องว่างระหว่างผนังเชื่อมห้องสองห้อง ที่ฆาตกรใช้เป็นช่องทางในการบุกเข้าทำร้ายเธอ

หลังจากการสืบสวนตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เช่าห้องข้างๆ ไม่ได้อาศัยอยู่นานแล้วมีการปล่อยให้เช่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนจะมาเช่าต่อห้องในอะพาร์ตเมนต์เมนเหล่านี้ เพื่อทำเป็นแหล่งซ่องสุมทำผิดกฎหมาย โชคร้ายของนางรูธีที่ห้องนั้นดันเป็นห้องข้างๆ ของเธอเอง

แม้ว่าภายหลังจะมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ถึง 2 คน แต่หลักฐานก็ไม่เพียงพอทำให้สุดท้ายคดีถูกยกฟ้อง และทำให้การเสียชีวิตของนางรูธียังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้

คดีการเสียชีวิตของนางรูธีกลายเป็นคดีที่ผู้คนพูดถึง แต่ไม่ใช่ในฐานะของ “คดีฆาตกรรม” แต่กลับเป็น “ตำนานเมือง” ที่เล่าเรื่องราวลึกลับว่าฆาตกรอาจโผล่ออกมาจากตู้กระจก ฉากที่เหยื่อกำลังส่องกระจกและถูกทำร้ายจากผีไม่ก็ฆาตกร กลายเป็นฉากขวัญใจที่มักพบได้ในหนังสยองขวัญ

หนึ่งภาพยนตร์ดังที่ใช้คดีนี้เป็นแรงบันดาลใจ ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง The Candy Man หนังแนว Slasher เหนือธรรมชาติ ในปี ค.ศ. 1995 ตัวหนังเล่าถึงตำนานของ “Candyman” ที่หากมีใครเอ่ยชื่อดังกล่าว 5 ครั้งหน้ากระจก จะเป็นการทำพิธีอัญเชิญวิญญาณพยาบาท ที่ตัวเต็มไปด้วยผึ้งและมีมือเป็นตะขอ มาสังหารผู้ทำพิธีนั้น

แม้ตัวหนังจะมีความลึกลับและระทึกขวัญ แต่อีกนัยก็เป็นการบอกเล่าความเป็นอยู่ของชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ลำบาก จนต้องพบจุดจบอย่างความรุนแรง เช่นเดียวกับชีวิตจริงของใครหลายๆ คน อย่างรูธี เมย์ แมคคอย นั่นเอง

ฟังเนื้อหาเต็มๆ ได้ที่ : https://youtu.be/P_CRptmrlAs

#MissionToPlutoPodcast
#TimeToPlayPodcast

Advertisements

 

Advertisements
Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า