หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงของ Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องที่โดดดังที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ ที่สร้างความสั่นผวาไปทั่วทั้งกรุงลอนดอนเมื่อปี ค.ศ. 1888 และไม่มีใครจับตัวหรือรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขามาจนถึงทุกวันนี้ จนเรื่องราวนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาดัดแปลงและเอ่ยถึงในแง่ วรรณกรรม ภาพยนตร์ สารคดี ละครเวที เกม หรือแม้แต่ในการ์ตูนเองก็มีเช่นกัน
แต่ใครจะรู้ ว่าจริงๆ แล้วชายผู้มีนามว่า “Jack the Ripper” ไม่ได้มีแค่คนเดียว..
กลายเป็นว่า 90 ปีหลังจากเหตุสะเทือนขวัญที่กรุงลอนดอน ณ เมืองแมนเชสเตอร์ เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.1975 มีเหยื่อที่ถูกฆาตรกรรมในลักษณะเดียวกันมากถึง 11 ศพ โดยมีรูปแบบการฆ่าที่คล้ายคลึงกับแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ คนแรกเมื่อ 90 ปีที่แล้วอย่างเหลือเชื่อ
คือเหยื่อทุกคนล้วนเป็น “หญิงสาวขายบริการ” โดยสถานที่พบศพมักอยู่ในที่สาธารณะหรือกึ่งสาธารณะ ทำให้หลายคนเชื่อว่านี่คือการทำพฤติกรรมเลียนแบบ หรือฝรั่งจะใช้คำว่า “Copycat” ซึ่งฆาตกรคนนี้ใช้เทคนิคและวิธีการฆ่าต่างๆ มาจากแจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ทุกอย่าง ราวกับเป็นคนเดียวกัน
แต่ที่แสบกว่า ร้ายกว่า และโหดเหี้ยมกว่าก็คือ เขามักจะส่งเทปบันทึกเสียงตัวเองไปให้หัวหน้าสืบสวนคดี เพื่อเป็นการ “ท้าทายตำรวจ” อารมณ์ประมาณว่า แน่จริงก็จับเขาให้ได้สิ
เหยื่อรายแรกของฆาตกรคนนี้คือ “คุณวิลมา แมคแคน” อายุ 28 ปี เป็นคุณแม่ลูก 4
มีพยานให้การว่า เขาเห็นเธอขึ้นรถบรรทุกไปกับผู้ชายคนหนึ่งในเวลาตีหนึ่ง ก่อนที่วันรุ่งขึ้น จะมีคนพบศพเธอจมกองเลือดอยู่ไม่ไกลจากจุดที่มีคนเห็นเธอขึ้นรถบรรทุกไป
ไม่กี่วันต่อมาที่เมืองฮาลิแฟค ก็มีเหยื่อรายที่ 2 และ 3 ถูกฆาตกรรมในลักษณะเดียวกัน
จำนวนเหยื่อ 3 รายในเวลาเพียงไม่กี่คืน ทำให้ตำรวจต้องวางกำลังอย่างรัดกุมเพื่อตามจับคนร้าย แต่เหมือนฆาตกรคนนี้จะ “ไหวตัวทัน” และหยุดก่อเหตุไปดื้อๆ
จนกระทั่งราว 1 ปีผ่านไป ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติ แต่แล้วในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 1977 ก็ปรากฏพบศพของเหยื่อรายที่ 4 คือคุณไอรีน แจ็คสัน ถูกพบเป็นศพที่ถูกฆาตกรรมในรูปแบบเดียวกันกับเมื่อปีที่ผ่านมา
ตำรวจมั่นใจว่าต้องเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้ เพราะอยู่ในเขตเมืองบริเวณใกล้กัน ลักษณะการก่อเหตุก็คล้ายกันอีกด้วย ตำรวจจึงเชื่อว่านี่ต้องเป็นฝีมือของ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ คนที่ 2 อย่างแน่นอน
ทางตำรวจเองได้มีการจัดตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาดูแลคดีนี้ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝีมือดีและทุ่มงบประมาณไม่อั้นเพื่อจับตัวฆาตกรคนนี้มาให้ได้ ซึ่งทุ่มงบประมาณไปมากถึง 120 ล้านบาท
เหยื่อรายที่ 5 เป็นเด็กหญิงวัยแค่ 16 ปี และเธอเป็นนักเรียน ไม่ใช่หญิงขายบริการ ทำให้ความหวาดผวาแพร่กระจายไปทั่วเมือง แถมยังมีการส่งเทปเสียงมาเยาะเย้ยตำรวจที่จับตัวเขาไม่ได้ ทางตำรวจจึงนำเทปนี้ไปเปิดในสถานีวิทยุ เผื่อว่าประชาชนจะจำเสียงฆาตกรคนนี้ได้และมาแจ้งเบาะแส
เบื้องต้นได้มีการสันนิษฐานว่า ฆาตกรต้องเป็นคนงาน ในบริษัทประเภทผลิตเครื่องจักรวิศวกรรม เพราะในเทปได้ยินเบาะแสเป็น “เสียงเครื่องจักร” ที่กำลังทำงาน โดยตัวเขามีอายุราวๆ 25-35 ปี ระดับการศึกษาไม่สูงมาก แต่มีความฉลาดและไหวพริบดีพอสมควร ส่วนหลักฐานอีกชิ้นก็คือ “นํ้าลาย” ที่ติดอยู่หลังแสตมป์และลายมือของฆาตกร
แถมมีเทปหนึ่งที่ฆาตกรยอมรับว่าจริงๆ ทางตำรวจเคยจับเขาได้แล้ว ระหว่างกำลังจะลวงหญิงสาวไปฆ่า แต่เขาก็รอดมาได้อยู่ดี เรียกว่าเยาะเย้ยกันสุดๆ
หลักฐานสองชิ้นถัดมาคือ “รอยรองเท้าบูต” ที่ทำให้ตำรวจทราบถึงขนาดและรูปร่างของฆาตกร และ “ธนบัตร” ใบละ 5 ปอนด์ ที่พบจากศพ ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นเงินที่ฆาตกรจ่ายให้เหยื่อก่อนจะลงมือฆ่า จากการตรวจสอบกับธนาคารแห่งชาติพบว่าเป็นธนบัตรที่จ่ายไปให้ธนาคารแห่งหนึ่งในแถบที่เกิดเหตุ
นักจิตวิทยาลงความเห็นว่า ฆาตกรคนนี้เป็น “คนโรคจิต” อยากมีชื่อเสียง สร้างเอกลักษณ์ด้วยวิธีการฆ่าแบบ Signature ของตัวเอง แถมเขาต้องวางศพไว้ในที่ที่มั่นใจว่าจะต้องมีคนมาพบเห็น เพราะถ้าไม่มีใครมาพบศพ เขาจะนำร่างของเหยื่อมาถอดเสื้อผ้าออก และย้ายที่ให้คนมาเจอในที่สุด
มีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด 11 ราย และใช้เวลาไป 250,000 ชั่วโมง ในการสืบหาตัวฆาตกร มีการสอบปากคำไปแล้วกว่า 140,000 คน หลักฐานอีก 20,000 ชิ้น ตำรวจมณฑลยอร์คเชียร์ตะวันตกก็ยังไม่ได้ตัวฆาตกรจวบจนทุกวันนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคดีที่สร้างความหวาดผวาและความน่ากลัวไว้ให้กับชาวเมืองอังกฤษเรื่อยมา
หากยังไม่จุใจและอยากฟังรายละเอียดของคดีมากขึ้น สามารถตามไปฟังกันต่อได้ที่ Time to Play EP.48 Multiverse | เมื่อโลกนี้ไม่ได้มี Jack The Ripper แค่คนเดียว!
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#plutomultiverse
#timetoplaypodcast
#filenotfoundpodcast
ดูเนื้อหาอื่นๆ ของ Time to Play ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/podcast/time-to-play/
