Catfishing หรือ Catfish
Catfishing หรือ Catfish คือ การใช้ภาพคนอื่นมาแอบอ้างว่าเป็นตัวเองแล้วเอาไปหลอกจีบ หลอกคุยกับคนอื่นบนโลกออนไลน์ และนี่ก็คือเรื่องราวของเด็กสาวไร้เดียงสาคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เรเน่ มาร์สเดน (Renae Marsden) ซึ่งเธอเองก็ตกเป็นเหยื่อของการ Catfish จนกลายเป็นคดีอันแสนเศร้าและทำร้ายหัวใจ
เรเน่ มาร์สเดน เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1992 ที่โรงพยาบาลแฟร์ฟิลด์ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยความที่พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอต้องโตขึ้นมาภายใต้การเลี้ยงดูของคุณแม่เพียงลำพังที่ชื่อว่า เทเรเซ่า แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะสองแม่ลูกคู่นี้สนิทสนมกันมาก
จนกระทั่งตอนที่เรเน่อายุได้ 5 ขวบ เทเรซ่าก็ได้พาเรเน่ไปอาศัยอยู่กับแฟนใหม่ ชื่อว่า มาร์ค มาร์สเดน (Mark Marsen) ทำให้ทั้ง 3 คนเป็นครอบครัวเดียว ซึ่งการย้ายมาอยู่กับมาร์คเองก็ไม่ได้สร้างปัญหากับสองแม่ลูกเช่นเดียวกัน พวกเขาเข้ากันได้และดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี จนกระทั่งปี 2010 ซึ่ง ณ ตอนนั้น เรเน่อายุได้ 18 ปี ซึ่งเป็นตอนที่เธอได้ตัดสินใจใช้นามสกุล “มาร์สเดน” ของมาร์คผู้เป็นพ่อเลี้ยง
รักครั้งใหม่ที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล
ณ ตอนนั้น เรเน่ กำลังอกหัก หลังจากที่รู้ว่าแฟนหนุ่มที่คบกันมา 2 ปี นอกใจ แต่เธอก็สามารถมูฟออนได้ภายในเวลาไม่นาน เนื่องจากว่าเพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อว่า คามิล่า ไซแดน (Camila Zeidan) ได้แนะนำให้เรเน่ได้รู้จักกับชายหนุ่มที่ชื่อว่า เบรย์เดน สปิเทรี (Brayden Spiteri) ซึ่งพอเรเน่เห็นเพียงแค่รูปถ่ายของเขาก็รู้สึกตกหลุมรักเข้าในทันที
แต่มันก็มีความแปลกนิดหนึ่งก็คือ เบรย์เดน ชายหนุ่มที่คามิล่าแนะนำให้เรเน่รู้จักนั้น คือแฟนเก่าของตัวคามิล่าเอง ทำให้ตอนแรก เรเน่ก็รู้สึกแปลกหน่อยๆ ที่ต้องมาคบกับแฟนเก่าของเพื่อนสนิท แต่คามิล่าก็ยืนยันว่าไม่เป็นไร ดังนั้นเรเน่สบายใจได้เลยถ้าอยากจะคบกับเบรย์เดน จึงทำให้เรเน่เริ่มคบกับเบรย์เดน ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเจอกันแม้แต่หนเดียว
ความสัมพันธ์ของเรเน่และเบรย์เดนเป็นไปได้ดีมากๆ แม้ว่าพวกเขายังไม่เคยพบหน้ากันเลย พวกเขาคบกันแบบ ความสัมพันธ์ระยะไกล (Long-Distance Relationship) แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยทั้งคู่ส่งข้อความหากันแทบจะตลอดเวลา ทั้งคู่พยายามนักเจอกันบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักที เพราะเมื่อถึงวันนัดหมายทีไร ก็มักจะมีเหตุให้นัดล่มตลอด จนกระทั่งถึงเดือนมกราคม 2012 ก็มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
เรเน่ได้รับข่าวร้ายว่า เบรย์เดน ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์อย่างรุนแรง โดยแม้ว่าเขาจะรอดชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่เพื่อนสนิทของเบรย์เดนที่นั่งซ้อนท้ายไปด้วยกันกลับโชคร้ายเสียชีวิตคาที่ และจากอุบัติเหตุครั้งนี้ เบรย์เดนก็ถูกตัดสินให้มีความผิด ต้องจำคุก 2 ปี
ด้วยความรักที่เรเน่มีให้เบรย์เดนนั้น เธอไม่ยอมแพ้และยังคงพยายามจะสานสัมพันธ์กับเบรย์เดนต่อ เริ่มต้นจาก ครอบครัวของเบรย์เดน แอบลักลอบเอาโทรศัพท์ไปให้เขาในคุกได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เบรย์เดน สามารถส่งข้อความหาเรเน่ได้จากภายในคุกได้ ทั้งคู่จึงพยายามส่งข้อความหากันบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แถมยังคุยกันเรื่องการแต่งงานหลังจากที่เบรย์เดนออกจากคุกด้วย
เรเน่ได้ติดต่อช่างภาพงานแต่งงาน ผู้จัดงานต่างๆ หรือแม้แต่การไป ซื้อมงกุฎ สำหรับเป็นเครื่องตกแต่งชุดเจ้าสาวในงานแต่งงานของเธออีกด้วย แต่ทุกอย่างก็เหมือนพังทลายลงไป เพราะจู่ๆ ทั้งคู่ก็เริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยขึ้น การพูดคุยก็ไม่ค่อยจะลงตัวเหมือนเดิม จนสุดท้าย ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเลิกรากันในวันที่ 5 สิงหาคมปี 2013 ก่อนที่เบรย์เดนจะออกจากคุกเพียง 2 เดือนเท่านั้น
การตัดสินใจครั้งสำคัญของเรเน่
หลังจากเลิกกับเบรย์เดน เรเน่เสียใจมาก เธอแทบจะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้โดยไม่มีเบรย์เดน โดยที่เรเน่เริ่มมีการพูดถึงการทำร้ายและจบชีวิตของตัวเอง แต่เธอก็เข้มแข็งผ่านมาได้ จนเรเน่ได้ตัดสินใจว่า เอาล่ะ คืนนี้ เธอจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆ อย่างมีความสุข โดยเธอก็บอกกับแม่ว่าจะออกไปเที่ยวคืนนี้เอาไว้และจะไม่กลับบ้านดึก
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เรเน่ออกจากบ้านไป เทเรซ่า แม่ของเรเน่ ก็ได้รับข้อความจากเธอว่า “แม่คะ หนูรักแม่มาก หนูขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ทำให้แม่ต้องรู้สึกความเจ็บปวด แม่ยังคุยกับหนูได้เสมอนะ แค่เรียกชื่อหนู หนูจะไปอยู่ที่นั่นทันที” จากนั้นไม่ว่าใครก็ไม่สามารถติดต่อเรเน่ได้อีกเลย
ไม่ใช่แค่เทเรซ่าเท่านั้นที่ได้รับข้อความดังกล่าว คามิล่าผู้เป็นเพื่อนสนิทก็ได้รับข้อความนั้นด้วย จึงทำให้ทั้งคู่รีบออกตามหาเรเน่ทันที แต่ไม่ว่าจะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนมีตำรวจมาแจ้งข่าวร้ายว่าพวกเขาได้พบรถของเรเน่จอดอยู่ที่ The Gap หน้าผาสูงชันที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรเลีย
The Gap แห่งนี้ มีลักษณะเป็นหน้าผาหินสูงชันติดทะเล ซึ่งเป็นบริเวณปากทางเข้าไปสู่ท่าเรือซิดนีย์ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ในขณะเดียวกัน มันยังเป็นสถานที่ยอดนิยม สำหรับคนที่ต้องการจบชีวิตของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะในแต่ละปี จะมีคนมากระโดดหน้าผานี้เพื่อจบชีวิตตัวเองมากกว่า 50 คนและมากขึ้นเรื่อยๆ
และหลังจากไปตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV ในบริเวณนั้น พวกเขาก็พบภาพของเรเน่ ที่กำลังยืนอยู่ปลายหน้าผา ส่งข้อความหาใครสักคน ซึ่งก็คือ เทเรซ่าผู้เป็นแม่ คามิล่าเพื่อนสนิท และเบรย์เดนแฟนเก่า จากนั้นเธอก็กระโดดลงไปในความมืด โดยภายหลังก็ได้มีการพบร่างไร้วิญญาณของเธอในเวลาต่อมา
ครอบครัวของเรเน่เสียใจมาก รวมถึงเทเรซ่าเองก็พยายามติดต่อเบรย์เดนหลังจากที่ได้มีการยืนยันการเสียชีวิตของเรเน่เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถติดต่อกับเบรย์เดนได้เลย แต่เทเรซ่าจำได้ว่าเบรย์เดนนั้นยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ โกลเบิร์น เธอจึงได้ส่งคำร้องว่า เขาอยากพบกับนักโทษที่ชื่อ เบรย์เดน สปิเทรี เพื่อแจ้งข่าวการเสียชีวิตของลูกสาวเธอ แต่สิ่งที่เรือนจำตอบมาคือ ” ไม่เคยมีนักโทษที่ชื่อ เบรย์เดน สปิเทรี ในเรือนจำแห่งนี้เลย”
ความรักที่หักหลังเพื่อนรักที่หักเหลี่ยม
พอเรือนจำตอบกลับมาแบบนี้ เทเรซ่าก็แทบช็อก แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา ลูกสาวของเธอกำลังคุยอยู่กับใครกันแน่ เทเรซ่าจึงเอาโทรศัพท์ของเรเน่ไปให้ตำรวจได้เอาข้อมูลไปตรวจสอบว่า ข้อความนี้ส่งมาจากโทรศัพท์มือถือเบอร์ไหน ใครคือผู้ที่ลงทะเบียนเบอร์นี้ ซึ่งปรากฏว่าแท้จริงแล้ว ทุกๆ ข้อความจากเบรย์เดนนั้นถูกส่งมาจากโทรศัพท์มือถือของ คามิล่า ไซแดน เพื่อนสนิทของเรเน่เอง
สิ่งนี้เป็นหลักฐานชี้ชัดเลยว่า เบรย์เดน ไม่มีตัวตนจริงๆ แต่เขาคือ ตัวละครสมมุติที่ คามิล่า สร้างขึ้นมา โดยตำรวจได้มีการไปสืบหาประวัติและข้อมูลต่างๆ ของคามิล่า จากทั้งเพื่อนๆ ของพวกเธอก็พบว่า คามิล่าเป็นเพื่อนรักกับเรเน่ตั้งแต่สมัยที่พวกเขาพบกันในโรงเรียนมัธยม ซึ่งคามิล่า เป็นคนที่มีบุคลิกที่ชอบควบคุม ชอบบงการ เธอมักจะคอยบอกเรเน่ให้ทำตามที่เธอต้องการอยู่เสมอ แถม คามิล่า ยังชอบมีอาการหึงหวงเรเน่อยู่บ่อยครั้ง แทบทุกครั้งที่เรเน่มีแฟน เธอจะไม่ชอบใจ ชอบพูดให้ร้ายคนที่เรเน่คบ
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เรเน่ ได้ส่งข้อความระบายกับเบรย์เดน ว่า เธอรู้สึกมาตลอดว่า คามิล่า เป็นเพื่อนที่ Toxic มากๆ และชอบควบคุมชีวิตของเธอ ตอนนี้เธอเริ่มหมดความอดทนกับคามิล่า และไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธออีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อ่านก็คือ คามิล่า ทำให้เธอโกรธมากๆ เพราะที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อหวงแหนตัวเรเน่ไว้ แต่เรเน่กลับทรยศเธอ คามิล่าเลยตัดสินใจใช้ตัวตนเบรย์เดนบอกเลิกกับเรเน่ เพื่อเป็นการแก้แค้น
แต่แทนที่จะเลิกแล้วต่อกันไปเลย เรเน่กลับโทรหาเรือนจำโกลเบิร์นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเบรย์เดน ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกเลย ที่เธอพยายามจะติดต่อเขาผ่านการโทรศัพท์และสิ่งนี้เอง ทำให้เรเน่รู้ว่า ที่เรือนจำนั้น ไม่มีคนชื่อ เบรย์เดนอยู่มาก่อน
เรเน่จึงรู้ความจริงว่า คนที่เธอรักและอยากจะแต่งงานด้วยนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง สิ่งนี้มันสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับเรเน่เป็นอย่างมาก ความไว้ใจ เชื่อใจ และความรักของเธอ เหมือนถูกใครบางคนกำลังเล่นตลกอยู่ องค์ประกอบทั้งหมดนี้เอง ทำให้เรเน่ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองด้วยการกระโดดหน้าผา
อย่างไรก็ตาม ที่น่าเศร้ายิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในคดีนี้ คามิล่าไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ สำหรับการกระทำของเธอเลย เพราะการ Catfish หรือหลอกลวงผู้อื่นในโลกอินเทอร์เน็ตนั้น ไม่เป็นอาชญากรรมในประเทศออสเตรเลียในเวลานั้น สิ่งนี้ทำให้ครอบครัวของเรเน่ไม่สามารถเอาผิดอะไรในทางกฎหมายกับ คามิล่า ได้เลย แถม คามิล่าก็ไม่เคยออกมาสารภาพหรือรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองแม้แต่น้อย
ที่สำคัญ แม้เหตุการณ์นี้มันจะร้ายแรงถึงกับพรากชีวิตของลูกสาวอันเป็นที่รักจากแม่คนหนึ่งไป ซึ่งจวบจนวันนี้ คามิล่า ก็ไม่เคยแม้แต่จะขอโทษ ในสิ่งที่เธอทำลงไป แม้แต่ครั้งเดียว
สามารถรับฟัง File Not Found EP. 134 | ความรักที่หักหลัง เพื่อนรักที่หักเหลี่ยม
กับคดีเหี้ยมที่หักมุม! แบบเต็มๆ ได้ที่: https://youtu.be/PDU3D9YDfnc
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast