Mission To The Moon X Robinhood Travel
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน หรือภาคธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ต่างต้องหยุดชะงักและปรับตัวไปตามๆ กัน
ซึ่ง ‘ธุรกิจโรงแรมและที่พัก’ ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่น้อย เพราะทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในเวลาไม่นาน ผู้ประกอบการต้องคอยรับมือกับโรคระบาดที่ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ไม่มีแม้แต่นักท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือถึงมีก็มีจำนวนไม่มาก เมื่อคนไม่เที่ยวก็ทำให้ยอดจองห้องพักน้อยลงไปด้วย ส่วนห้องที่จองเข้ามาบ้างแล้วก็ยังคงต้องเสียค่าคอมมิชชันผ่านแพลตฟอร์มที่โรงแรมส่วนใหญ่ใช้ในการขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ หรือที่เรียกว่า ‘OTA’ ช่องทางที่กลุ่มนักท่องเที่ยวนิยมใช้มากกว่าการจองกับโรงแรมโดยตรง จึงอาจทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดนแช่แข็งไปโดยปริยาย
รู้จัก ‘OTA’ ผู้ช่วยบริหารจัดการธุรกิจที่พักในยุคดิจิทัล
‘OTA’ หรือ ‘Online Travel Agent’ ตัวกลางออนไลน์ระหว่างนักท่องเที่ยวกับธุรกิจที่พัก ที่รวบรวมที่พักหลากหลายแห่ง พร้อมบริการแบบ ‘One Stop Service’ ที่สามารถเปรียบเทียบราคา เลือกสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการได้ และยังครอบคลุมการจอง การซื้อแพ็คเกจเสริม การจ่ายเงิน–คืนเงิน ตลอดจนการบริการหลังการขายอีกด้วย
อย่างที่ทราบกันว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวมีตัวเลือกมากมาย เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการแข่งขันสูง ไหนจะการเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทำให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างไปจากเดิม ดังนั้น บรรดาผู้ประกอบการท่องเที่ยวจึงต้องหันมาพึ่งช่องทางการขายห้องผ่านตัวกลางในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้การจองที่พักและซื้อแพ็คเกจต่างๆ ผ่าน OTA ได้รับความนิยมมากกว่าการจองกับโรงแรมโดยตรง เพราะให้ทั้งความสะดวกรวดเร็ว ช่วยสร้างความมั่นใจว่าจะได้ห้องพักหรือสิทธิพิเศษต่างๆ และหากมีปัญหาใดๆ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดูแลได้
แต่ทว่า ‘ธุรกิจ OTA’ อาจไม่สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจท่องเที่ยวมากเท่าที่ควร เพราะผู้ประกอบการต้องแบกรับค่า Commission ที่บางที่เรียกเก็บสูงถึง 40% ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องยอมสละรายได้ส่วนนี้เพื่อแลกกับการตัดสินใจเข้าพักของกลุ่มนักท่องเที่ยว ไหนจะปัญหาเงินเข้าช้าไม่สามารถนำมาหักลบต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ทันเวลา หรือการขาดช่องทางประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงอีกด้วย
นอกจากนี้ โรงแรมขนาดเล็กมีอำนาจต่อรองน้อยกว่าโรงแรมขนาดใหญ่ ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ยิ่งสร้างภาระและปัญหาให้ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการรายเล็ก–รายใหญ่ไม่น้อย บางที่แบกรับไม่ไหวก็ต้องตัดสินใจปิดชั่วคราว ซึ่งไม่รู้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไร ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือการตัดสินใจปิดตัวลงไปอย่างถาวร
แล้วภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะไปต่ออย่างไรดี?
ถึงแม้ว่าวิกฤตโควิด-19 ดูเหมือนจะคลี่คลายไปบ้างแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีน รัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากขึ้น แต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ไหนจะสายพันธุ์ใหม่อย่าง ‘โอไมครอน’ ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ และอีกหลายสายพันธุ์ที่กำลังเกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงอาจจะเป็น ‘เรื่องยาก’ ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ในเร็ววันนี้
ท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ ไม่มีอะไรสำคัญและยิ่งใหญ่ไปกว่าการที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยกันคนละไม้คนละมือ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าธุรกิจ OTA ส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการเลือกใช้ล้วนเป็นของต่างประเทศทั้งนั้น ถึงแม้นักท่องเที่ยวไปเข้าพักมากแค่ไหน ธุรกิจท่องเที่ยวก็ได้รับรายได้ไม่คุ้มทุนเพราะมีค่าเสียโอกาสต่างๆ ที่ต้องจ่ายไปให้กับตัวกลาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ได้มีแอปฯ OTA ใหม่ ที่สร้างและพัฒนาจากคนไทย เพื่อโรงแรมไทยโดยเฉพาะ กับแอปฯ ‘Robinhood Travel’ ที่สร้างทางรอดและโอกาสให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในไทยโดยตรง
‘Robinhood’ จาก Food Delivery สู่แอปฯ OTA
หากพูดถึง Robinhood เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักและเคยใช้บริการกันมาบ้างแล้ว ถึงแม้จะเป็น Food Delivery น้องใหม่ แต่กลับเป็นที่รู้จักและถูกพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง ซึ่ง Robinhood เป็นแอปฯ สัญชาติไทยจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อคนไทย ที่ต้องการช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค อยากให้คนไทยมีค่าครองชีพที่ถูกลง โดยเฉพาะการใช้บริการ Food Delivery ที่มีความจำเป็นและมีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยแอปฯ ดังกล่าว ไม่มีการคิดค่าคอมมิชชันใดๆ ดังนั้น ร้านอาหารได้รับเงินเต็มจำนวน และลูกค้าก็จ่ายค่าอาหารและค่าส่งตามจริง
และเมื่อไม่นานมานี้ Robinhood ก็ได้มี Next Step ไปอีกขั้นกับการพัฒนาแอปฯ ‘Robinhood Travel’ แอปฯ OTA ใหม่สำหรับโรงแรมไทย ที่ตั้งใจพัฒนาและทำให้เป็น ‘แพลตฟอร์มเพื่อสังคม’ หรือ ‘Platform of Kindness’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยให้ฟื้นตัวสามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ด้วยการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยไม่ต้องแบกรับต้นทุนจากการใช้ตัวแทนขายห้องพักผ่านช่องทางออนไลน์ โดยสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปทำโปรโมชันอื่นๆ ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวแทน
“เมื่อผู้ประกอบการมีรอยยิ้ม
ก็สามารถส่งต่อรอยยิ้มและความสุขให้ลูกค้าได้อย่างเต็มที่”
แล้ว Robinhood Travel มีจุดเด่นอย่างไร?
‘Robinhood Travel’ แอปฯ OTA สัญชาติไทย ที่รวบรวมทุกบริการอย่างครบวงจร (All-In-One) ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นการจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า แพ็คเกจต่างๆ และประกันภัย ซึ่งในเฟสแรกที่จะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ จะมีเฉพาะการจองที่พักก่อน และบริการอื่นๆ จะเปิดให้บริการในเฟสถัดไป สำหรับสิ่งที่ทำให้ Robinhood Travel นั้นแตกต่างกับ OTA เจ้าอื่นก็คือ
[ ] ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าคอมมิชชัน (0% Commission)
[ ] ผู้ประกอบการจะได้รับเงินภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากที่ลูกค้าเช็กเอาต์
[ ] แอปฯ มีสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์เพิ่มการเข้าถึงอย่างต่อเนื่องทุกแพลตฟอร์ม
[ ] แอปฯ มีบริการ Partner Care Center ตลอด 24 ชั่วโมง
[ ] แอปฯ ทำ Digital Marketing ส่งข้อมูลและฟีดแบ็กต่างๆ เพื่อให้โรงแรมสามารถทำ Promotion ให้กับลูกค้าในอนาคต
ในตอนนี้มีโรงแรมเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์แล้วกว่า 10,000 แห่ง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีไม่น้อยสำหรับโรงแรมในไทยตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ในการฟื้นฟูและกลับมาคึกคักได้เหมือนเดิมในเร็ววันนี้
สนใจเป็นพาร์ตเนอร์กับ ‘Robinhood Travel’ ทำอย่างไร?
ขั้นตอนการสมัครเป็นพาร์ตเนอร์กับ Robinhood Travel มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
1. คลิกลิงก์ https://bit.ly/3tsnXWj เพื่อสมัคร อ่านเงื่อนไขและกดยอมรับ
2. กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนและกดยืนยันอีเมลเพื่อเข้าสู่ระบบ
3. อัปโหลดเอกสารการสมัครและรอระบบอนุมัติ
4. เตรียมพร้อมขายห้องพักที่ Robinhood Travel ได้เลย
สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม–ที่พัก ที่สนใจอยากร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ Robinhood Travel สามารถลงทะเบียนได้ที่: https://bit.ly/3tsnXWj หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-777-7564