ในอดีตคนเคยเชื่อกันว่าพายรสที่คนอเมริกันชื่นชอบมากที่สุดคือ “พายรสแอปเปิล” เพราะ Data ยอดขายบอกว่าพายรสนี้ขายดีที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อซูเปอร์มาร์เก็ตหันมาขายพายที่มีขนาดเล็กลง ยอดขายพายรสแอปเปิลกลับร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 4-5
เกิดอะไรขึ้น
สาเหตุเป็นเพราะ “ขนาด” ของพายที่เปลี่ยนไปนั่นเอง
ในอดีต ซูเปอร์มาร์เก็ตขายเฉพาะพายขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว พายที่ถูกเลือกจึงไม่ใช่รสโปรดของแต่ละคน แต่เป็นรสชาติกลางๆ ที่ทุกคนในครอบครัวพอกินได้ ซึ่งมักจะเป็นรสแอปเปิล แต่เมื่อมีพายขนาดเล็กกว่าวางขาย แต่ละคนเลยสามารถเลือกรสที่ตัวเองต้องการได้ จากการซื้อพาย 1 ถาดใหญ่รสเดียว เลยกลายเป็นการซื้อพายชิ้นเล็กหลากรส 6-7 ชิ้น
Data เกี่ยวกับการซื้อที่ละเอียดมากขึ้นทำให้เราได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และยังช่วยให้เราเห็นชัดกว่าเดิม อย่างในกรณีนี้ เพราะ Data เราจึงได้รู้ว่าพายที่คนอเมริกันชื่นชอบที่สุดจริงๆ แล้วไม่ใช่รสแอปเปิลอย่างที่เคยเข้าใจกัน
ในโลกยุคดิจิทัล ชีวิตประจำวันของคนเราผูกพันกับเทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งในด้านการงานและชีวิตส่วนตัว เราอยู่กับเทคโนโลยีตั้งแต่ลืมตาตื่นจนถึงก่อนเข้านอน พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนี้ส่งผลให้ Data จำนวนมากถูกผลิตออกมาแทบจะตลอดเวลา ทั้งจากความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการซื้อของออนไลน์ ทุกการกระทำของมนุษย์คนหนึ่งกลายเป็นข้อมูลอันล้ำค่า
โดยข้อมูลจำนวนมากนี้ถูกเรียกว่า “Big Data” ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจในโลกปัจจุบัน เพราะมีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น
-
รู้ข้อมูลเชิงลึก (Insights) ของพฤติกรรมผู้บริโภค
Big Data สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกในด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและชาญฉลาดมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบสนองความต้องของผู้บริโภคได้ดีขึ้นอีกด้วย
-
ช่วยในด้านการจัดการความเสี่ยง (Risk Management)
ในโลกของธุรกิจ ความเสี่ยงมีอยู่ทุกๆ ที่ตั้งแต่ระดับองค์กรไปถึงระดับโปรเจกต์ที่เล็กที่สุด โดย Big Data จะช่วยให้องค์กรบริหารจัดการความเสี่ยงได้ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และหาหนทางป้องกันและรับมือล่วงหน้า
-
รู้เท่าทันและแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
ในอดีตที่ยังไม่มีการเก็บข้อมูลและนำข้อมูลมาใช้ หลายๆ องค์กรตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือความรู้สึก ส่งผลให้สินค้าและบริการที่ออกมาอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่คิด แต่ Big Data จะช่วยให้เราสามารถนำข้อมูลที่มี ตั้งแต่พฤติกรรมของลูกค้า แนวโน้มการตลาด และอื่นๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนการตัดสินใจ ออกแบบสินค้าและบริการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น และเอาชนะคู่แข่งในตลาดได้
อย่างไรก็ตาม การจะเปลี่ยนองค์กรให้เป็น “Data-Driven Organization” ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
รายการ Mission To The Moon Interview ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ดร. แป้ง อสมา กุลวานิชไชยนันท์ CEO และ Co-Founder บริษัท คอราไลน์ จำกัด ที่ให้บริการ Big Data Solution หรือการแก้ปัญหาทางธุรกิจด้วย Big Data ในเรื่องการปรับตัวของธุรกิจในยุคที่เครื่องมืออย่าง AI และ Machine Learning ได้เข้ามามีบทบาท
จากประสบการณ์ของ ดร. แป้ง อสมา พบว่ามีความท้าทายหลายอย่างในการเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Data-Driven Organization เช่น บริษัทยึดติดกับการซื้อระบบสำเร็จรูปมากกว่าการพัฒนาระบบเอง โครงสร้างขององค์กรยังไม่พร้อม บุคลากรยังขาดองค์ความรู้ ข้อมูลกระจัดกระจาย ไปจนถึงความเข้าใจผิดว่าแผนก IT เพียงแผนกเดียวต้องรับผิดชอบ เป็นต้น
ดร. อสมากล่าวว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น การทำ Data-Driven Transformation เป็นเรื่องของทุกๆ คน โดยทั้งองค์กรต้องเห็นตรงกันก่อนว่า ‘ทำไม’ องค์กรของเราถึงต้องเปลี่ยนแปลง ในขณะที่ผู้นำเองก็ต้องให้ความรู้และความเข้าใจ วาง Roadmap เพื่อเรียงร้อยโครงการเล็ก-ใหญ่ให้เชื่อมโยงกัน โดยสื่อสารกับพนักงานให้เข้าใจและคอยให้ความช่วยเหลือ ส่วนพนักงานเองก็ต้องให้ความร่วมมือ เปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ
เรียกได้ว่า Data-Driven Transformation จะประสบความสำเร็จได้ ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่าย
การปฏิรูปเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนในช่วงแรก แต่ถ้าหากทำสำเร็จแล้วจะมีข้อดีตามมามากมาย เช่น ลดการหวงแหนข้อมูลในองค์กร ลดการเก็บข้อมูลซ้ำซ้อน ปรับปรุงคุณภาพและจัดระเบียบข้อมูลให้มีความพร้อมใช้ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถเปลี่ยนมาใช้เครื่องมือในการทันสมัยมากขึ้น (เช่น จาก Excel เป็นโปรแกรม BI หรือ Cloud Computing) และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
แล้วจะเริ่มจากตรงไหน? องค์กรที่ต้องการเป็น Data-Driven Organization จำเป็นต้องเริ่มจาก 4 กระบวนการสำคัญ ได้แก่ การธรรมมาภิบาลข้อมูล (Data Governance), การบริหารจัดการข้อมูล (Data Management), การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics), และการพัฒนาองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Transformation)
ทางบริษัท คอราไลน์ จำกัด เองก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแบบครบวงจรเรื่อง Big Data โดยมีจุดมุ่งหมายในการช่วยให้ธุรกิจของลูกค้ามุ่งสู่ความสำเร็จ เพิ่มยอดขาย ลดรายจ่าย และลดเวลา ผ่านการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดย 4 บริการหลักๆ ของบริษัท คอราไลน์ นั้นได้แก่
1) การธรรมมาภิบาลข้อมูล (Data Governance)
บริการที่ปรึกษาในการจัดทำการธรรมาภิบาลข้อมูลที่ครอบคลุมตั้งแต่การเตรียมบุคลากร การวางมาตรฐาน รวมถึงการดูแลวางแผนให้เกิดการปฏิบัติจริง มีการติดตามวัดผล และปรับปรุง เพื่อช่วยให้องค์กรเลือกคณะทำงาน ระบบทำงาน และเทคโนโลยี ที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการบริหารและควบคุมข้อมูลในองค์กร
2) การบริหารจัดการข้อมูล (Data Management)
บริการจัดทำระบบศูนย์ข้อมูลเพื่อรวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายจากโปรแกรมต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นระเบียบในศูนย์กลางข้อมูล โดยศูนย์กลางนี้ยังมีการปรับปรุงข้อมูลแบบอัตโนมัติอีกด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ ได้มาตรฐาน และพร้อมใช้งาน
3) การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
บริการจัดทำระบบวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยกระบวนการทางวิทยาการข้อมูล (Data Science) เพื่อให้ได้ข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ในปัจจุบันและแนวโน้มสิ่งที่จะเกิดในอนาคต และนำไปใช้ในวางแผนดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจ
4) การพัฒนาองค์กรให้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Transformation)
บริการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ ออกแบบ และดำเนินการพัฒนาองค์กร ทั้งในด้านเทคโนโลยีและกระบวนการทำงาน เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาให้เป็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จได้ โดยการขับเคลื่อนโดยข้อมูล
ทั้ง 4 บริการนี้ครอบคลุมทั้ง Eco System ของ Big Data โดยองค์กรที่ต้องการเป็น Data-Driven Organization จำเป็นต้องผ่านกระบวนการทั้งหมดนี้มาก่อน
ปัจจุบันเราเห็นเทคโนโลยี AI และ Machine Learning ใหม่ๆ เปิดตัวตลอดเวลา ตั้งแต่ GEN AI มาจนถึง GPT-4 และการพัฒนาจะไม่หยุดแค่นั้น ในอนาคตจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย องค์กรใดที่ปรับตัวเร็วและเรียนรู้ที่จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์จะได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมาก แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ องค์กรต้องเริ่มต้นจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบตั้งแต่วันนี้ จึงจะพร้อมก้าวสู่ความสำเร็จได้เมื่ออนาคตมาถึง
ฟังบทสัมภาษณ์ ดร. แป้ง อสมา กุลวานิชไชยนันท์ CEO และ Co-Founder บริษัท คอราไลน์ จำกัด ในเรื่อง ธุรกิจจะปรับตัวอย่างไร ในวันที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น? ได้ที่ : https://youtu.be/BZDAOgek8o0
อ่านรายละเอียดบริการด้าน Big Data Solution จากบริษัท คอราไลน์ ได้ที่ https://www.coraline.co.th/
Mission To The Moon x Coraline
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
อ้างอิง
https://bit.ly/3mO4VZw
https://bit.ly/41LWxIJ
https://bit.ly/3MZ7pij
https://bit.ly/3N2y3GZ
https://bit.ly/3KX5EiV
https://bit.ly/3KNZAt2