ENTERTAINMENTย้อนรอยคดีดังของญี่ปุ่นแต่งงาน เพราะหวังผล พอหมดประโยชน์ก็เผาทิ้ง

ย้อนรอยคดีดังของญี่ปุ่นแต่งงาน เพราะหวังผล พอหมดประโยชน์ก็เผาทิ้ง

คิดว่าอะไรทำให้คนเราเลือกที่จะแต่งงาน ความรัก? ความฝัน? การสร้างครอบครัว? หรือเพียงเพราะ “ผลประโยชน์” ที่คู่ชีวิตของเราสามารถมอบให้ได้ หากใช่ สิ่งนั้นจะถูกเรียกว่าความรักได้หรือไม่?

ฮิโรโนบุ ซูสุกิ (Hironobu Suzuki)

เริ่มต้นชีวิตแบบเด็กญี่ปุ่นธรรมดาๆ คนหนึ่ง เขาเกิดในปี 1981 โดยใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อและคุณแม่ ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น

พอหลังจากพ่อแม่แยกทางกัน 12 ฮิโรโนบุก็ต้องย้ายมาอยู่กับแม้แต่เพียงผู้เดียว เพียงแต่ว่าคุณแม่ของเขานั้น เป็นคุณแม่ที่ไม่ค่อยเอาใจใส่เท่าไหร่ ปล่อยให้ฮิโรโนบุทำทุกอย่างตามอำเภอใจ แถมยังไม่ค่อยติเตียนสั่งสอนอีก นั่นทำให้ฮิโรโนบุกลายเป็นเด็กที่มีปัญหา เขาไม่ชอบการไปโรงเรียน ไม่ค่อยสนใจการเรียน ทำให้ผลการเรียนของฮิโรโนบุเรียกว่าคาบลูกคาบดอก จะผ่านแหล่ไม่ผ่านแหล่มาตลอดในช่วงมัธยมต้น

โดยหลังจากจบมัธยมต้น ฮิโรโนบุก็ไม่สามารถจะสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมปลายได้เลยซักโรงเรียน ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็ไม่มีที่เรียน และกลายเป็นอันธพาลเต็มตัว ซึ่งการที่ฮิโรโนบุไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ควรจะอยู่ ไม่ได้อยู่ที่โรงเรียน ทำให้เขาพยายามไปหางาน part time เป็นพนักงานที่ร้านสะดวกซื้อ แต่พอหลังเลิกงาน เขาก็จะไปขลุกอยู่กับแก๊งอันธพาลของเขา ก่อเรื่องวุ่นวายแบบไม่เว้นวัน

การเข้าร่วมแก๊งอันธพาลทำให้ ฮิโรโนบุ ต้องถูกส่งไปยังศูนย์เยาวชนเนื่องจากความผิดในข้อหาขโมยรถและขโมยเงินจากร้านสะดวกซื้อที่เขาเคยทำงานด้วย แต่ด้วยความที่เขาเป็นเพียงแค่เยาวชน อยู่ได้ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกมา

ฮิโรโนบุก็ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไร ยังคงทำตัวเหลวแหลกเหมือนเดิม เผอิญไปทำผู้หญิงท้องจนต้องแต่งงานแบบงงๆ แต่แน่นอนว่าไม่นานนัก ทั้งคู่ก็ตัดสินใจแยกทางและหย่าร้างกันไปเนื่องจากฮิโรโนบุมีพฤติกรรมชอบทำร้ายร่างกาย

เวลาผ่านไม่นานหลังนั้น ฮิโรโนบุก็เริ่มคบกับผู้หญิงคนใหม่ทันที โดยเขาได้ย้ายข้าวของของตัวเอง ไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของฝ่ายหญิง แถมยังแอบไปเป็นชู้กับรูมเมตอีกคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ก่อนหน้า โดยรูมเมตคนนี้มีชื่อว่า ยูโกะ อิชิบาชิ (Yuko Ishibashi) หญิงสาววัย 16 ปี ที่หนีออกจากบ้านมาเพื่อประกอบอาชีพเป็นพนักงานโฮสต์ตามคลับบาร์

จุดเริ่มต้น ความรักจอมปลอม

หลังจากนั้นเขาก็เลิกกับแฟน และมาคบกับยูโกะแบบจริงจัง โดยเขาคิดว่า เพราะยูโกะสามารถหาเงินได้เยอะมาจากการเป็นพนักงานโฮสต์ มันก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะสามารถหลอกเอาเงินจากเธอได้ง่ายขึ้น พูดง่ายๆ ก็คืออยากจะเกาะยูโกะกินนั่นเอง

หลังจากที่คบหากันไปซักพัก ฮิโรโนบุก็เกิดไอเดียใหม่เพิ่มขึ้นอีก เขาคิดว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาอยากจะแต่งงานกับยูโกะไปซะเลย โดยที่เขาขอใช้นามสกุลของยูโกะแทน เพื่อที่ว่ามันสามารถช่วยให้เขาหนีพ้นจากพวกคนที่มาตามหนี้ที่เขาสะสมไว้อย่างมหาศาลได้ง่าย ซึ่งแน่นอน ว่ายูโกะก็ไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว เธอยินดีที่จะแต่งงานกับฮิโรโนบุและให้เขาใช้นามสกุลของตัวเอง เพราะเธอเองก็มีเหตุผลของเธอเช่นกัน

เพราะตอนนั้นยูโกะอยากจะยกระดับตัวเอง ไปทำงานตามสถานบันเทิงที่มีชื่อเสียงหรือคลับขนาดใหญ่มาตลอด แต่เธอทำไม่ได้เนื่องจากว่าเธอยังมีอายุเพียง 16 ปี ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอจึงคิดว่า ถ้าเธอยอมแต่งงานกับฮิโรโนบุ สถานะของเธอก็จะเปลี่ยนจากเด็กสาวอายุ 16 ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีเรียบร้อย สามารถหางานในคลับใหญ่ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหานั่นเอง

สุดท้ายทั้งคู่ก็แต่งงานกันในปี 2003 โดยทันทีที่เปลี่ยนนามสกุล ฮิโรโนบุ ก็เริ่มไปก่อหนี้ยืมสินใหม่ๆ ทันที ทั้งหนี้บัตรเครดิต ทั้งหนี้เงินกู้ผิดกฎหมายจากแหล่งต่างๆ ทันที ซึ่งพออยู่กินไปได้สักพัก ด้วยความที่ทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานเพราะรักกัน มันก็ทำให้พวกเขาเริ่มที่จะรับกันเองไม่ค่อยได้ จนในที่สุด ยูโกะก็ย้ายออกไปจากอพาร์ตเมนต์ ปล่อยให้ฮิโรโนบุอยู่คนเดียว พร้อมกับหนี้สินท่วมหัว

แค่แยกกันอยู่ยังไม่พอ ยูโกะต้องการหย่ากับฮิโรโนบุอีกด้วย แต่เธอก็ไม่ต้องการหย่าไปแบบฟรีๆเพราะเธอต้องเสียอะไรไปมากมายกับการแต่งงานกับฮิโรโนบุ เธอจึงทำการเรียกร้องและกับข่มขู่ฮิโรโนบุว่า หากเขาไม่จ่ายเงินชดเชยให้กับเธอ เธอจะแฉเรื่องราวความลับเรื่องหนี้สิน เรื่องแก๊งอันธพาล และอื่นๆ อีกมากมายของเขาให้กับตำรวจฟัง

การข่มขู่นี้ ทำเอาฮิโรโนบุกลัวมาก เขาไม่ต้องการกลับไปเข้าคุก ตอนนี้เขาไม่ใช่เยาวชนแล้ว เพราะฉะนั้นการรับโทษต่างๆ มันจะต้องหนักหนากว่าที่เขาเคยเผชิญมาแน่ๆ แต่การจะหาเงินไปให้ยูโกะตามที่เธอเรียกร้อง มันเป็นไปไม่ได้เลย ลำพังหนี้สินที่มีอยู่ทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่ ยังไม่มีปัญญาจ่าย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนมาให้ยูโกะ

ทางเดียวที่ฮิโรโนบุคิดออกก็คือ เขาจะกำจัดยูโกะทิ้งซะ โดยเขาตัดสินใจลงมือในวันที่ 30 กันยายน หรือเพียง 3 เดือนหลังจากที่ทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสกัน

Advertisements
Advertisements

หมดประโยชน์เมื่อไหร่ ก็ต้องเผาทิ้ง

โดยฮิโรโนบุ ได้โทรหายูโกะและบอกว่าจะรับเธอหลังเลิกงานเพื่อที่พวกเขาจะได้เคลียร์ปัญหาทั้งหมดที่มันคาราคาซังอยู่ แต่หารู้ไม่ว่า ฮิโรโนบุได้ไปกุเรื่องราวให้แก๊งอันธพาลของเขาฟังว่ายูโกะกำลังพยายามจะเปิดโปงความผิดของทั้งหมดของแก๊ง โดยฮิโรโนบุหวังว่าจะหลอกยืมมือแก๊งอันธพาลของเขาให้ฆ่ายูโกะแทน

และในเช้าตรู่วันที่ 1 ตุลาคม เวลา 02:30 น. ยูโกะก็เลิกงานกะดึกตามเวลา โดยฮิโรโนบุก็ขับรถไปรอรับเธอตามที่คุยกันไว้ จากนั้นเมื่อยูโกะขึ้นรถ เขาก็ขับตรงไปยังจุดนัดหมาย ที่ลานจอดรถ โดยมีแก๊งวัยรุ่น 4 คนรออยู่ เมื่อฮิโรโนบุจอดรถนิ่งสนิท กลุ่มอันธพาลวัยรุ่นก็รีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูรถและกระชากตัวยูโกะออกจากรถทันที

ไม่รอช้า วัยรุ่นทั้ง 4 คนรุมต่อยและกระทืบเธออย่างไม่ยั้ง ยูโกะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอพยายามขอร้องให้ฮิโรโนบุช่วย แต่เขากลับมองมาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเริ่มทุบเธอด้วยค้อนหลายครั้ง ซึ่งไม่นานนัก ยูโกะก็นอนแน่นิ่งเลือดอาบอยู่บนพื้น แต่ดูเหมือนตอนนั้นเธอยังคงมีชีวิตอยู่ และมีเสียงครวญครางเบาๆ ออกมา

ฮิโรโนบุและแก๊งวัยรุ่นได้มองไปยังป้ายหลุมฝังศพที่ทำจากหิน โดยมันมีน้ำหนักราวๆ 70 กก. โดยพวกเขาได้ช่วยกันยกป้ายหลุมศพหินนั้น ก่อนจะโยนมันลงบนศีรษะของยูโกะ ทำให้ใบหน้าของเธอแตกละเอียดทันทีแบบไม่เหลือเค้าเดิม เรียกว่าใครมาเห็นก็ไม่มีทางดูออกว่าเป็นใคร

เพื่อเป็นการปิดงาน ฮิโรโนบุและแก๊ง ก็ได้ช่วยกันเทน้ำมันไฟแช็กที่ซื้อมาทั้งหมดลงบนร่างไร้วิญญาณของยูโกะ ก่อนจะจุดไฟเธอทันที โดยพวกเขามองดูร่างของยูโกะ เสื้อผ้า ทรัพย์สิน และทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ มอดไหม้กลางกองเพลิง จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนกระทั่ง 03.30 น. พวกเขาก็ขับรถหลบหนีไป

จนกระทั่งช่วงเช้าของวันต่อมาประมาณ 7.00 น. ได้มีนักวิ่งคนหนึ่งสังเกตเห็นบางสิ่งที่กำลังลุกไหม้อยู่ และเมื่อเขาเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า มันคือซากศพของมนุษย์ที่ไหม้เกรียมเป็นตอตะโก ซึ่งคดีนี้ก็กลายเป็นคดีใหญ่ทันที มีการออกข่าวไปทั่วประเทศ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะการกระทำนี้เรียกว่าอำมหิตเกินมนุษย์จริงๆ

ส่วนฮิโรโนบุพอเห็นว่าออกข่าวใหญ่โต ก็พยายามทำตัวบริสุทธิ์ด้วยการ โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ตรวจ โดยบอกว่าภรรยาของเขาหายตัวไป หลังจากที่เขาไปรับเธอหลังเลิกงาน ก่อนจะไปส่งเธอที่สถานีรถไฟ เนื่องจากเธอมีนัด จะไปหาเพื่อนต่อ จากนั้นเขาก็ติดต่อเธอไม่ได้แล้ว

พอเห็นอย่างนี้ ก็มีสื่อไปขอสัมภาษณ์เขามากมาย ซึ่งฮิโรโนบุก็มีวาทศิลป์ที่ดีมากๆ คำพูดของเขาดูซาบซึ้งกินใจ บอกว่าเป็นห่วงภรรยา คิดถึงภรรยามาก แต่สิ่งหนึ่งที่มีคนรู้สึกผิดสังเกตก็คือ ไม่ว่าเขาจะพูดถึงเรื่องนี้กี่ครั้ง เขาไม่เคยเอ่ยชื่อของภรรยาเลย เขามักจะใช้คำว่า “เหยื่อ” แทนตลอด

ตำรวจเองก็สงสัย จึงได้ติดต่อ ฮิโรโนบุเพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก โดยฮิโรโนบุก็เล่าว่า เขากับยูโกะ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนัก นั่นก็เพราะ ตัวยูโกะมีปัญหาทางการเงินอยู่มากมาย นั่นทำให้พวกเขามักจะทะเลาะกันเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ ฮิโรโนบุยังคงทำไขสือ เล่นบทสามีผู้เป็นห่วงภรรยา

แต่ 5 วันหลังจากที่ตำรวจค้นพบศพ ตำรวจได้ไปค้นพบหลักฐานหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือภาพในกล้องวงจรปิดของร้านค้า ที่ ฮิโรโนบุและแก๊งของเขา เข้าไปซื้อน้ำมันไฟเแช็คนั่นเอง แถมตำรวจยังพบอีกว่า พ่อแม่ของยูโกะนั้นไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว โดยพวกเขาเพียงจดทะเบียนสมรสกันเพื่อผลประโยชน์ล้วนๆ

จากภาพในกล้องวงจรปิดทำให้ตำรวจสามารถตามหาแก๊งวัยรุ่นอันธพาลอีก 4 คนได้ไม่ยาก และหลังจากนำตัวมาสอบปากคำ เหล่าวัยรุ่นในแก๊งทั้งสี่ ก็ ยอมรับสารภาพอย่างรวดเร็วว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำร้ายยูโกะ

สิ่งนี้เองทำให้ฮิโรโนบุก็ดิ้นไม่หลุดทั้งหลักฐานและพยานหนาแน่นขนาดนี้ เขาจึงยอมรับเขาเป็นคนลงมือว่าฆ่ายูโกะเอง จากนั้นฮิโรโนบุและคนในแก๊งที่ร่วมกระทำการ ได้ถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยทันที

วัยรุ่นทั้งสามในสี่คนที่ช่วยฮิโรโนบุ ยังเป็นเยาวชน พวกเขาจึงถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและทำลายศพ โทษคือถูกส่งตัวเข้าคุกเยาวชนเป็นเวลา 5-10 ปี ส่วนอีกหนึ่งคน ร่วมกันทำร้ายยูโกะ เพียงแต่ไม่มีส่วนร่วมในการเผาศพ ก็คือไม่โดนโทษทำลายศพ เขาจึงได้รับโทษเป็นการถูกส่งไปยังเรือนจำเยาวชน เป็นเวลา 3 ถึง 5 ปี

ส่วนฮิโรโนบุเอง เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมและทำลายร่างกาย โดยได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต โดยทาง ฮิโรโนบุเองก็ไม่ยื่นอุทธรณ์แต่อย่างใด นั่นทำให้คำพิพากษาคดีนี้ได้สิ้นสุดลง โดยในปัจจุบัน ฮิโรโนบุก็กำลังรับโทษจำคุกตลอดชีวิตอยู่ต่อไปในเรือนจำ


สามารถรับฟัง File Not Found EP. 130 | (Girl) Friend with Benefits รักหยอก จึงหลอกฆ่า แบบเต็มๆ ได้ที่: https://youtu.be/zvNVTuQCqoM


#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast

 

Advertisements

LASTEST ARTICLES

LASTEST PODCAST

Mission To The Moon
Mission To The Moon
พื้นที่ที่สร้างขึ้นเพื่อแบ่งบันเรื่องราวเกี่ยวกับการทำธุรกิจ การตลาด แรงบันดาลใจ และข้อคิดในการใช้ชีวิต

POPULAR ARTICLES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้งานและเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างเป็นปกติ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถบล็อคการใช้งานคุกกี้ได้จากเบราว์เซอร์ที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับการใช้งานเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์และวัดผลการทำงาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า