ทุกคนเคยมีบาดแผลจากการใช้ชีวิตกันบ้างไหม?
ในสังคมปัจจุบันที่พวกเราทุกคนกำลังใช้ชีวิตกันอยู่นั้น เราทุกคนต่างก็กำลังเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ลืมตาตื่นเช้ามาดูนาฬิกาก็พบว่าตื่นสาย รีบอาบน้ำ รีบแต่งตัวไปทำงาน ฝ่ารถติดและฝูงผู้คนนับร้อยเพื่อไปสแกนนิ้วให้เข้างานได้ทันเวลาจนไม่มีเวลากินข้าว อาหารเช้ากับเที่ยงรวบเป็นมื้อเดียวกัน พยายามเร่งรีบทำงานให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปนัดกินข้าวกับเพื่อนฝูงที่ไม่รู้เรียกว่าสนิทได้หรือไม่ กว่าจะได้กลับบ้านก็ดึกดื่น แล้วตื่นสายอีกวัน เป็นอย่างนี้วนอยู่ร่ำไป โดยไม่รู้เลยว่าจะสามารถหลุดออกจากวงจรอุบาทว์นี้ได้เมื่อไหร่กันแน่
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นเพียงตัวอย่างของการใช้ชีวิตการทำงานภายในหนึ่งวันเท่านั้น ซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังมีแรงกดดันจากสังคมอีกมากมาย ที่คอยตั้งค่านิยมแห่งความสำเร็จให้ผู้คนมากมายต้องวิ่งตาม ไม่ว่าจะเป็นการมีเงินล้านก่อนอายุ 25 การลาออกจากงานประจำมาเป็นเจ้านายตัวเอง ไปจนถึงการแต่งงานมีบ้านมีครอบครัวสุขสันต์ โดยที่ไม่รู้เลยว่า “ความสำเร็จ” เหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่ใช้ชีวิตให้สำเร็จทำตามนี้แล้วละก็ มันก็จะสร้างบาดแผลอันยิ่งใหญ่ภายในจิตใจ ที่บอกว่าเราเป็นคนล้มเหลวในการใช้ชีวิต
และเมื่อเราถูกตราหน้าว่าเป็นคนล้มเหลวของสังคม มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ที่จะรู้สึกอับอายจนพยายามหลบซ่อนบาดแผลภายในใจเหล่านี้ไม่ให้คนรอบข้างได้รับรู้ โดยบางคนอาจจะหลบซ่อนมันไว้หลังคำโกหก เสียงหัวเราะ หรือแม้กระทั่งรอยยิ้มก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีปรัชญาหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่นที่ไม่ได้ตอบรับต่อค่านิยมดังกล่าว พวกเขาไม่เชื่อว่าบาดแผลภายในใจทั้งหลายของเรานั้น คือเครื่องหมายที่ตอกย้ำความล้มเหลว แต่ปรัชญานี้กลับเชื่อว่า บาดแผลทั้งหลายของเราไม่ว่าจะบนร่างกายหรืออยู่ในใจนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าอับอาย แต่มันคือสิ่งสวยงามของชีวิตต่างหาก โดยปรัชญานั้นมีชื่อว่า “คินสึงิ” นั่นเอง
คินสึงิ ศาสตร์ของการเปลี่ยน “รอยร้าว” เป็น “ลวดลาย”
“คินสึงิ (金継ぎ)” แต่ดั้งเดิมนั้นก็คือ วัฒนธรรมและศาสตร์ของการซ่อมแซมภาชนะที่แตกบิ่นเสียหายของชาวญี่ปุ่นที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน โดยศาสตร์แห่งการซ่อมแซมนี้ก็ไม่ใช่การซ่อมเพื่อทำให้ภาชนะกลับคืนมาสู่สภาพเดิมเฉยๆ เท่านั้น แต่เป็นการซ่อมแซมยึดแนวคิดที่สะท้อนถึงแนวคิดอันโด่งดังที่มีชื่อว่า วะบิ-ซะบิ (wabi-sabi) ที่กล่าวถึงการยอมรับตัวตนและความผิดพลาดภายในความเรียบง่ายไม่สมบูรณ์แบบ โดยวิธีการซ่อมแซมนั้น คือการนำยางรักมาอุดช่องว่างหรือร่องรอยการแตกของภาชนะ จากนั้นนำผงทองมาทาไว้ที่ผิว จนเกิดเป็นร่องรอยที่สวยงามอันเกิดขึ้นจากการแตกสลายที่เราควบคุมไม่ได้นั่นเอง
ถ้าย้อนไปสู่รากเหง้าของปรัชญานี้ ต้องย้อนไปไกลถึงช่วงศตวรรษที่ 15 เมื่อโชกุน อาชิกางะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ได้ทำการส่งถ้วยชาแตกไปซ่อมที่ประเทศจีน แต่ว่าถ้วยชาที่ซ่อมแซมกลับมานั้นกลับดูน่าเกลียดกว่าเดิมด้วยวิธีการซ่อมแซมแบบใช้ลวดเย็บตามรอยแตกของถ้วยชา ช่างฝีมือญี่ปุ่นจึงได้คิดค้นวิธีการซ่อมแซมแบบใหม่ด้วยการนำยางรักที่สกัดจากต้นอุรุชิมาผสมกับทอง ก่อนจะนำมาเชื่อมชิ้นส่วนที่แตกร้าวของถ้วยชาเข้าด้วยกัน กลับกลายเป็นถ้วยชาที่มีลวดลายสวยงามกว่าเดิม และเรียกวิธีการนี้ว่า ‘คินสึงิ’ ซึ่ง ‘คิน’ แปลว่าทอง ส่วน ‘สึงิ’ แปลว่าเชื่อม
ดังนั้น ‘คินสึงิ’ จึงได้พัฒนากลายมาเป็นปรัชญาการใช้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่บอกว่าบาดแผลทั้งหมดในชีวิตนั้นคือความสวยงาม เพราะฉะนั้นทุกคนจึงควรที่จะเรียนรู้และยอมรับความผิดพลาดให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สวนทางกับเทรนด์การใช้ชีวิตแบบปัจจุบันที่เชิดชูแค่ความสำเร็จ แต่ไม่เหลือที่ยืนให้กับคนที่ผิดพลาด กระทั่งตราหน้าพวกเขาว่าเป็นผู้แพ้ของสังคม
เพราะจิตใจของมนุษย์เองก็ไม่ต่างจากถ้วยชามที่แตกสลาย ถ้าหากเกิดบาดแผลใดๆ ก็สมควรที่จะได้รับการเยียวยาสมานแผลอย่างทะนุถนอม รวมถึงเปลี่ยนความหมายของร่องรอยบาดแผลเหล่านั้นให้กลายเป็นลวดลายที่สวยงามที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เป็นเหมือนกับสีสันในชีวิตที่ช่วยให้เราทุกคนนั้นเติบโตขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งและสวยงามนั่นเอง
ยอมรับและให้อภัยแต่บาดแผล คือหนทางของการเติบโต
หลังจากที่เรารู้แล้วว่าแท้จริงแล้ว ความผิดพลาดหรือบาดแผลภายในจิตใจของเรานั้น ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายที่ควรหลบซ่อน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ทุกคนนั้นสามารถพลิกทัศนคติและนำหลักการของ คินสึงิ เข้ามาในชีวิตให้ยอมรับต่อบาดแผลและความผิดพลาดของตนเองได้ภายในทันที
ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนนั้นสามารถเริ่มค่อยๆ ปรับความคิดตัวเองให้เข้ากับปรัชญา คินสึงิ อย่างค่อยเป็นค่อยไป ลองมาเรียนรู้ถึงวิธีการ “ยอมรับ” และ “ให้อภัย” ต่อความผิดพลาดและบาดแผลในชีวิตของตัวเองได้ ด้วยหลักการทั้ง 4 ขั้นตอนต่อไปนี้
1. มีความรับผิดชอบ (Resposibility) ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและอย่าใจร้ายกับตัวเองมากนักเลย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบและไม่เคยทำผิดพลาด ขอเพียงแค่ว่าเรามีความรับผิดชอบต่อการกระทำของเรา
2. มีความสำนึกผิด (Remorse) ใช้ความรู้สึกผิดและความสำนึกผิดนี้เป็นประตูสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราให้ดีขึ้น เพื่อที่ว่าเราจะไม่ได้ทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกครั้งในอนาคต
3. มีการเยียวยาความผิด (Restoration) ถ้าเกิดเราทำผิดพลาดอะไรลงไปที่สร้างผลกระทบให้กับใคร ก็ควรที่จะไปแสดงการขอโทษอย่างจริงใจ รวมถึงมีการชดใช้ให้กับเขาคนนั้นถ้าเราสามารถทำได้
4. มีการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง (Renewal) เรียนรู้จากประสบการณ์ ความผิดพลาด และบาดแผลต่างๆ ในชีวิต เพื่อที่ว่าเราจะได้เติบโตไปได้อย่างสวยงามในแบบฉบับของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ที่ทำผิดพลาดจนเกิดเป็นแผลภายในจิตใจ แต่เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับความผิดพลาดนั้นเพียงคนเดียว ขอเพียงแค่ว่าเรามีเพื่อนสนิท คู่รัก หรือครอบครัวที่เราไว้ใจได้อยู่เคียงข้าง ก็จะทำให้เราสามารถก้าวข้ามบาดแผลต่างๆ ในชีวิตของเราไปได้อย่างสวยงาม ซึ่งนั่นคือสิ่งที่แบรนด์เจลลดรอยแผลอย่าง Puricas (เพียวริก้าส์) ทำให้คนไทยมาตลอด 10 ปี และตั้งใจจะทำต่อไปเรื่อยๆ อย่างสุดความสามารถ อีกนานเท่านาน
Puricas (เพียวริก้าส์) คือแบรนด์ไทย ผู้บุกเบิกตลาดของการลดรอยแผลเป็น ด้วยสารสกัดที่แตกต่างจากตลาดตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ อย่างสารสกัดจากต้น Dragon’s Blood จากประเทศสเปน ที่เป็นศาสตร์การรักษาที่มีตั้งแต่ยุคสมัยของชาวอินคาเพื่อการสมานแผลต่างๆ และบำรุงผิวพรรณ นำมาพัฒนาจนเป็นนวัตกรรมการดูแลรอยแผลเป็นที่ทุกคนขนานนามว่า “เจลในตำนานสู่ตำรารักษารอยแผลเป็นทุกประเภท” ที่คนใช้จริง 98% พึงพอใจ และแนะนำอย่างต่อเนื่องมาตลอด จนมียอดขายอันดับ 1 ที่ Watsons และร้านยาชั้นนำ และยังเป็นที่นิยมในร้านค้าชั้นนำอย่าง Boots Eveandboy Beautrium และช่องทางออนไลน์มาตลอด 10 ปี
Puricas จึงเป็นเหมือนกับ “เพื่อนแท้ของทุกรอยแผลเป็น” ที่คอยช่วยให้คนไทยมีความมั่นใจ แม้ร่างกายจะมีรอยแผลเป็น ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาทั้งแผลเป็นบนเรือนร่างแล้วนั้น Puricas ก็ยังช่วยบรรเทาแผลในใจ เพราะแผลกายได้รับการลดเลือนนั่นเอง
นอกจากนี้ Puricas ก็ตั้งใจจะเป็นเพื่อนแท้ในทุกรอยแผลให้กับคนไทยทุกคนต่อไป ด้วยนวัตกรรมเอกสิทธิ์ล่าสุดอย่าง ScarZero ผ่านการผสมผสานพลังจากธรรมชาติอย่างสารสกัดเข้มข้น Dragon’s Blood Complex ที่ผ่านกระบวนการ Encapsulation ช่วยคงคุณภาพของสารสกัดให้ซึมเข้าสู่ผิวอย่างตรงจุด ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทุกคนและอยู่เคียงคู่ทุกรอยแผลตลอดไปเหมือน “เพื่อนแท้” ในรูปแบบของยาสามัญประจำแผล ที่ไม่ว่าจะหยิบมาใช้เมื่อใดก็ไม่ผิดหวังแน่นอน
เจลลดรอยแผลเป็น Puricas ตอนนี้วางขายอยู่ที่ Watsons, Boots, Eveandboy, BEAUTRIUM, และร้านยาชั้นนำ รวมถึงทุกช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีขนาดพกพา ใน 7-11
หากผู้ใดอยากศึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website: https://www.puricas.net/
Facebook: https://web.facebook.com/puricas
ที่มา:
– How the Japanese art of Kintsugi can help you deal with stressful situations : Tiffany Ayuda, NBC – http://bit.ly/3Oam4pm
– What is the Kintsugi ? Discover its history, its technique and its symbols : Espirt – http://bit.ly/3V3gZ4f
– Kintsugi: the art of precious scars : Stefano Carnazzi, Lifegate – http://bit.ly/3UYDdEx