เกิดอะไรขึ้นกับ “Flight 19” เปิดแฟ้มคดีฝูงบินรบ ที่พากันหายไปอย่างลึกลับ

707
Flight 19

ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2488 เวลาราวบ่ายสองโมง ฝูงบินทิ้งระเบิด “TBM Avenger” จำนวน 5 ลำ หรือที่รู้จักกันในนาม “Flight 19” ได้บินออกจาก ลอเดอร์เดล รัฐฟลอริดา เพื่อซ้อมบินเป็นเวลา 3 ชั่วโมง โดยมีแผนเส้นทางการบินเป็นรูปสามเหลี่ยม จุดหมายแรกคือทิศตะวันออกจากชายฝั่งฟลอริดา จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางบินไปทิศเหนือ และสุดท้ายบินกลับฐานทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ในช่วงแรกของการบิน ทุกอย่างราบรื่นตามปกติ พวกเขาใช้เวลาบินผ่านจุดหมายแรกแค่ 20 นาที แต่ความแปลกประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นในช่วงที่สองของการบิน หลังจากที่เปลี่ยนทิศทางเพื่อขึ้นเหนือ

จู่ๆ ท้องฟ้าก็เกิดเมฆหนาทึบ ลมฝนกระโชกแรง ตอนนั้นร้อยโทชาร์ลส์ ซี เทย์เลอร์ กัปตันของเที่ยวบิน ได้สังเกตว่าเข็มทิศเริ่มทำงานผิดปกติ และเครื่องบินกำลังมุ่งหน้าไปผิดทาง ทั้งฝูงบินสับสน ตื่นตระหนก หนึ่งในนักบินได้พูดไว้ว่า “ผมไม่รู้เลยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน เราต้องหลงทางแล้วแน่ๆ”

Advertisements

คนแรกที่ได้ยินข้อความจากวิทยุสื่อสารของฝูงบินนี้คือ “ร้อยโทโรเบิร์ต เอฟ. ค็อกซ์” ครูฝึกสอนการบินอีกคน ซึ่งกำลังบินอยู่บริเวณใกล้ๆ ชายฝั่งฟลอริดา

ร้อยโทโรเบิร์ต ติดต่อไปยังสถานีบังคับการทันที จากนั้นได้ติดต่อฝูงบิน เพื่อเตรียมเข้าช่วยเหลือ โดยกัปตันเที่ยวบิน (ร้อยโทเทย์เลอร์) ได้พูดกับร้อยโทโรเบิร์ต ด้วยน้ำเสียงกังวลว่า

“เข็มทิศทั้งสองอันของผมพังหมดเลย และผมกำลังพยายามหา เมืองลอเดอร์เดล” ตอนนี้ผมมั่นใจว่าผมอยู่บริเวณหมู่เกาะฟลอริดา แต่ไม่รู้ว่าอยู่สูงแค่ไหน”

ข้อสังเกตคือ คำพูดของร้อยโทเทย์เลอร์ ฟังดูแปลกมาก เพราะจากเส้นทางที่กำหนดไว้ แล้วพิจารณากับระยะเวลา มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลุดออกนอกเส้นทาง ไปอยู่แถบหมู่เกาะ ซึ่งไกลออกไปกว่าร้อยไมล์ได้เร็วขนาดนั้น

โดยทั่วไป ถ้าคนที่บินประจำอยู่ในแถบมหาสมุทรแอตแลนติก รู้ตัวว่ากำลังจะหลงทาง ก็จะต้องรีบมุ่งหน้าไปทิศตะวันตก เพื่อกลับแผ่นดินใหญ่

แต่ในวันนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้ร้อยโทเทย์เลอร์ เชื่อว่าเขาอยู่บริเวณอ่าวเม็กซิโก ทำให้เขาตัดสินใจพาฝูงบินมุ่งไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมันจะพาพวกเขาออกทะเลไปไกลยิ่งกว่าเดิม

ในตอนนั้นดูเหมือนนักบินบางคนจะรู้แล้วว่าพวกเขากำลังทำพลาดมหันต์ หนึ่งในนั้นหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาพูดว่า “เวรเอ๊ย ถ้าเราบินไปทิศตะวันตกตั้งแต่แรก เราก็ได้กลับบ้านแล้ว”

ในที่สุดร้อยโทเทย์เลอร์ ก็ยอมเปลี่ยนเส้นบางบินกลับไปทิศตะวันตก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยกเลิกเส้นทาง และตัดสินใจให้ฝูงบินมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกอีกครั้ง โดยกล่าวว่า “เราไม่ได้ไปทางตะวันออกไกลพอ” และเขายังคงคิดว่าตัวเองนั้นยังไม่หลุดออกจากบริเวณอ่าวเม็กซิโก

มีหลายคนเชื่อว่า การตัดสินใจของร้อยโทเทย์เลอร์ในวันนั้น น่าจะมีนักบินบางคนที่ไม่เห็นด้วย และตัดสินใจบินแยกออกจากฝูงมา แต่สุดท้ายก็กลับมาไม่ถึงฐานทัพอยู่ดี

เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ การติดต่อสื่อสารกับฝูงบินนี้ ก็เริ่มจะขาดหายไป พร้อมกับเชื้อเพลิงที่กำลังจะหมดลง จากนั้นเสียงสื่อสารก็กลับมาอีกครั้ง

ในครั้งนี้ เป็นข้อความที่เขาสั่งให้เครื่องบินทุกลำ เตรียมตัวลงจอดในทะเล และเสียงสุดท้ายจากฝูงบินนี้ คือเสียงคลื่นปริศนาชวนขนลุก ที่น่าจะเกิดขึ้นพร้อมความพินาศของทั้งฝูงบิน

Advertisements

ในวันเดียวกันนั้นเอง กองทัพได้สั่งเรือเหาะ PBM Mariner พร้อมลูกเรือ 13 ชีวิต ออกบินตามหาฝูงบินที่หายตัวไป แต่แค่ 20 นาทีต่อมาพวกเขาก็ได้ตามรอย “Flight 19” หายออกไปจากเรดาร์ และไม่ได้กลับมาอีกเลย

เช้าตรู่วันถัดมา กองทัพยังคงพยายามตามหาฝูงเครื่องบินที่หายตัวไป ส่งเรือและเครื่องบินกว่า 300 ลำออกค้นหา โดยกินพื้นที่ไปกว่า 300,000 ตารางไมล์ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา

เหตุการณ์นี้ ได้ถูกพูดถึงในฐานะเรื่องลึกลับ หาคำตอบไม่ได้ มีทฤษฎีมากมายที่พยายามจะหาคำตอบทั้งในเชิงลี้ลับและวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น “อาถรรพ์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า” “ทฤษฎีสนามแม่เหล็กไฟฟ้า” “มิติคู่ขนาน” และ “มนุษย์ต่างดาว”

นอกเหนือจากทฤษฎีลึกลับข้างต้น แม้แต่ในข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ก็ยังคงมีปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวร้อยโทเทย์เลอร์ และนักบินในภารกิจทุกคน

เพราะในเวลาต่อมามีพยานหลายคนได้ให้การว่า วันนั้นร้อยโทเทย์เลอร์ อยากจะถอนตัวจากภารกิจ โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ เขาแค่ยืนกรานว่า “ผมไม่อยากนำเครื่องบินออกไป”

ในส่วนของนักบินในฝูง ก็ไม่มีใครได้ใช้คลื่นความถี่วิทยุกู้ภัย ทั้งๆ ที่มันสามารถช่วยพวกเขาได้ ซึ่งพวกเขาได้รับคำสั่งให้เปิดอุปกรณ์ช่วยเหลือนี้แล้ว แต่ไม่มีใครตอบรับและทำตาม

ในส่วนของข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Flight 19 ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด แต่ทฤษฎีที่น่าจะเป็นไปได้ คือพายุในวันนั้นก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก ทำให้เข็มทิศใช้การไม่ได้ จนทุกคนหลงทาง แล้วเชื้อเพลิงหมด จากนั้นก็ตกสู่ทะเล

และถึงแม้ว่านักบินในวันนั้นจะมีชั่วโมงบินสูงถึง 300 ชั่วโมง แถมนำโดยกัปตันอย่างร้อยโทชาร์ลส์ ซี. เทย์เลอร์ ที่เป็นทหารมากประสบการณ์ ผู้เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว แต่ความจริงร้อยโทเทย์เลอร์ เพิ่งย้ายจากไมอามี่ มาประจำการที่ลอเดอร์เดล เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะสับสนตำแหน่งของหมู่เกาะในบริเวณนี้ เลยหลงทางได้ง่าย 

ส่วนกรณีการหายไปของ PBM Mariner หลังจากที่ออกตามหาฝูงบิน Avenger น่าจะเป็นเพราะแก๊สรั่วแล้วระเบิดกลางอากาศ ยืนยันจากพยานที่เป็นเรือสินค้า ซึ่งแล่นผ่านวันนั้น พวกเขาอ้างว่าเห็นลูกไฟกลางอากาศ และมีหลักฐานพบคราบน้ำมันในมหาสมุทร

แปลและเรียบเรียงจาก:
https://bit.ly/3oxPVgS

#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#mystery

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่ https://missiontothemoon.co/category/entertainment/

Advertisements